7 ก.พ. 2021 เวลา 00:00 • ความคิดเห็น
เกือบยี่สิบปีก่อนผมยืนอยู่บนทางสองแพร่ง ด้านซ้ายคือทำงานสายเดิมต่อไป ด้านขวาคือเปลี่ยนเป็นนักเขียนอาชีพ ด้านซ้ายมีลูกค้าอยู่แล้ว ด้านขวามีผู้อ่านที่รู้จักผมเพียงหยิบมือหนึ่ง เป้าหมายด้านซ้ายคือหาเงินอย่างเดียว เป้าหมายด้านขวาคือหาเงิน (น้อยหน่อย) + ความสุขที่ได้เดินตามฝัน
4
หากเปรียบสถานการณ์นี้กับหนังเรื่อง The Matrix ก็คือฉากที่ตัวละคร ‘นีโอ’ ได้รับยาสองเม็ด ยาเม็ดสีฟ้ากับยาเม็ดสีแดง หากกินยาเม็ดสีฟ้า ทุกอย่างจะเหมือนเดิม กลับไปดำเนินวิถีชีวิตปกติของเขา หากกินยาเม็ดสีแดง เขาจะเดินทางไปสู่หนทางใหม่ที่เขาไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร เมื่อเลือกแล้วก็จะย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้
ในชีวิตผม เจอสถานการณ์เลือกยาเม็ดสีฟ้ากับยาเม็ดสีแดงมาแล้วหลายครั้ง ครั้งแรกคือการเปลี่ยนสายอาชีพจากสถาปนิกเป็นสาย กราฟิก ดีไซน์ เกิดขึ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น อยากลองทางสายใหม่ เนื่องจากยังเป็นหนุ่มที่ไม่มีลูกเมีย การตัดสินใจเลือกยาเม็ดสีแดงจึงไม่ยากนัก
การเลือกยาเม็ดสีแดงครั้งต่อ ๆ มายากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะมีความรับผิดชอบเรื่องครอบครัว และอายุก็เริ่มมากขึ้น
1
จนมาถึงการเลือกยาเม็ดสีแดงเป็นนักเขียนอาชีพ เป็นการเลือกที่ต้องขบคิดหนัก เพราะมีความเสี่ยงสูง และจริงดังคาด ในปีแรก ๆ หลังกินยาเม็ดสีแดง เกิดอาการแพ้ยา หัวใจเต้นเร็ว นอนไม่หลับ ต้องทำงานเสริมเพื่อให้ความฝันหลักอยู่รอด
แต่เมื่อไม่ถอย เดินหน้าต่อไป ยาเม็ดสีแดงก็เริ่มออกฤทธิ์เป็นวิตามิน
2
การกินยาเม็ดสีแดงไม่ใช่เกิดจากการเลือกเสมอไป หลายคนถูกบังคับให้กินยาเม็ดสีแดง
1
หลายปีนี้ผมเห็นตัวอย่างของคนที่ถูกไล่ออกจากงาน (ไม่ว่าจะใช้คำพูดสวย ๆ เช่น ‘เออร์ลี รีไทร์’ หรืออื่น ๆ) ถูกบังคับให้กินยาเม็ดสีแดงทั้งที่ยังไม่พร้อม
1
มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเดินทางสายที่ไม่รู้จักไม่คุ้นเคย โดยมีภาระครอบครัววางอยู่บนสองบ่า แต่ลมหายใจไม่สิ้น ก็ต้องดิ้นกันไป คนพร้อมกว่าก็ได้เปรียบ คนที่ไม่เคยมองการณ์ไกลก็เหนื่อยหน่อย
ใช่ บางครั้งสีแดงของยาเม็ดอาจตีความหมายได้ว่า ‘หยุด’ หรือ ‘อันตราย’ แต่นั่นมิได้หมายความว่า สีฟ้าไม่มีอันตรายซ่อนอยู่เช่นกัน ความจริงคือไม่ว่าจะเลือกกินยาเม็ดสีฟ้าหรือสีแดงก็มีความเสี่ยงด้วยกันทั้งคู่ ความคิดแบบ “อยู่อย่างนี้ก็ดีแล้ว ไม่รู้จะเสี่ยงไปทำไม” ย่อมมีเหตุผลของมัน บางเรื่องบางสถานการณ์ก็ไม่ควรเสี่ยงจริง ๆ แต่คนฉลาดไม่ลืมตรวจสอบตัวเองเป็นระยะ ๆ ว่า ประโยคดังกล่าวยังใช้ได้กับสถานการณ์ปัจจุบันหรือไม่ เพราะลมสามารถเปลี่ยนทิศได้เสมอ ทอร์นาโดทางธุรกิจเกิดขึ้นได้เสมอ กิจการที่ลงตัววันนี้อาจไม่ค่อยสวยในวันพรุ่งนี้ เจ้านายที่รักเราเหลือเกินในวันนี้ อาจไม่ค่อยพิสมัยเราในวันพรุ่งนี้
3
อะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้ เปลี่ยนแปลงได้ เราจึงควรใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท เตรียมพร้อม เตรียมทางสายที่สองรอไว้เสมอ อย่างน้อยเมื่อถูกบังคับให้กินยาเม็ดสีแดงกะทันหันจะได้ไม่เขว
1
อย่ารอให้ถูกถีบลงน้ำแล้วค่อยเรียนว่ายน้ำ!
2
ไม่ว่าจะเป็นคนทำงานหรือนักเรียน ช้าหรือเร็ว ก็อาจจะตกอยู่ในสถานการณ์ต้องเลือกยาเม็ดสีใดสีหนึ่ง จะทำงานด้านนี้หรือด้านนั้นดี จะเรียนสายนี้หรือสายนั้นดี จะย้ายบริษัทดีไหม จะแต่งงานดีหรือไม่ จะเลิกกับคู่รักดีหรือเปล่า
1
ถ้ารู้จักมองการณ์ไกล มองเห็นมันแต่ไกลก่อนที่จะมาใกล้ตัว โอกาสถูกจับยัดยาเม็ดสีแดงใส่ปากก็น้อยลง
1
มองโลกในแง่ดีคือ เราโชคดีกว่านีโอใน The Matrix ตรงที่ถึงกินยาผิดเม็ด ก็ยังพอเปลี่ยนแปลงแก้ไขทิศทางใหม่ได้
โลกไม่เคยขาดคนบ้าที่เลือกยาเม็ดสีแดง แม้รู้ว่าอาจไปสู่พื้นที่เสี่ยงอย่างยิ่ง
1
รอเบิร์ต ก็อดดาร์ด กินยาเม็ดสีแดงแล้วเลือกเส้นทางสาย ‘ความฝันโง่ ๆ’ คือสร้างจรวด แม้ว่าตลอดชีวิตที่ทำงานทดลอง ถูกวิพากษ์สารพัด ถูกดูถูกเหยียดหยาม จนเมื่อตายไป โลกจึงยอมรับและยกเขาเป็นบิดาแห่งจรวด
ชาร์ลส์ กูดเยียร์ กินยาเม็ดสีแดงแล้วเลือกเส้นทางผลิตยางเพื่อนำมาใช้ทำสินค้าต่าง ๆ ล้มลุกคลุกคลานจนไม่มีกิน หนี้สินท่วมตัวจนต้องเข้าคุก และเกือบตายจากก๊าซพิษในการทดลอง แต่ก็เดินหน้า จนสำเร็จในที่สุด
4
เจ. เค. โรว์ลิง กินยาเม็ดสีแดงแล้วเลือกเส้นทางนักเขียน แม้จะลำบากยากเย็นหลายปี จนประสบความสำเร็จในที่สุด
นิกิ เลาดา กินยาเม็ดสีแดงแล้วเลือกเส้นทางนักแข่งรถ แม้ว่าครอบครัวต่อต้าน แต่เขาปฏิเสธที่จะเดินบนเส้นทางที่ปลอดภัยซึ่งครอบครัวเลือกให้ ในสายทางที่เขาเลือก เขาประสบอุบัติเหตุบนถนนแข่งจนใบหน้าเสียโฉม แต่ก็ประสบความความสำเร็จเป็นแชมป์โลก และต่อมาเป็นเจ้าของสายการบินสองสาย
และอีกมากมายที่เลือกกินยาเม็ดสีแดง
ลองนึกถึงโลกที่ไม่มีใครยอมกินยาเม็ดสีแดง บางทีวิทยาการของมนุษย์เวลานี้อาจยังล้าหลังอยู่สักพันสองพันปี
1
ทว่าโลกก็เต็มไปด้วยคนที่เลือกยาเม็ดสีแดงแล้วไม่ประสบความสำเร็จ กระทั่งตายอย่างเขียด
1
วินเซนต์ แวน โกะห์ กินยาเม็ดสีแดงแล้วเลือกเส้นทางศิลปิน อดอยากตลอดชีวิต แต่ก็ยังเดินหน้า วาดรูปกว่าสองพันภาพ แต่ขายได้เพียงภาพเดียว แล้วจบชีวิตตัวเองตั้งแต่ยังหนุ่ม
1
บ้านเราก็มีจิตรกร ศิลปินจำนวนไม่น้อยที่กินยาเม็ดสีแดงแล้วเกิดอาการแพ้ยา คนเหล่านี้มีฝีมือ มุ่งมั่นเดินตามฝัน ขยันอย่างยิ่ง เพียงแต่โอกาสไม่เอื้อให้
ทว่านี่มิใช่ความผิดของยาเม็ดสีแดง มันเป็นเพียงความไม่ลงตัวของโอกาสและจังหวะซึ่งเกิดขึ้นได้เสมอ แม้แต่กับคนและองค์กรที่มั่นคงที่สุด
สำหรับคนที่มีต้นทุนในชีวิตไม่สูงมาก การเดินตามฝันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ชีวิตที่ไม่ลองเดินตามฝันเหมือนดูหนังไม่จบเรื่อง
1
ดังนั้นไม่ว่าจะกินยาเม็ดสีแดงด้วยเหตุผลใด ก็กัดฟันลองสู้สักตั้ง ถึงจะไม่สำเร็จ เราก็จะไม่โทษตัวเองจนวันตายว่าไม่ได้ลองเดินตามฝัน
1
(จากหนังสือ #ยาเม็ดสีแดง วินทร์ เลียววาริณ)
โฆษณา