3 ก.พ. 2021 เวลา 04:16 • อาหาร
ช่วงปลายปีที่ผ่านมาได้มีโอกาสแวะเวียนไปทานโอมากาเซะที่ร้าน Sushi Saito Sora อีกครั้ง โดยคราวนี้เป็น Winter Course (4,000++) ซึ่งจะเน้นวัตถุดิบที่มีเฉพาะช่วงหน้าหนาวเป็นหลักครับ นี่เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่เราได้มาร้านนี้เพราะประทับใจในอาหาร บรรยากาศและฝีมือของเชฟคันดะครับ
- เริ่มเลยที่ appetizer จานแรกเป็น hirame+shirako
- โฮตาเตะตุ๋น
- ไข่ตุ๋นใส่อิคุระกับเปลือกส้มยูสุ
- ต่อมาเป็นกินดาระย่างรสเค็มอ่อน ๆ
- ปลาหมึกน้อยนึ่งรสเค็ม ๆ หวาน ๆ
- คำสุดท้ายของ appetizer เป็นเนกิโทโร่
- นิกิริคำแรกเป็น kamasu
- คำต่อมา hokkigai หรือหอยปีกนก
- คำที่สามเป็น ankimo
- ต่อมาก็ akami zuke
- chutoro
- คำต่อมา kohada
- ต่อไปที่ botan ebi คำนี้กุ้งสดหวานมากกกก เป็นการรับช่วงต่อจากปลายหวานของ kohada
- bafun uni คำโต
- anago
- ก่อนปิดคอร์สก็ตามปรกติครับจะเป็นซุปและ tamako beurre สูตรของทางร้านที่เนื้อไข่เนียนนุ่ม
- สุดท้ายพิเศษสำหรับวันนี้เป็น amaou strawberry จากฟูกุโอกะครับ ลูกใหญ่รสหวานอมเปรี้ยวตัดด้วยความมันจากครีมเป็นอันจบคอร์สของวันนี้ครับ
จะเห็นว่าการเรียงลำดับการเสิร์พของเชฟคันดะจะไม่ได้ไล่จากปลาเนื้อขาวไปเนื้อแดง แต่จะเน้นที่การรับส่งรสของแต่ละคำมากกว่า ซึ่งผมว่าทำออกมาได้น่าสนใจครับ
สำหรับการทานโอมากาเซะนั้นหลายคนมีคำถามว่ามันอิ่มไหม มันก็อิ่มในระดับหนึ่งครับ แต่เอาจริง ๆ การทานโอมากาเซะมันก็กึ่ง ๆ fine dinning ซึ่งจะเน้นที่รสชาติ รูปลักษณ์ กลิ่นและบรรยากาศบวกกับทักษะการรังสรรค์เมนูต่าง ๆ ของเชฟเพื่อเน้นในเรื่องสุนทรียรสมากกว่าเพื่อให้คนที่ทานได้รับประสบการณ์ที่มากกว่าการกิน เราจึงจะเห็นว่าร้านโอมากาเซะดัง ๆ โดยเฉพาะในญี่ปุ่นผู้คนจะเน้นที่ตัวเชฟมาก ๆ เพราะอย่างที่ทราบโอมากาเซะนั้นเราไม่รู้ว่าวันนี้เชฟจะจัดอะไรให้ทาน ดังนั้นประสบการณ์ของเชฟจึงเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากเชฟต้องเริ่มตั้งแต่เลือกวัตถุดิบที่จะมาทำไปจนถึงการเตรียมอาหาร การจัดลำดับอาหารซึ่งทั้งหมดล้วนต้องใช้ประสบการณ์
อย่างที่บอกครับว่าโอมากาเซะนั้นก็เป็นกึ่ง ๆ fine dining มันก็เหมาะสำหรับโอกาสพิเศษมากกว่าทานเอาอิ่มจนสะใจ 😅😅
------------------------------------
🏠 Sushi Saito Sora
⏰ ปิดทุกวันจันทร์
📌 อาคาร GMM Grammy ชั้น B1
💵 รับเงินสดและบัตรเครดิต
โฆษณา