เขาได้ทุ่มเทอย่างหนักในการจดบันทึกสถิติรวมถึงการเล่นต่างๆในทุกๆเกมที่เหลืออยู่ในฤดูกาลนั้น จนสุดท้ายเขาก็ได้ข้อสรุปออกมาว่า การทำประตูส่วนใหญ่นั้นจะเกิดขึ้นจากการจ่ายบอลไม่เกินสามครั้งเพียงเท่านั้น ซึ่งทฤษฎีนั้นได้ก่อให้เกิดเป็นสไตล์ Long Ball ขึ้นซึ่งเป็นสไตล์การเล่นที่เน้นโยนบอลยาวไปให้กองหน้า Target Man เพื่อพักบอลเริ่มเกมบุกบริเวณใกล้กรอบเขตโทษทันทีหรืออีกวิธีหนึ่งคือการส่งบอลไปให้ปีกเพื่อขึ้นเกมด้วยความเร็วสูง แต่อย่างไรก็ตามในปัจจุบันด้วยอิทธิพลจากกุนซือต่างชาติที่นำปรัชญาแทคติกต่างๆมากมายเข้ามาในลีกสูงสุดของอังกฤษจึงทำให้สไตล์ Long Ball แบบต้นตำรับนั้นกลายเป็นเพียงแค่สไตล์ที่ล้าสมัยที่มีแต่ทีมเล็กที่ขาดผู้เล่นจอมเทคนิค
พรสวรรค์สูงนิยมใช้ไปแล้วหรืออย่างมากก็เป็นได้เพียงแค่ชิ้นส่วนในการเล่นของแทคติกสไตล์อื่นๆไปเท่านั้น ในปี1972 ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรอบคัดเลือกนัดเพลย์ออฟ ทีมชาติอังกฤษในสไตล์ Long Ball ได้ถูกทีมชาติเยอรมันในสไตล์ Total Football สอนบอลซะขายขี้หน้าโดยถล่มไป 3-1 ซึ่งแสดงให้เห็นได้ชัดเจนว่าสไตล์นี้ไม่ได้มีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าสไตล์อื่นแต่อย่างใด
ในช่วงทศวรรษ2010 นั้น Catenaccio สมัยใหม่ได้วิวัฒนาการอีกครั้งกลายเป็นสไตล์ Park the Bus ที่ถูกใช้อย่างได้ประสิทธิภาพในเวลาต้องเผชิญกับทีมที่เหนือกว่า สไตล์นี้ถูกใช้จนประสบความสำเร็จโดยโรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอสมัยคุมเชลซีชุดแชมป์ยุโรปในฤดูกาล2011-12 และโชเซ่ มูรินโญ่ สมัยคุมเชลซีรอบสองชุดคว้าแชมป์ลีกในฤดูกาล2014-15 Park the Bus เป็นสไตล์การเล่นที่นำผู้เล่นทั้งหมดลงไปตั้งรับอยู่ในแดนตัวเองโดยทิ้งกองหน้าห้อยหน้าไว้หนึ่งคนและใช้วิธีโยนบอลยาวไปให้กองหน้าหรือใช้วิธีโต้กลับเร็วเพียงไม่กี่จังหวะโดยหวังพึ่งปาฏิหาริย์ในการทำประตูในไม่กี่ครั้ง
จนกระทั่งบุรุษผู้เป็นทั้งอดีตผู้เล่นและลูกศิษย์ของแจ็ค เรย์โนลด์สอย่าง ไรนุส มิเชลส์ ได้เข้ามากุมบังเหียนในฤดูกาล1965-66 และแล้วในที่สุด Total Football ฉบับสมบูรณ์ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น มิเชลส์ได้ขัดเกลา Total Football จนสมบูรณ์
ในช่วงเวลานั้นที่ปรัชญาฟุตบอลเน้นเกมรับ Catenaccio ยังคงครองความยิ่งใหญ่อยู่อย่างต่อเนื่อง มิเชลส์ได้นำปรัชญา Total Football เวอร์ชั่นสมบูรณ์ พาอาแจกซ์เถลิงแชมป์ยุโรปได้สำเร็จในฤดูกาล 1970-71 ที่นำทัพโดยโยฮัน ครัฟฟ์ ที่กลายเป็นสุดยอดผู้เล่นไปแล้วในตอนนั้น ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณเตือนอย่างชัดเจนไปสู่ทีมที่ใช้ปรัชญา Catenaccio ทั้งหลายว่าพวกเขาพร้อมที่จะขึ้นมาท้าทายบัลลังก์อย่างเต็มตัวแล้ว
สาเหตุมาจากระบบและโครงสร้างของ Total Football นั้นเป็นสิ่งที่ฟุตบอล Catenaccio นั้นแพ้ทางอย่างมาก ด้วยการเล่นที่ผู้เล่นสามารถสลับสับเปลี่ยนไม่มีตำแหน่งตายตัวอยู่ตลอดเวลานั้นทำให้เกมรับแบบ Man Marking ของ Catenaccio ถึงกับต้องพังทลายลง จึงทำให้อาแจกซ์ในยุคนั้นสามารถขึ้นเป็นมหาอำนาจของยุโรปด้วยการคว้าแชมป์ยุโรปติดต่อกันถึงสามปีซ้อนและในที่สุดปรัชญามหาอุด Catenaccio ก็ได้ถูกโค่นลงจากบัลลังก์อย่างสมบูรณ์และถูกแทนที่โดยTotal Football ปรัชญาสายบุกที่มีการเล่นที่สวยงามดั่งชิ้นงานของศิลปิน
และเรื่องสุดท้ายซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในระบบของคล็อปป์เลยนั่นก็คือการเน้นให้ฟูลแบ๊คสองข้างเติมขึ้นสูงกว่าปกติเพื่อโจมตีในพื้นที่Wing Space จนเหมือนเป็นกองหน้า 5 คนเพื่อเป็นการเพิ่มจำนวนในกรอบเขตโทษเพื่อใช้ในการเจาะทีมที่ชอบอุดด้วยแผน Park the Bus
ซึ่งเปรียบได้ว่าซีดานได้นำก๊กทั้งสามปรัชญามารวมกันเป็นหนึ่งได้สำเร็จในทีมๆเดียว จึงทำให้ซีดานกลายเป็นกุนซือ คนแรกที่ถูกยกย่องว่าเป็นปรมาจารย์แห่งทุกปรัชญา (Master of Every Tactics) ผู้ที่สามารถยุติสงครามสามก๊กแห่งโลกฟุตบอลให้จบลงอย่างสมบูรณ์...