3 ก.พ. 2021 เวลา 04:37 • ประวัติศาสตร์
ผู้ที่เกิดมาเพื่อเป็นตำนาน และผู้ที่กล้าพูดว่าตัวเองนั้นเป็น "เกย์" พูดถึงชายที่เป็นราชนีเพลงร๊อค ผู้เป็นตำนานอย่าง Freddie Mercury ผู้ที่ผลิตผลงานที่เป็นที่ อยู่เหนือการเวลาผ่านมาเกือบจะ 50 ปี บทเพลงของเขายังคุ้นหูมาจนถึงปัจจุบัน
Farrokh Bulsara หรือ Freddie Mercury เกิดเมื่อวันที่ 5 กันยายน 1946ที่เมือง สโตนทาวน์ หมู่เกาะ Zanzibar (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นประเทศ แทนซาเนี่ย ) ครอบครัวของเฟรดดี มี 4 คน พ่อ แม่ เฟรดดี และ น้องสาว 1 คน เฟรดดีได้รู้จักกับดนตรีครั้งแรกเมื่อเขาลงเรียนคอร์สเปียโน และได้เข้าเรียนที่โรงเรียน St.Peter’s ซึ่งเป็นโรงเรียนชายล้วน ระแวกเมือง Mumbai ควบคู่ไปกับการเรียนดนตรี และในช่วงนี้เองที่เฟรดดีได้เปลี่ยนชื่อจาก ฟารุค เป็น เฟรดดี
เมื่ออายุ 17 ปี เฟรดดีได้ออกจากโรงเรียนเนื่องจากเขาสอบไม่ผ่านในระดับชั้นเกรด 10 จำทำให้เฟรดดีต้องย้านกลับมาอยู่ที่บ้านเกิดเมื่ออยู่ได้ไม่นานก็ได้มีการปฎิวัติทางการเมืองเกิดขึ้น จึงทำให้เฟรดดี้และครอบครัวได้ย้ายถิ่งฐานมาอยู่ที่ประเทศอังกฤษ เนื่องจากพ่อของเขาที่เป็นหัวหน้าครอบครัวในขณะนั้น ได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน อยู่ที่สำนักงาน British Colonial Office หรือสำนักงานอาณานิคมแห่งราชอาณาจักร จากนั้นเฟรดดีเลยได้เข้าเรียนต่อที่ Ealing Art College เป็นโรงเรียนสอนสายอาชีพทางด้านศิลปะ เมื่อจบการศึกษา เฟรดดี ได้เข้าทำงานที่สนามบิน Heathrow ตำแน่งงานเจ้าหน้าที่ขนกระเป๋าของสายการบิน British Ariway
จนเมื่อมาถึงอายุ 23 ปีหรือช่วงปี 1969 เฟรดดีเข้าร่วมกับวงดนตรีที่มีชื่อว่า “ไอบิค” และได้เปลี่ยนชื่อว่า “เร็คเกรช” เฟรดดีได้ออกจากวงเนื่องจากมีปัญหา จึงได้ย้ายไปอยู่ในวงที่มีชื่อว่า “sour milk sea” เมื่อเฟรดดี เข้ามาอยู่ไม่ถึงปี นักร้องนำของวงก็ได้ออกจากวงไป จึงทำให้เฟรดดี ได้คว้าโอกาสการเป็นนักร้องนำในวง และได้เปี่ยนชื่อวงดนตรีใหม่เป็น “Queen” ในปี 1970 จึงทำให้ Queen ได้เปิดรับสมัครมือเบส จนปี 1971 ก็ได้มือเบสของวงจึงทำให้ได้ 4 คนผู้ที่เป็นตำนานเพลงร๊อคมาจนถึงทุกวันนี้ได้แก่ Freddie Mercury นักร้องนำ Brian May มือกีต้า Roger Taylor มือกลองซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของ เฟรดดี และ John Deacon ผู้ที่เข้ามาเป็นสมาชิกคนสุดท้ายในวง ส่วนโลโก้ของวงนั้นมาจากผู้มากความสามารถทางศิลปะอย่าง เฟรดดี โดยเฟรดดีเองได้แรงบันดาลใจมาจากตราของสหราชอาณาจักรที่นำมาประยุกต์ใหม่แล้วสอนความหมายแทนตัวสมาชิกของวงเอาไว้
และในปี1973ได้ปล่อยอัลบั้มเปิดตัวที่มีชื่ออัลบั้มว่า Queen ในอัลบั้มความหลากหลายทั้งส่วนผสมของ ฮาร์ดร๊อค แกรม โปรเกรซซีป และบลู พรุ่งนี้ทั้งนั้นอัลบั้มแรกของพวกเขาอาจจะไม่เป็นที่รู้จักมากมาย จากนั้นวง ควีนได้เล่นดนตรีภายในประเทศอังกฤษเป็นระยะเวลาปีกว่า และทำทำอัลบั้มใหม่ไปด้วย และในช่วงนี้เองเฟรดดีได้ค้นพบว่าตัวเองเป็นเกย์ ทั้งๆที่ตอนนั้นกำลังจะแต่งงานกับแฟนสาว ที่คบหามาได้ 7 ปี และตัดสินใจประกาศให้แฟนเพลงรับรู้ว่าตนเป็นเกย์ (เรื่องราวชีวิตรักของเฟรดดี ผู้เขียนเองจะยกไว้เป็นบทความถัดไปเนื่องจากถ้าจะให้จบในบทความเดียวเกรงว่าจะยาวเกินไป)
หลังจากนั้นในปี 1974 อัลบั้ม ควีน ที่สองก็ถูกปล่อยตามมาหลังจากนั้นไม่นานและทำให้ฐานแฟนเพลงของวงแน่นขึ้นเรื่อยๆและได้ทำให้วงควีนได้มีโอกาสไปเล่นที่ สหรัฐอเมริกาและปลายปี 1974 ก็ได้ปล่อยอัลบั้มใหม่ที่มีชื่อว่า“sheer heart attack”
 
ปี 1975 ก็ได้ปล่อยอัลบั้ม “a night at the opera” อัลบั้มนี้มีเพลงดังอย่างเพลง “Bohemian Rhapsody” จากนั้นทำให้วง ควีนเป็นที่นิยมมาก และในปลายปี 1976 ก็ได้ปล่อยอัลบั้ม “a day at the races”
1
ต่อมาในปี 1977 ก็ได้ปล่อยอัลบั้ม “new of the world” ซึ่งอัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่รวมเพลงระดับตำนานไว้ทั้ง 2เพลง อย่าง “we will rock you”, “we are the champions” หลังจากวงควีนประสบความสำเร็จอย่างมาก วงควีนก็ยังคงปล่อยผลงานต่อเนื่องตลอดยุค 80s’ อย่าง “Jazz” ปี 1978 “The Game” ปี 1980 “Flash Gordon” ปี 1980 “Hot Space” ปี 1982 หลังจากการปล่อยอัลบั้ม Hot Space ไป วง ควีนได้แยกย้ายกันไปและกลับมาอีกครั้งในอัลบั้ม “The Works” ปี 1984 “A kind of magic” ปี1986 “The miracle” ปี1989 “Innuendo” ปี1991
ย้อนไปในปี 1985 เฟรดดีได้แยกตัวออกมาทำอัลบั้มเดี่ยวในปีนั้นโดยมีชื่ออัลบั้มว่า Mr. Bad Guy ที่มีลักษณะเป็น ป๊อบแดนซ์ ร๊อค แล้วมีกลิ่นของดิสโก้ผสมอยู่ด้วย รวมถึงมีอัลบั้มเดียวต่อมายัง Barcelona ในปี 1988 ผลงานการเขียนเพลงมากกว่า 70%
ปี 1987 เฟรดดี มีอาการล้มป่วยลงเขาจึงได้ไปเข้าตรวจร่างกายแล้วก็พบว่าตนเองติดเชื้อเอชไอวี แต่ผลการตรวจนั้นก็ยังไม่ปักใจเชื่อมากนักเฟรดดีก็เก็บเรื่องนี้ไว้แค่ตัวคนเดียว แม้แต่เพื่อนหรือน้องสาวก็ไม่ทราบ จนกระทั่งมาถึงปี 1989 เฟรดดี ตัดสินใจเข้าตรวจอีกครั้ง เฟรดดีห้องตรวจโดยการนำตัวอย่างชิ้นเนื้อจากผิวหนังบริเวณไหล่ซ้ายไปวินิจฉัย แต่ก็กลับได้คำตอบเดิมว่าตนเองติดเชื้อเอชไอวี
 
ด้วยโรค HIV ในช่วงยุกนั้นเป็นโรคใหม่ที่ระบาทอย่างหนักโดยเฉพาะกลุ่มชายรักชาย และยังไม่มียาต้านโรค ตามข้อมูลโดยทั้วไปนั้น Jim Hotton แฟนหนุ่มของเฟรดดีได้ยอมรับว่า เฟรดดีน่าจะติดเชื้อจากเขา แต่หลายๆฝ่ายก็ยังเชื่อว่าเฟรดดี อาจจะติดเชื้อมาก่อนหน้านั้นแล้ว เนื่องจาก เฟรดดีมีนิสัยส่วนตัวเป็นนักท่องราตรี ชอบปาร์ตี้ เฟรดดีมักจะเข้าไปยังทางด้านหลังของบาร์เพื่อมองหา ชายที่อยากจะปาร์ตี้สุดเหวี่ยงไปกับเขาในคืนนั้น
1
ต่อไปเป็นการพูดถึงเรื่องราวชีวิตรักของนักปาร์ตี้อย่าง Freddie Mercury ในบทความถัดไป
โฆษณา