4 ก.พ. 2021 เวลา 04:50 • การตลาด
Low Involvement หรือสินค้าที่ใช้ความพยายามในการซื้อ "ต่ำ" นั่นทำให้ผู้บริโภคไม่ได้เห็นความแตกต่างของสินค้าจึงมักตัดสินใจด้วย "ราคา" เป็นหลัก พูดง่ายๆ ใครถูกกว่า ฉันซื้อคนนั้น
นายวอแว เลยอยากให้ทุกคนได้รู้จักการใช้ กลยุทธ์ของสินค้าประเภทนี้ผ่านกรณีศึกษาของ "น้ำดื่มสิงห์" กันครับ
2
เมื่อมีความ “ยาก” ที่จะทำให้ผู้บริโภคเห็น “ความแตกต่าง” โดยเฉพาะ “น้ำดื่ม” ลองนึกภาพตามว่า เราแยกออกหรือไม่ ว่าน้ำแต่ละแบรนด์บนชั้นวางต่างกันอย่างไร
ดีที่สุดก็คงแยกความต่างด้วย “สโลแกน” ติดปาก อย่าง น้ำดื่มสะอาด น้ำดื่มสิงห์ หรือ คิดจะดื่มน้ำ ดื่มคริสตัล
แต่พอเอาเข้าจริงๆ แล้ว การตัดสินใจเลือกซื้อน้ำดื่มของผู้บริโภคส่วนใหญ่มาจากเรื่อง “ราคา” เป็นหลัก
เหตุผลในเชิงการตลาดก็คือ เป็นสินค้า Low Involvement หรือสินค้าที่ใช้ความพยายามในการซื้อต่ำ ทำให้ลูกค้าพร้อมที่จะเปลี่ยนแบรนด์ (Brand Swiching) ได้ทุกเมื่อ
นั่นจึงเป็นโจทย์ใหญ่ของนักการตลาดที่ต้องทำให้สินค้ามีความ “แตกต่าง” ไม่ว่าจะในมุมไหนก็ตาม เพื่อเพิ่มระดับของการตัดสินใจซื้อให้สูงขึ้น
ในช่วงปีที่ผ่านมา “สิงห์” พยายามสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์น้ำดื่มอย่างหนัก ด้วยการหยิบเอากระบวนการผลิตออกมาสื่อสารกับผู้บริโภค
อย่างการหยิบเอาเทคโนโลยีการผลิต Smart Micro Filter ทำให้น้ำดื่มสิงห์ เป็นน้ำดื่มสะอาด และยังคงไว้ซึ่งแร่ธาตุที่เหมาะสมกับร่างกายที่เราทำอยู่แล้ว ออกมาสื่อสารและตอกย้ำอีกครั้ง
นับเป็นความท้าทายอย่างหนักของสิงห์ เพราะโจทย์ในครั้งนี้ไม่ใช่แค่การสร้างความแตกต่างให้สินค้าเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของการสร้างความเข้าใจให้กับสินค้า (Brand Educate) ให้ผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ น้ำสะอาด ซึ่งต่างจากน้ำบริสุทธิ์ที่ผ่านกระบวนการผลิตแบบ Reverse Osmosis หรือ RO ที่ไม่หลงเหลือแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์อยู่เลยอีกด้วย ทำให้ภาระกิจครั้งนี้จำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องมือทางการตลาดที่หลากหลาย
“ณเดชน์ คูกิมิยะ” จึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ถูกหยิบมาใช้ในการเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัยเลือก “ดื่ม..สิ่งที่ใช่ให้ตัวเอง” และตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นแบรนด์น้ำดื่มที่ครองใจผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน ซึ่งถือเป็นกุญแจความสำเร็จสร้างการเติบโตด้านยอดขายให้กับน้ำดื่มสิงห์เป็นอย่างมาก ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562
นอกจากนี้ยังมีการสร้างกิจกรรมพิเศษต่างๆ เพื่อเป็นการขยายไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เนื่องจากภาพลักษณ์ของ ณเดชน์ เองก็สามารถสื่อสารในกลุ่ม Mass ได้
1
“ดื่ม..สิ่งที่ใช่ให้ตัวเอง” จึงเป็น Key Message หลักที่ น้ำดื่มสิงห์ใช้ในช่วงที่ผ่านมา ผลลัพท์ที่เกิดขึ้น ธิติพร บอกกับเราว่า ความเข้าใจของผู้บริโภคมีเพิ่มมากขึ้น เห็นความต่างของผลิตภัณฑ์น้ำดื่มทั่วไปกับน้ำดื่มสิงห์มากขึ้น แต่ก็ยังมีอีกมากที่ยังไม่เห็นความแตกต่าง ซึ่งนั่นก็คือภาระกิจของแบรนด์ที่ต้องตอกย้ำอย่างต่อเนื่อง
อย่างที่บอกว่าการเดินเกมของสิงห์ในครั้งนี้ต้องผสมผสานเครื่องมือมากมาย นอกเหนือจากการใช้ พรีเซนเตอร์และ การสื่อสารแบบจัดเต็ม (IMC) แล้ว กลยุทธ์ CRM ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สิงห์เลือกใช้ และก็นับว่าเป็นเเบรนด์น้ำดื่มแบรนด์แรกๆ ที่จริงจังกับเรื่องนี้
ด้วยการสร้างโปรแกรม “Singha Rewards” เพื่อสะสมคะแนนจากใต้ฝาน้ำดื่มสิงห์และน้ำแร่เพอร์ร่า ในการแลกของรางวัล ส่วนลดในการซื้อสินค้าและบริการจากแบรนด์ดัง หรือการร่วมกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีพต่างๆ
ถามตัวเองดู ???? “คุณมองว่าน้ำแต่ละแบรนด์บนชั้นวางมีความต่างกันหรือไม่ ถ้าตัดเรื่องราคาออกไป”
วอแวคิดว่า........
โฆษณา