3 ก.พ. 2021 เวลา 09:35 • สุขภาพ
ปัญหา “ช่องคลอด” รีบแก้ก่อนจะสาย!
อาการคัน แสบ บริเวณช่องคลอด หรือมีกลิ่นเหม็นคาว รู้หรือไม่ว่าอาจมีปัญหาเกี่ยวกับ “ช่องคลอด” เพราะสุขภาพช่องคลอดถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้หญิง แม้เกิดความผิดปกติเล็กน้อยแต่หากถูกละเลย ก็จะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมาได้ ดังนั้นนอกจากจะต้องหมั่นดูแลแล้ว ยังต้องหมั่นสังเกตอีกว่า มีอาการผิดปกติใดเกิดขึ้นหรือไม่เพราะการรู้สัญญาณความผิดปกตินอกจากช่วยป้องกันปัญหาแล้ว ยังช่วยเสริมความมั่นใจได้อีกด้วย
.
🍑 ภาวะช่องคลอดอักเสบ คืออะไร?
อาการอักเสบบริเวณภายในช่องคลอดและปากช่องคลอด จากความไม่สมดุลของแบคทีเรียหรือเชื้อรา อาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง คัน มีอาการบวมบริเวณอวัยวะเพศ มีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์อย่างรุนแรง รู้สึกแสบร้อนขณะมีเพศสัมพันธ์หรือปัสสาวะ และมีตกขาวผิดปกติ เช่น ตกขาวมีสีน้ำตาลหรือปนเลือด จากประจำเดือนมาผิดปกติหรือเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก อาจมีอาการปวดท้องน้อยและเลือดออกจากช่องคลอดร่วมด้วย อาการตกขาวมีสีออกชมพู สาเหตุจากเยื่อบุโพรงมดลูกลอกตัวหลังการคลอดบุตรหรือมีอาการตกขาวมีสีขาวหรือเหลืองร่วมกับกลิ่นคาวอาจเป็นภาวะติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด โดยมีอาการแสบภายในช่องคลอดและอาการบวมแดงร่วมด้วย เป็นต้นโดยสามารถเกิดขึ้นได้ในผู้หญิงทุกช่วงวัย
.
🍑 สาเหตุเกิดจากอะไร?
โดยทั่วไปแล้วในช่องคลอดจะมีทั้งแบคทีเรียชนิดที่ดีอย่างแลคโตบาซิลัส (Lactobacillus) และชนิดที่ไม่ดีอย่างแอนแอโรบส์ (Anaerobes) หากมีแบคทีเรียที่ไม่ดีมากเกินไปจะทำให้ปริมาณแบคทีเรียภายในช่องคลอดเสียสมดุลและเกิดภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียได้
.
🔹 การใช้ยาปฏิชีวนะติดต่อกันเป็นเวลานาน จะทำลายเชื้อแบคทีเรียดีในช่องคลอด
🔹 การตั้งครรภ์ ทำให้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดภาวะช่องคลอดแห้งและนำไปสู่สาเหตุการติดเชื้อราในช่องคลอด
🔹 การรับประทานยาคุมกำเนิด ที่มีปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงหรือการรักษาด้วยฮอร์โมนบำบัด
🔹 ระบบภูมิต้านทานต่ำ เช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวีหรือผู้รับการบำบัดด้วยยาคอร์ติโคสเตียรอยด์
🔹 การสวนล้างช่องคลอด การใช้ผ้าอนามัยแบบสอดหรือแผ่นอนามัยบ่อย ๆ
🔹 การร่วมเพศกับคู่นอนหลายคน หรือเปลี่ยนคู่นอนใหม่ และการไม่สวมถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์
🔹 การใส่กระโปรงหรือกางเกงรัดรูปมากเกินไป การสูบบุหรี่ ฯลฯ
.
🍑 วิธีป้องกันการเกิดช่องคลอดอักเสบ
🔸 ไม่สวนล้างช่องคลอด เพราะจะทำให้แบคทีเรียในช่องคลอดเสียสมดุลและติดเชื้อได้
🔸 ใช้ผ้าอนามัยที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม เปลี่ยนผ้าอนามัยอย่างสม่ำเสมอขณะมีประจำเดือนเพื่อไม่ให้เกิดความอับชื้น ใช้สบู่สูตรอ่อนโยนต่อจุดซ่อนเร้น ป้องกันอาการระคายเคือง
🔸 งดเว้นการมีเพศสัมพันธ์หรือมีคู่นอนเพียงคนเดียว เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์หรือเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ควรสวมถุงยางอนามัยหรือใช้แผ่นยางอนามัยทุกครั้ง หลังมีเพศสัมพันธ์ก็ควรทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นด้วยน้ำเปล่า ซับให้แห้งไม่ให้จุดซ่อนเร้นอับชื้น
🔸 ดูแลความสะอาดหลังขับถ่ายทุกครั้ง โดยล้างจากด้านหน้าไปด้านหลัง แล้วซับให้แห้ง
🔸 ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็น
🔸 ดูแลความสะอาดของเสื้อผ้า ชุดชั้นใน ไม่สวมเสื้อผ้าเปียกชื้น หรือรัดแน่นจนเกินไป
🔸 รับประทานอาหารที่มีคุณค่า เสริมแลคโตบาซิลัส ซึ่งช่วยรักษาสมดุลของความเป็นกรดด่างในช่องคลอดอย่าง “โปรไบโอติก” ที่ช่วยเพิ่มแบคทีเรียที่ดีให้กับร่างกาย
หากชอบบทความของเรา อย่าลืมกดไลก์ กดแชร์ กดติดตาม คอมเมนต์
เพื่อช่วยให้เราพัฒนาให้ดีขึ้นด้วยนะคะ 💙💙
ติดตาม The NA Group ผ่านทาง Facebook ได้ที่
หรือทางเพจ https://nathailand.com/
#THENATHAILAND #THENA
โฆษณา