6 ก.พ. 2021 เวลา 02:30 • อาหาร
เมื่อนึกถึงวันคริสมาสหลายท่านอาจนึกถึง ซานต้าครอส ของขวัญ หรือพระเยซู แต่ในยุคสมัยหนึ่ง ยังมีอีกสิ่งที่นิยมกันในวันคริสมาสเช่นกัน
twelfth night cake
twelfth night cake หรือ เค้กที่สิบสอง คือเค้กรูปร่างน่าตาสวยงามหรูหรา และประณีตด้วยน้ำตาล ผมคิดว่าคงมีเพียงคนรวยเท่านั้นที่จะครอบครองมันได้ มันคงจะแพงน่าดูเทียวด้วยความหรูหร่าและประณีตของมัน
ย้อนกลับไปในยุคโรมัน ชาวโรมันนับถือเทพเจ้าtมากมายหลายองค์หนึ่งในนั้น คือเทพแซตเทิร์น (Saturn) เทพแห่งการเกษตรพระองค์มีพิธีฉลองประจำตัวชื่อว่า แซตเทิร์นนาเลีย (Saturnalia) โดยจัดขึ้นทุกช่วงเหมายันต์ของทุกปี(วันที่ยี่สิบเอ็ดธันวาคม) เทศกาลดังกล่าวมีการจัดงานเลี้ยงสังสรร และการแลกของขวัญ อันเป็นรากฐานให้ชาวคริสเตียนในยุคต่อมา นั่นคือเทศกาลคริสมาสอย่างที่เรารู้จักกันนั่นเองครับ
นอกจากเทศกาลแลกของประจำปี ในงานจะมีกิจกรรมแปลกๆ ที่เรียกได้ว่า ล้มกฏระเบียบของสังคมในยุคนั้นไปในชั่ววันทีเดียว นั่นคือการที่ให้ทาสและนายลองสลับบทบาทกัน จากที่นายเคยชี้นิ้วสั่งก็ให้ทาสลองทำบ้าง มิใช่เพียงแต่นายทาสที่ต้องรับฟัง แต่รวมถึง้หล่าแขกเรือที่มาร่วมงานก็โดนหารกันไปตามๆกัน
สั่งได้ตั้งแต่แค่น้องเพลง จนไปถึงการแก้ผ้า แต่ถ้าสั่งอะไรก็ได้ ผมสงสัยว่าทาสสมัยนั้นเขาจะสั่งอัไร อาจจะให้นายทาสทำอันโน้นอันนี้ให้ก็ได้ใครจะรู้ครับ
อย่างที่ว่าไปแล้ว คริสเตียนในยุคต่อมา หลังจากการล้มหานตายจากของชาวโรมันก็เข้าสู่ยุคกลาง ยุคสมัยอันยาวนานที่ว่ากันว่ามืดมนและแล้นแค้นที่สุด
แต่อย่างไรเสีย มนุษย์ก็ย่อมยังคงรักความสนุกสนาน
แน่นอนคนยุคกลางก็ด้วย สมัยนั้นคริสมาสไม่ได้มีแค่วันเดียวนะครับ แต่มีถึงสิบสองวัน นเป็นที่มาของชื่อเค้กราตรีที่สิบสองนั่นเอง
โดยช่วงอาหารค่ำของวันสุดท้าย โดยมักจะสิ้นสุดลงตรงกับวันที่ 6 มกราคม มักจะทำขนมปังไส้ต่างๆ ทั้งผลไม้และเครื่องเทศ นอกจากนั้นแล้ว เช่นเดียวกับสมัยโรมัน วัฒนธรรมการสวมบทบาทก็ได้ท้ายทอดมาสู่ชนเหล่านี้เช่นกัน
แม้มันจะมีที่มาดังเช่นนั้น แต่การเล่นสวมบทนี้ก็ต่างไปมากจากในยุคโรมันอยู่มากทีเดียว
ในเค้กราตรีที่สิบสองจะมีการใส่ถั่วลงไปด้วย ใครก็ตามที่เจอถั่วดังกล่าว จะได้รับเลือกให้วมมงกุฏ ลอร์ด ออฟ มิตรู (ราชาถั่ว) และได้มีการเพิ่มถั่วเขียวลงไปด้วย ใครที่จับได้ถั่วเขียวก็จะได้เป็น ราชินีแห่งถั่ว
การละเล่นเช่นนี้เป็นที่นิยมในสมัยทิวดอร์
ความนิยมของเทศกาลราตรีที่สิบสองเริ่มถดถอยลง ในฐาณะเทศกาลด้านศาสนาและได้กลายเป็นงานเลี้ยงทางโลกย์โดยสมบูรณ์
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ถั่วเขียวและถั่วถูกแทนที่ด้วยเครื่องเงินและเครื่องรางต่างๆ ความนิยมสูงสุดของมันอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 19 และแม้นความนิยมของเค้กดังกล่าวจะสูญหายไปแล้ว แต่มันก็ได้ถูกแปลงผ่านเป็นพุดดิ้งแทนในช่วงต้นศตววษที่ 20
อย่างไรก็ตามเรื่องราวของมันถือเป็นประวัติศาสตร์ที่สำคัญ และยังคงปรากฏอยู๋จนถึงยุคสมัยของเรา ยังมีคนสอนทำเค้กดังกล่าวในยูทูป ในเว็บไซต์ รวมถึงเว็นไซต์ที่ผมได้แปลและเรียบเรียงมา ด้วยครับ
เรียบเรียงและแปลจาก
โฆษณา