4 ก.พ. 2021 เวลา 03:52 • ธุรกิจ
พรีเซนต์อย่างไร โดยไม่ต้องพึ่งสคริปต์
หลายๆคนน่าจะเคยมีประสบการณ์ในที่ทำงานหรือในห้องเรียน
ที่เราจะต้องนำเสนอต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก
ซึ่งอาจเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับใครบางคน จนถึงขั้นทำให้ใจเต้นแรงกันเลยทีเดียว
และหนึ่งในวิธีที่หลายๆคนเลือกใช้เพื่อป้องกันความผิดพลาดก็คงหนีไม่พ้น การท่องสคริปต์แบบอ่านตามทุกตัวอักษร เพื่อให้สามารถนำเสนอได้อย่างแม่นยำ
แต่ในความเป็นจริงแล้ว การที่เราอ่านตามสคริปต์เกือบทุกตัวอักษร และพูดออกไปต่อหน้าใครหลายๆคน
อาจเป็นวิธีที่ไม่มีประสิทธิภาพเท่าไรนัก
เพราะการอ่านสคริปต์ มักเป็นการท่องจำมากกว่าการทำความเข้าใจในสิ่งที่จะพูด
ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์ หรือปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เสียสมาธิ ก็อาจทำให้ผู้พูดนั้นสับสนว่ากำลังอ่านถึงบรรทัดที่เท่าไร และ หลงลืมสิ่งที่จะพูดได้
นอกจากนี้การอ่านสคริปต์ยังแสดงให้เห็นว่า ผู้พูดไม่ได้เตรียมการนำเสนอมาดีพอ
แล้วเราควรทำอย่างไรให้การนำเสนอของเราดูมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น?
1.หมั่นฝึกฝนก่อนการนำเสนอ
แน่นอนว่าไม่มีอะไรที่จะออกมาได้ดี ถ้าปราศจากการฝึกฝน
การฝึกฝนคือกุญแจหลักที่จะทำให้เรามีการพัฒนาที่ดีขึ้น
คนที่ฝึกวิ่งทุกวัน ย่อมวิ่งได้เร็วกว่าและเหนื่อยยากกว่าคนที่ไม่เคยฝึกวิ่งเลย
การนำเสนอก็เช่นกัน ที่เราจะต้องเตรียมความพร้อมโดยการฝึกฝน
หนึ่งในวิธีการฝึกฝนการนำเสนอที่ดีที่สุดก็คือ การฝึกพูดหน้ากระจกหรืออัดคลิปวิดีโอ
ตรงนี้เองเราสามารถรู้ได้ว่า น้ำเสียง, จังหวะการพูด หรือการสบสายตาของเราดีแล้วหรือยัง
ถ้าเรายังไม่ดีพอ เราก็แค่ฝึกฝนต่อไปเรื่อยๆจนเรามีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
2.สรุปใจความสำคัญก่อน
แน่นอนว่าหนึ่งในหัวใจหลักของการนำเสนอก็คือ เนื้อหาและรายละเอียดที่เราจะต้องนำเสนอแก่ผู้ฟัง
ซึ่งเราจำเป็นต้องทำความเข้าใจเนื้อหาเหล่านี้ก่อน
เพราะถ้าเราไม่เข้าใจ เราก็จะทำได้แค่อ่านตามสคริปต์
สุดท้ายแล้วเราก็จะนำเสนอเหมือนหุ่นยนต์ ที่ถูกใส่โปรแกรมให้แค่มาอ่านและพูดเท่านั้น
ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ฟังรู้สึกเบื่อหน่ายได้
การสรุปใจความสำคัญนี่เอง เปรียบเสมือนการให้สมองของเราได้เรียนรู้และทำความเข้าใจ
ที่จะทำให้เราเข้าใจภาพรวมของสิ่งที่เราจะพูดได้มากยิ่งขึ้น
3.จดหัวข้อในสิ่งที่เราต้องการจะพูด
ในบางครั้งเราก็มีโอกาสที่จะจำสิ่งที่เราพูดได้ไม่หมด เราจึงจำเป็นต้องมีตัวช่วย
นั่นก็คือ “การจดโน้ต”
ต้องแยกให้ออกก่อนว่า การจดโน้ตไม่เหมือนกับการจดสคริปต์
เพราะการจดโน้ต เราจะจดสั้นๆและจะจดแค่หัวข้อที่สำคัญจริงๆเท่านั้น
เนื้อหารายละเอียดสำคัญ เราได้มีการฝึกฝนกันไปแล้ว
แน่นอนว่าอะไรที่เราได้มีการฝึกฝนจนเกิดความเข้าใจแล้ว เราจะไม่จำเป็นต้องท่องจำเลย
เราจะสามารถอธิบายให้ผู้ฟังเข้าใจได้ตามความเข้าใจของเราเอง
ในกรณีที่เราจำเป็นจะต้องจดโน้ต และนำไปดูจริงๆ
การจดโน้ตอาจจะเป็นในรูปแบบเดียวกันกับการจดรายการซื้อของ
ที่จะจดแค่รายการซื้อของ แต่จะไม่จดรายละเอียดของรายการเหล่านั้น
เช่น เราควรจะจดว่า “ ซื้อส้ม 2 ผล และกล้วย 1 หวี”
แทนที่จะจดว่า “ซื้อส้มที่ใหญ่ที่สุด 2 ผล และกล้วยที่สุกแล้ว 1 หวี”
ที่สำคัญเวลาที่เราก้มเหลือบไปดูโน้ตที่เราจด เรายังคงสามารถนำเสนอต่อไปได้
แต่ถ้าเราอ่านตามสคริปต์ยาวๆ แล้วเกิดหลงขึ้นมา เราอาจจะต้องใช้เวลาในการกลับมาที่จุดเดิม
4.เชื่อในตัวเองมากกว่าตัวหนังสือในสคริปต์
สุดท้ายแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความเชื่อของตัวเราเอง
เราควรเชื่อว่าสถานการณ์ที่น่ากลัวนี้เป็นแค่ “การนำเสนอ” ที่ใครๆก็สามารถทำให้ดีได้
เราต้องเชื่อว่าเวทีนี้เป็นของเรา เราสามารถโชว์ศักยภาพในตัวเรา
ผ่านสิ่งดีๆที่เราอยากจะนำเสนอให้แก่ผู้ฟังได้รับรู้
ถ้าเรามีกรอบความคิดที่เชื่อมั่นในตัวเอง เราจะไม่จำเป็นจะต้องพึ่งสคริปต์อีกเลย
สรุปแล้ว การนำเสนอก็แค่การตีแผ่สิ่งที่เรากำลังคิด ผ่านคำพูดของเราให้แก่ผู้ฟัง
THE BRIEFCASE เชื่อว่าถ้าเราฝึกฝนให้ดีพอและเชื่อมั่นในตัวเอง
การนำเสนอจะไม่ใช่สิ่งที่ต้องน่ากังวลอีกเลย...
โฆษณา