Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
A..Ant มีเรื่องเล่า
•
ติดตาม
4 ก.พ. 2021 เวลา 03:05 • ท่องเที่ยว
💫EP1. ผจญภัย ไปญี่ปุ่นครั้งแรก 🎌🇯🇵 @ฮอกไกโด
~ประสบการณ์ เกือบตกเครื่อง ...เอากระเป๋า ออกจากล็อกเกอร์ไม่ด้ายยยยยย 😭😭😅
1
ย้อนหลังไปปี 58 ทริปฮอกไกโด เริ่มต้นจากการไป ออกบูท ของออฟฟิตยืนอยู่ข้างๆป้าย โรงแรม คิโรโระ รีสอร์ท (ซึ่งตอนหลัง หนังเรื่องแฟนเดย์มาใช้ถ่ายหนัง) การผจญภัย ได้เริ่มขึ้นจาก การจองแพคเก็จ โรงแรม 6,900 บาท 3 วัน 2 คืน + oneday tour ไปกะเพื่อน แค่ 2 คน ทำการจองเรียบร้อย... เราจะได้ไป ฮอกไกโด !!!! ความฝันของเพื่อนและเรา เฮ้ยยย ญี่ปุ่นครั้งแรก..หว่า มันดีย์ ใช่ค่ะ!!! มีแต่ที่พัก Step ต่อไป หาตั๋วเล๊ยยยยย
ตั๋วเครื่องบิน บินตรง สู่ฮอกไกโด หาๆๆ ตอนนั้นมีแค่ แอร์เอเชีย กับ การบินไทย เท่านั้น!!! แต่แล้ว สวรรค์ ก็เหมือนแกล้งกัน😅 แอร์เอเชีย ยกเลิกไฟล์ทบินตรงสู่ ซัปโปโร
บร๊ะเจ้า!!! เหลือแต่ การบินไทย ป๊าดดด !!! หฤโหด เอาก็เอาวะ จอง2 คน ตั๋วเครื่องบิน คนละ xx,xxxบาท แต่ยังไงเราต้องเดินหน้า ต่อค่ะ 💨💨💨
และเราก็ถึงวันเดินทางสู่ซัปโปโร ด้วยความประหยัด บินกลางคืนถึงตอนเช้า พร้อมกับ ล้างหน้าแปรงฟัน ที่สนามบิน ตามวิถีแบ็คแพ็ค ตื่นเต้นมาก สนามบินน่ารักมาก เราต้องกินไอศรีมโดเรมอน ตามที่ดูรีวิว มา ต้องถ่ายรูปคู่กับ wallpaper สนามบิน ในสภาพที่ตื่นนอนลงมาจากเครื่อง 😝😝😝
สนามบินชิโตเสะ - ซัปโปโร
ต่อจากนั้น เราก็ต้องรีบเที่ยว เพราะมีเวลาเที่ยวไม่มาก เราจึงไปที่คลองโอตารุ ที่นิยมของ ฮอกไกโด มันน่าเดินเที่ยวมาก เราไปช่วง กันยายน มีฝนนิดหน่อย แต่อากาศน่านอนมาก ยืนทำมิวสิค ถ่ายริมคลอง 5555 แต่ถ้าช่วงหิมะ คลองจะขาวโพลน ได้ฟีลอีกแบบ (เห็นจากในหนัง ไม่เคยมา 5555)
เราเดินเที่ยวโอตารุ อยู่เกือบทั้งวัน ที่โอตารุ จะมีร้านขายกล่องดนตรีไม้ ที่โด่งดัง ถ้าใครไม่รู้ แนะนำให้ไปดูหนังเรื่องแฟนเดย์ มีร้านกีฟช็อป น่าเดินเยอะแยะ มากมาย และมีร้านขนม ที่ใครๆก็ต้องมากิน ชีสเค้ก Letao ต้องจัดดด ที่สุดแล้ววววจ้า อาหารการกินของที่นี่ ก็ต้องมากินเมล่อน มันฉ่ำว้าวววมากแม่เอ้ยยย. !! และ ก็อูนิ ต้องกินซะหน่อย อย่างที่บอกเรามาแบบประหยัด ก็ต้องกินแบบ ยับยั้งชั่งใจ เลยได้กินแบบข้างหน้ารวมๆๆ แต่สัมผัสได้ถึงความวิเศษ ......🤩🤩
เดินจนถึงเย็น การผจญภัยของเราที่จะเข้าที่พัก ก็มีอุปสรรค เพราะจุดขึ้นรถ ทรานเฟอร์ เอ๊ะ !! มันอยู่ตรงไหนรถจะมารับตอน 1 ทุ่ม ใช่แล้ววว เห็นป้ายรถ ตรงนี้แน่เลย วิ่งไปรอ เราเห็นแม่ลูกอีกคู่ เป็นคนจีน ก็เงอะๆงะๆ ไม่ต่างจากเรา แต่นางวิ่งไปอีกด้าน เราก็นึกขำ ว่า เออเค้าคงหลงเหมือนกัน
เวลา 19.00น. เอิ่ม ทำไมรถไม่มา ปกติ ญี่ปุ่น รถจะเป๊ะมากผ่านไป 19.10 น. หมวยๆๆ เราว่า รถมันไปละแน่เลย เอาไงดีว๊าา ตอนนั้นก็เริ่มมืด ละดูไร้วี่แววกับรถสาธารณะ เลยจัดแท็กซี่ไปข่ะ !! นั่งนานมากก ค่ารถขึ้นพรวดๆๆๆ ขึ้นเขาไปอีก ค่ารถจำได้ไม่แม่น แต่รู้ว่า ตกเป็นเงินไทย น่าจะเกือบ 3 พัน โหดมากกกกกกก
และแล้วรถก็ มาถึงหน้าโรงแรม แท็กซี่จอด !! ต่อจากนั้นบัสทรานเฟอร์ เราหันไป พร้อมกับ เห็นคนลงมา จากรถ แท่นแท๊นนน !!! แม่ลูกคนจีน 2 คนนั้น เห้ยยยย นางมาถูก แตาเราต่างหากผิด แป่ววว😅
ถึงโรงแรม เข้าห้องพักมันเลอออออออค่าาาาาา ใครอยากดู กดลิ้งค์ไปโล๊ดดดดด ความบันเทิง เกิดขึ้นตอนกลางคืนจ้าาา เมื่อเราไป กะเพื่อน ที่ชื่อว่า หมวย!!
kiroro.co.jp
Kiroro Ski Resort | Best ski resort in Japan
Best ski resort in Japan
แอ๊น : หมวยๆ เมิงงงง มาที่นี่ มีออนเซ็น ว่ะ ต้องไปมะ ??
หมวย : เออแต่มันต้องแก้ผ้านะเมิง🥱😯😐😯
แอ๊น : ไปเถอะเมิง เมิงกะกรู ก็มีเหมือนกัน 55555 ไปดูของคนอื่น 55555 ขำๆๆ สักครั้งในชีวิต เค้ามีผ้าให้ เราก็ปิดๆไป
หมวย : เออๆๆ ไปก้ได้
จากนั้น ก็เปลี่ยนชุด แล้วเดินไป ห้องออนเซ็น เลยจ้าาา
1
ณ ห้องออนเซ็น คุณขา!!! ผ้ามีแค่ผ้าเช็ดหน้า ผืนเล็กๆๆ ซึ่งพอเราแก้ผ้าแล้วนั้น คิดว่า เราจะปิดส่วนไหนดี 🙉🙈 แต่ล๊าววว ความฝันก็สลาย เมื่อคุณป้า ญี่ปุ่น คนนั่นเดินมา ส่งสัญญาณประมาณว่า ผ้านั้น เค้าให้ไปโพกหัว หุหุ สุดท้าย ต้องทำใจ แล้วอาบน้ำ แล้วเดินลงบ่อแบบสวยๆๆๆ เอาจริงๆ พอแช่ออนเซ็นแล้วรู้สึกดีมากกกก น้ำร้อนมันช่วยให้เราผ่อนคลายจากการเดิน มากๆๆ รู้สึกหลงรักออนเซ็นมาเลย💦💦
ค่ำคืนแรก จบสวยๆๆ
วันที่ 2 ที่เราได้ แพคเกจ One day tour ฟรี มันดีมาก มีแค่เรา 2 คน พร้อมคนขับส่วนตัว ที่ชื่อ ฮิโรกิซัง เค้าพาเราไป หลากหลายที่มาก เราสื่อสารกับ เค้าโดยภาษามือ และ เวลานัดหมายในมือถือ เราได้ไป สวนแอปเปิ้ล , โรงกลั่นวิสกี้ , ฟาร์มทอนเดน ....
สิ่งที่เราลืมเรียนรู้ไปคือ คนญี่ปุ่น เค้าจะไม่รับเงินค่าทิป เหมือนเป็นการดูถูกเค้า เราจะให้ ฮิโระกิซัง แต่เค้าไม่รับ แต่เค้าบริการดีมาก น่ารักมาก ใส่ใจ ถึงแม้จะสื่อสารภาษาญี่ปุ่นกันไม่ได้ ประทับใจมาก
วันที่สาม เป็นแพลนที่เราต้องออกไปท่องโลกเอง เราเลือกใช้การนั่งรถไฟ ที่ประหยัดที่สุด ใช้เวลาการเดินทางสู่ ฮาโกะดาเตะ ประมาณ 5 ชั่วโมง มันดีย์ มาก เราไปตรงอิฐแดง อากาศ เดือนกันยายน ถือว่าเป็นช่วงโลว์ แต่ อากาศเย็นๆ ประมาณ 18-20 องศา เราว่าสบายดี
ถึงฮาโกะดาเตะ ตอนเย็น เก็บภาพบรรยากาศยามค่ำคืน ส่วนที่พักนั้น จำได้ว่านอน Smile hotel ราคาไม่แพง ห้องเล็กๆ มี 2 เตียง จองผ่าน Booking มาจ่ายเงินหน้างานได้ สะดวกสบาย ลงมาเดินเที่ยวได้เลย
เช้าที่ฮาโกะดาเตะ เริ่มต้นกันที่ตลาดปลา ฮาโกะดาเตะ เห็นคนกรี๊ดกร๊าด กับบ่อปลาหมึก หูยยย !!! กินสดๆ ดึ๋งๆๆ เหมือนในซี่รีย์เกาหลี ไหนๆ มาละ จัดซะหน่อย แต่ไม่กล้าตกเอง แต่กินเองนักเลงพอ5555 ปลาหมึก🦑🐙ตัวใสแจ๋ววว เค้าหั่นกันสดๆ ยังมีชีวิตอยู่เลย #ครั้งเดียวพอ แล้วก็ตบท้าย ด้วยเมล่อนฉ่ำมงมากๆๆ
📍📍แนะนำเลยใครที่ชอบอาหารทะเลสดๆ ต้องฮาโกะดาเตะ ถูก สด อร่อยยยยย
จากตลาดปลาตอนเช้า เราก็เช็คเอ้าท์ แล้วไปต่อ ไปที่ป้อมโงเรียวกาคุ หรือ ป้อมดาว 5 แฉก ซึ่งเป็นที่เที่ยวที่นิยม เพราะคนนิยมมาช่วงดูซากุระ🌸🌸 จะสวยมาก แต่ตอนที่เราไปนั้น ไม่มี 555 เขียวขจีเลยจ้าา เที่ยวแบบควิกๆๆ รีบๆๆ ข้าวปลาไม่ค่อยได้นั่งกินดีๆ เพราะประหยัดทั้งเงิน และเวลา
แฟมิลี่ เข้าบ่อยมาก ข้าวปั้นตอนเย็น ลดราคา ก็ไปจัด
เช้ามา ข้าวปั้น + นม 1 กล่อง ก็ไปต่อได้ ที่สำคัญ เมล่อน ไอศรีม อย่าให้ขาด มันดีย์ต่อใจ ❤️
ออกเดินทางกลับจาก ฮาโกะดาเตะ มาสู่ซัปโปโร ก็เดินทางแบบรถไฟประหยัด ใช้เวลานาน หน่อยเราไม่รีบ เพราะเป็นคืนสุดท้าย เราไปนอนใกล้ๆ ซัปโปโร เน้นไปเดินชอปปิ้ง ซื้อของที่ ถนนคนเดินทานูกิ
‼️‼️‼️การวางแพลน ของเราเริ่มขึ้น มีการแบ่งกระเป๋า เอากระเป๋าใบใหญ่ไปฝากไว้ที่ตู้ล็อกเกอร์ รถไฟใต้ดิน เพื่อที่ตอนเช้าแวะเอา แล้วไปสนามบิน เพราะขากลับบินไฟล์ทเช้า 09.30 น. ‼️‼️
จากนั้น เราก็เริ่มเลย ชอปปิ้งหนักมาก !!! ที่ร้าน ดองกี้ หมดไปเยอะ มาก และ เรากลับไป โรงแรมน่าจะเกือบตี1
⏰⏰ กริ๊งงงๆๆ ตื่นๆ อาบน้ำแต่งตัว ย้ายของไปสถานีรถไฟใต้ดิน เพื่อไปลากกระเป๋าเดินทางกลับ
⚡️⚡️⚡️เมื่อมาถึง รถไฟใต้ดิน แอ๊น กับหมวย ก็เปิดกระเป๋า ตังค์ และพบว่า เห้ยย!! หมวย เงินหมดละนะ เหรียญที่จะหยอด ล็อกเกอร์ กระเป๋า เราพอหรอ เอิ่มมมม!!!! ใช่จ้า เงินหมดค่า
ในกระเป๋า มีแต่แบงค์ 100 บาทไทย อยู่ 3-4 ใบ เดินไปแลก ก็ไม่มีใครรับ // เดินไปหาเจ้าที่รถใต้ดิน ก็บอกให้ไปแจ้งความ ตอนนั้น มัน 7 โมงเช้าแล้ว เรากำลังจะตกเครื่องง
❗️⁉️จะทำยังไงกันดี แอ๊นเลยวิ่งไปดูว่า เคาเตอร์รถไฟ สมารถใช้บัตรเครดิต รูดซื้อตั๋วได้ >>> อันนี้รอด เลยซื้อมาเลย
❗️❗️❗️แต่ กระเป๋าเดินทาง ล่ะ แจ้งความไม่ทัน เงินแลกไม่ได้ เหรียญไม่พอ เงินเยน หมด ไม่มี ❗️❗️❗️
👯เราสองคนเลยตัดสินใจ ยืนละ พูดว่า Help me please !! No have money แล้วก้ได้แต่ชี้ไปที่ล็อกเกอร์กระเป๋า
แต่เป็นเกือบครึ่ง ชม. ไม่มีคนสนใจ เพราะคนญี่ปุ่น เค้าก็กลัว แต่แล้วมีผู้หญิง คนนึง เดินมา แล้วเราก็พูดกับเค้าด้วยน้ำตาคลอ😢😢 เพราะคิดว่า ตกเครื่องแน่ๆๆ แต่เค้าก็เดินผ่านไป
🤩🤩ทันใดนั้น ผู้หญิงคนเดิม เดินกลับมาเหมือนนางฟ้ามาโปรด 👸🏻👸🏻 ผู้หญิงคนนั้นไปลากเจ้าหน้าที่ (รปภ) มา ประหนึ่งว่าเป็นพยาน ว่าไอพวกนี้ไม่ใช่โจร 55555 แล้วเค้าก็ช่วยกันหาเหรียญ มาหยอดตู้ เอากระเป๋ามาให้ แล้วเราก็แทบจะกราบเค้าทั้งสองคนเลย 😅😊🤣 เราขอบคุณเค้ายกใหญ่
และรีบลากกระเป๋าวิ่งไปขึ้นรถไฟ ไปสนามบิน เรากับเพื่อน รอดกันมาได้หวุดหวิดเกือบตกเครื่อง แค่คิดว่า ถ้าตกเครื่องจะเอาเงินที่ไหนกับไทย 🙈🙉😆☺️
พอขึ้นเครื่องเท่านั้นแหละ เหมือนยกภูเขา⛰ออกจาก อก นอนหลับสลบ ไปตามๆกัน
การเที่ยวครั้งนี้ สอนให้รู้ว่า ❗️❗️อย่าประมาทใช้เงินจนเกลี้ยง ต้องแพลนเวลาและ การเงินให้ดีดี ถ้าจะไปต่างประเทศ
เราอาจไม่ได้โชคดี เจอคนดีดี แบบนี้เสมอไป ❤️❤️
ฝากประสบการณ์ การท่องเที่ยวแบบแบ็คแพคไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ
3 บันทึก
28
18
8
3
28
18
8
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย