3 ก.พ. 2021 เวลา 03:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
#รอบรู้การเงิน | #ให้เงินทำงาน by BHORNDEB
ให้เงินทำงาน by BHORNDEB
สวัสดี ชาว Blockdit ทุกท่านนะครับ ผมเองก็เป็นนักศึกษาคนหนึ่งที่สนใจด้านการลงทุน และอยากแชร์ประสบการการลงทุนของตัวเอง เพื่อเป็นแนวทางหนึ่งในการเรียนรู้การลงทุน ซึ่งมีความตั้งใจว่าจะมารายงานผลการลงทุนทุกสิ้นเดือนของแต่ละเดือนในช่วงวันอังคาร-วันพฤหัสบดีแรกในเดือนถัดไปผ่านทาง Blockdit ครับ
ข้อมูลทั่วไป
เริ่มแรกเลยคือเราต้องสำรวจตัวเองว่าเรามีเป้าหมายอะไรที่อยากจะลงทุน ตัวผมเองนั้นมีโอกาสได้เรียนวิชาทั่วไปวิชานึงตอนขึ้นปี 2 ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจ และได้ทำความรู้จักกับคำว่า “เงินเฟ้อ”
2
เงินเฟ้อ คือ การที่ต้นทุนของสิ่งต่าง ๆ สูงขึ้น อาจเกิดจากความต้องการใช้เครื่องอุปโภค บริโภคมากขึ้น ทำให้สิ่งของต่าง ๆ แพงขึ้น
ซึ่งอัตราเงินเฟ้อของประเทศไทยจะอยู่ที่ประมาณ 3% ต่อปี (บางปีอาจจะไม่ถึง) เราลองสมมุติว่าทางการจะประกาศเงินเฟ้อของประเทศไทยอยู่ที่ 3% ทุกปี เมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี เท่ากับมูลค่าของเงินนั้นลดลงไปถึง 30% หากเรามีเงินเก็บ 10,000 บาท โดยไม่ได้นำไปใช้ทำอะไรเลย อีก 10 ปีข้างหน้ามูลค่าของเงิน 10,000 บาทจะเทียบเท่ากับเงิน 7,000 บาทในปัจจุบัน
ดังนั้นเราจึงมีความจำเป็นที่จะนำเงินส่วนนี้ให้สามารถรักษามูลค่าของมันไว้ หรืออาจจะทำให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น ซึ่งการนำเงินไปฝากธนาคารเพื่อรับดอกเบี้ย 0.5-2% ต่อปีไม่เพียงพอต่อการชนะเงินเฟ้อได้ จึงควรนำเงินไปลงทุน และโดยที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าหากเรายังอยู่กับรัฐบาลแบบนี้ ก็ไม่รู้เช่นกันว่าในอนาคตการเงินของเราจะเป็นอย่างไร คนเราก็มีลิมิตในการทำงาน หรือเกษียณอายุ ดังนั้นการลงทุนจึงสามารถใช้เป็นเงินในยามเกษียณของเราได้
1
สถานะทางการเงิน
เมื่อเรามีเป้าหมายที่อยากจะลงทุน เราเองก็ควรจะมี 3 สิ่งนี้ นั่นคือ “เงิน” “ความรู้” และ “โอกาส(ที่เหมาะสม)”
เงินที่ใช้ในการลงทุนนั้นควรเป็นเงินเย็น หรือเงินที่ไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้ในระยะเวลานั้น อาจจะเป็นช่วง 1-3 ปีก็ได้ ซึ่งเงินเหล่านี้ก็คือเงินที่ได้จาก รายรับ - ค่าใช้จ่าย = เงินออม เพื่อใช้ในการลงทุน หรือหากเราอยากมีเงินเหลือเก็บก็สามารถลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้ และกำไรที่เราได้จากการลงทุนก็สามารถเงินที่ต่อยอดการลงทุนของเราได้
ในส่วนของความรู้และโอกาสจะมาแนะนำในบทความต่อไปในช่วงวันอังคาร-วันพฤหัสบดีทุกอาทิตย์นะครับ
เป้าหมายการลงทุน
สำหรับเป้าหมายการลงทุนของแต่ละคนนั้นอาจจะไม่เหมือนกัน อาจจะอยากได้เงินจากการเก็งกำไรไปซื้อของที่อยากได้ หรืออยากได้เงินปันผลเป็นค่าใช้จ่ายทั่วไป ก็ลองปรับเปลี่ยนไปแต่ละบุคคล
แผนการลงทุน
รูปแบบการลงทุนนั้นมีหลากหลายรูปแบบมาก ไม่ว่าจะเป็น เงินฝาก กองทุนรวม หุ้น พันธบัตร ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ ประกันชีวิต อัตราแลกเปลี่ยน อนุพันธ์ และอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่เรารับได้ และจะต้องมีความรู้ก่อนเข้าไปลงทุน หรืออาจจะศึกษาควบคู่ไปกับการลงทุนก็ได้(เช่นเดียวกับผู้เขียน) และรวมไปถึงความสามารถรับความเสี่ยงต่อการลงทุนได้มากน้อยเพียงใด เพราะการลงทุนนั้นย่อมมีทั้งได้กำไรและขาดทุนเช่นเดียวกัน
สำหรับพอร์ตการลงทุนของเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ของผู้เขียนจะประกอบไปด้วย
🔹เงินฝาก 10% เพื่อเป็นเงินสำรองสำหรับการลงทุน หรือ ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในช่วงฉุกเฉิน
🔸กองทุนรวม 20% เพื่อให้เงินของเรานั้นมีการเติบโต โดยผมจะเลือกกองทุนรวมแบบผสมเพื่อกระจายความเสี่ยง
🔹หุ้น 70% เพื่อเก็งกำไรระยะสั้นส่วนนึง และเน้นเงินปันผลจากผลประกอบของของบริษัทในแต่ละปี ครึ่งปี หรือแต่ละไตรมาส
🔸อื่น ๆ 0% ในที่นี้จะหมายถึงทองคำ ประกันชีวิต อสังหาริมทรัพย์เป็นต้น ซึ่งตัวผมเองยังไม่พร้อมลงทุนในส่วนนี้ มีเพียงประกันชีวิตที่ทางมหาวิทยาลัยได้จัดสรรไว้ให้ เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง หรือรักษามูลค่าของเงินในรูปแบบสินทรัพย์ทางเลือก
1
ซึ่งการจัดทำพอร์ตการลงทุนของแต่ละคนสามารถแตกต่างไปจากนี้ได้จากสิ่งที่เราสนใจ ความสามารถในการรับความเสี่ยง อาจจะมีสัดส่วน เงินฝาก : กองทุนรวม : หุ้น : อื่น ๆ เป็น 25% : 25% : 25% : 25% หรืออาจจะลงทุนในกองทุนรวมเพียงอย่างเดียวก็ได้
THANK YOU
ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบนะครับ ผลการลงทุนเดือนนี้จะเป็นอย่างไรในช่วงวันอังคาร-วันพฤหัสบดี ของต้นเดือนหน้าจะมารีวิวให้ดูนะครับ
หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ หรือสามารถแจ้งส่วนที่ผิดไว้ได้เลยนะครับ ผู้เขียนจะรีบแก้ไขให้ครับ
กดติดตามเพื่อรับความรู้อื่น ๆ เพิ่มเติมได้เลยนะครับ 😁
BHORNDEB

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา