4 ก.พ. 2021 เวลา 14:26
มาเริ่มคดีแรกของเพจเรานะคะเราต้องขอบอกก่อนเลยว่าคดีโศกนาฏกรรมและฆาตรกรที่เราจะมาเล่าให้เพื่อนฟังนั้นมันเคยเกิดขึ้นจริงๆและมีตัวตนจริงๆในอดีตไม่ใช่เรื่องที่แต่งขึ้นนะคะเพราะฉะนั้นทางเพจเราต้องขออนุญาตครอบครัวของผู้เสียชีวิตและขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ
“คดีที่หนึ่ง คดีไฟไหม้รถไฟผีสิงที่ลูน่าพาร์คในออสเตรเลีย”
-ในเดือนมิถุนายนปี 1979 ครอบครัวที่มีความสุขครอบครัวหนึ่งกำลังรอเรือข้ามฟากเพื่อเดินทางไปยังลูน่าพาร์คซึ่งเป็นสวนสนุกยอดนิยมที่ตั้งอยู่ในซิดนีย์ เจนนี่และจอห์นรอคอยเวลานี้มานานแล้ว พวกเขาต้องการพาลูกชายทั้งสองไปเที่ยวให้สนุก โดยหลังจากไปเที่ยวสวนสัตว์ Taronga แล้ว พวกเขาก็พาลูกไปลูน่าพาร์คต่อเพื่อพาลูก ๆ ไปนั่งเครื่องเล่นสนุก ๆ ที่นั่น เด็ก ๆ ตัดสินใจจะนั่งรถไฟผีสิงพร้อมกับพ่อในขณะที่เจนนี่ผู้เป็นแม่ได้แยกตัวออกไปซื้อไอศกรีม เมื่อเธอกลับมาไม่กี่นาที เธอก็เดินเข้าสู่ฝันร้าย แทนที่จะเห็นสามีและลูกชายสองคนกำลังนั่งรถไฟผีสิงอย่างสนุกสนาน เธอกลับเห็นควันไฟเป็นลูกคลื่นพวยพุ่งออกมาจากรถไฟขณะที่มันพุ่งไปตามทางและพนักงานพยายามที่จะนำผู้คนออกจากรถไฟทุกครั้งที่รถไฟโผล่ออกมาจากอุโมงค์ แต่สามีของเจนนี่และลูกชายสองคนของเธอพร้อมกับผู้โดยสารอีกสี่คนไม่สามารถออกมาจากที่นั่นได้ ไม่นานหลังจากเกิดโศกนาฏกรรม เจนนี่ก็พบภาพถ่ายบางรูปที่ถ่ายในวันที่น่ากลัววันนั้น และเธอก็จ้องที่รูปหนึ่งโดยเฉพาะ รูปของดาเมียนลูกชายคนสุดท้องของเธอที่ได้เคยถ่ายไว้ โดยในภาพมีเด็กชายตัวเล็กขี้อายและใกล้ ๆ กับเด็กน้อยก็มีชายสวมหน้ากากปิศาจที่มีเขาบนศรีษะ (ในภาพด้านล่าง) ซึ่งจนถึงปัจจุบันนี้เจ้าหน้าที่ยังคงไม่สามารถหาผู้ชายในภาพนั้นได้ หลังจากข้อเท็จจริงแล้ว มีการเปรียบเทียบระหว่างรูปที่เห็นและพระเจ้า (หรือปีศาจขึ้นอยู่กับเวอร์ชันของ Moloch ที่คุณอ่าน) ซึ่งเชื่อกันว่า Moloch ต้องการให้เด็กถูกเผาทั้งเพื่อเป็นเครื่องบูชา นี่เป็นวิธีที่น่ากลัวในการเสนอการเสียสละของมนุษย์ต่อเทพเจ้าโบราณหรือเป็นการลอบวางเพลิงโดยเจตนาในข้อขัดแย้งทางธุรกิจตามที่บางคนอ้าง เจนนี่เชื่อว่ามีสิ่งชั่วร้ายเกิดขึ้น ซึ่งความลึกลับของคนที่สวมหน้ากากที่มีเขาบนศรีษะยังคงเป็นความลึกลับต่อไป
-ปัจจุบันสวนสนุกลูน่าพาร์คได้ปิดทำการชั่วคราวอาจจะด้วยวิกฤตของโควิดก็เป็นได้นะคะเพราะตอนนี้ลูน่าพาร์คได้กลับมาสดใสแล้วค่ะ 🎠🎡🎢
โฆษณา