คุณเคยสงสัยมั้ยว่าทำไมร้านทุกอย่าง 20 บาทบางร้านขายดีบางร้านขายไม่ดีทั้งๆที่ทำเลเดียวกันเปิดใกล้ๆกัน 3-4 ร้าน บางหมู่บ้านมีถึง 4-5 ร้าน ในหมู่บ้านเดียว?
ผมสนิทกับพี่เจ้าของร้าน20บาทอยู่ร้านนึง เนื่องจากผมเคยไปทำธุรกิจตรงข้ามร้านเค้า ผมจึงถือโอกาสศึกษาเกี่ยวกับธุรกิจร้าน20บาทเพิ่มเติม เค้าบอกว่าคนทำธุรกิจนี้ 80% ส่วนมากซื้อเฟรนไชน์ ของเค้าก็จะมาเป็นเซ็ตเดิมๆเหมือนกันเกือบทุกร้าน ไม่มีอะไรเพิ่มเติมเลย ส่วนอีก 20%คือคนอย่างเค้าที่จะหาวิ่งซื้อของเองอาทิตย์ละ 2 ครั้ง บางส่วนไปเลือกซื้อมาจากโกดังขายส่งสำหรับร้านค้า20บาททุกอย่าง บางส่วนเค้าจะไปเลือกซื้อเองจากโกดังขายส่งในของแต่ละอย่างไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์ที่ใช้ในร้านอาหาร อุปกรณที่ต้องมีติดบ้าน อุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์ช่าง ของต่างๆที่คนต้องใช้ทุกวัน ( ย้ำอีกครั้งน่ะครับ ของที่คนต้องใช้ทุกวัน ) ทุกอย่างเค้าล้วนแล้ววิ่งหาซื้อเองหมด ของตามสำเพ็ง คลองถม บ้านหม้อ เสือป่า เค้าไปเองหมดเพื่อเลือกสินค้าที่ดูดีและราคาไม่แพง ถามว่าร้าน20บาททุกอย่าง ทุกอย่าง20บาทหมดเลยมั้ย ไม่แน่นอนมันต้องมีอยู่แล้วที่ราคาเกินกว่านั้นหรือถูกกว่านั้น คำว่า20บาทมันเป็นแค่ราคาเริ่มต้น หรือราคาโชว์ทางการตลาดเท่านั้น แต่สุดท้ายแล้วก็มีราคาอื่นด้วย แล้วบอกได้เลยว่า 80-90% เป็นของจีน หลายคนมองว่าของจีนไม่ดีใช้งานได้แปปเดียวก็พัง ใช้ครับปฎิเสธไม่ได้เลยแต่ไม่ใช่สินค้าทุกตัวครับเพราะบางอย่างเราก็ต้องยอมรับว่า มันก็คุ้มกับราคา 20 บาทของมันอยู่น่ะครับ และด้วยทุกวันนี้ฐานการผลิตหลักของสินค้าแบนด์ดังๆหลายตัวนั้นอยู่ที่จีน มันก็ไม่แปลกที่จะมีของดีและไม่ดีปนกันมา เมื่อกระบวนการ การเลือกสินค้าเสร็จสิ้นแล้ว เลือกของมาอย่างดีแล้ว สิ่งสำคัญต่อไปคือการจัดร้าน (การจัดร้านนี้่แหละที่ทำให้หลายๆร้านต้องปิดกิจการไปเพราะได้ไม่คุ้ม )
การจัดร้านยังไงให้น่าเดิน จัดร้านยังไงให้น่าเข้า และจัดร้านยังไงให้คนต้องหาของโดยใช้เวลานานๆในร้าน จนหาไม่เจอแล้วต้องถามคนขาย งงใช่มั้ยครับว่าทำไมต้องจัดร้านอย่างนี้ เพราะด้วยคำว่าทุกอย่าง 20 บาทนี่หล่ะคือตัวตั้ง คุณจะจัดร้านแบบกว้างๆเดินสะดวก ทำให้ของดูน้อยและหาง่ายทำไม ในเมื่อ80% คุณจะเป็นของ ราคา20บาทอยู่แล้ว ของขายคุณควรจะเยอะและรกไปเลยเพื่อสร้างปริมาณจำนวนในปริมาณในการขายที่มากขึ้น กำไรต่อชิ้นคุณไม่เยอะก็ต้องเพิ่มจนวนยอดขายให้ได้ เค้าจึงจัดร้านแบบรกๆแต่เป็นระเบียบ อัดของลงให้แน่นร้าน ให้มันดูเยอะ ทางเดินไม่ต้องกว้างมาก ให้ดูวุ่นวายนิดหน่อย จัดของให้ดูลายตาหาของยากเพราะระหว่างลูกค้าหาของที่ต้องการเค้าจะได้เห็นของอย่างอื่นด้วยและสุดท้ายก็ได้สินค้าชิ้นอื่นไปด้วยเพราะด้วยความที่ว่าคุณเลือกสิ้นค้าที่ดูดีน่าซื้อมาแล้ว ลูกค้าเห็นก็จะคิดแล้วว่าเอานี้ไปด้วยดีกว่า20บาทเอง ผลสุดท้ายของลูกค้าที่ตั้งใจซื้อของชิ้นเดียว 20 บาทยังไงก็จ่ายเกิน 20 บาท บางคนหมดเกือบ100 บาท เพราะมัวแต่วุ่นวายหาของที่ต้องการ เดินเบียดหาของกันบ้าง พอหลายๆคนเข้า คนก็แน่นร้าน พอคนข้างนอกมองเข้ามา ก็สงสัยว่าซื้ออะไรกัน ก็ตกเป็นเหยื่อแมลงเม่าบินเข้ากองไฟเดินเข้าไปดูและด้วยปัจจัยสำคัญเลยคือ แค่คำว่า 20 บาทเนี่ยแหละครับ ทำให้ตัดสินใจง่าย ประโยคที่ว่า "แค่ 20 บาทเองเอาอันนี้ไปด้วยดีกว่า " ประโยคนี่แหละครับที่ทำให้พี่เค้าเป็นเจ้าของร้าน20บาทสร้างเงินล้านได้ ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่า ร้านทุกอย่าง20บาทคือที่ ที่คนระดับกลางลงล่างอย่างผมและอีกหลายๆคน นิยมไปเลือกซื้อของใช้ในบ้าน และอุปกรณ์มือถือเพื่อใช้แก้ขัดระหว่างขัดสนเรื่องเงิน แต่เมื่อทุกอย่างดีขึ้นแล้วผมแนะนำว่าของบางอย่างที่จำเป็นต้องใช้ในระยะยาว ให้ไปดูหาซื้อที่ดีดีไปเลยดีกว่าตามห้างแบรนด์ดังต่างๆ เพราะคุณจะซื้อครั้งเดียวจบเลยยาวไป แต่ถ้าคุณไม่ซีเรียสอย่างผมก็มั่นเข้าไปซื้อทีละ20บาทก็ได้ครับเพราะมันก็ใช้ได้เหมือนกัน
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
