5 ก.พ. 2021 เวลา 11:00 • ความงาม
DIY Mask น้ำผึ้ง 100% หรือจะสู้ครีมน้ำผึ้งสำเร็จรูป!!!!! *มีผลิตภัณฑ์แนะนำช่วงท้ายครับ*
ผิวระคายเคือง ผิวเป็นสิว ผิวแห้งลอก ใครๆก็บอกให้พอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง หาก็ง่าย พอกแล้วล้างออก แต่เอ๊ะ!!! ทำไมเค้าต้องออกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำผึ้งขายตั้งแต่ราคาหลักร้อยถึงหลักพันด้วยทั้งๆที่น้ำผึ้ง 100% หาไม่ยากและราคาก็ไม่แพง บทความนี้อยากให้ผู้อ่านมาลองมุมมองของนักพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์ว่าการนำส่วนประกอบต่างๆมาเข้าตำรับมีความสำคัญอย่างไร นอกจากนี้โบนัสได้นำผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจจาก bee product มาแนะนำสำหรับคนที่ประสบปัญหาผิวระคายเคือง เป็นสิว และผิวลอกจากยารักษาสิวมาฝากด้วยครับ
ขอขอบคุณ Inspiration จากรีวิว I’m from Honey Mask ของคุณ Mhee Review หมีเกาหลีรีวิว 곰리뷰 ที่ทำให้เกิดบทความนี้ขึ้นมา
I’m from Honey Mask เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมในเกาหลีใต้ในช่วงอากาศหนาวที่ผ่านมา ในวิดิโอของคุณหมีรีวิวจะเป็นวิดิโอสาธิตวิธีการใช้และอธิบายผลลัพธ์ที่ claim โดยทางแบรนด์ครับ
ลิ้งเข้ารับชมวิดิโอ:
เรามาเริ่มจากประโยชน์ของน้ำผึ้งกันก่อนนะครับ *สรุปย่อคือ Bullet point ในรูปภาพครับ*
 
น้ำผึ้งเป็นผลผลิตจากผึ้งที่ประกอบไปด้วยน้ำตาล rhamnose, sucrose, nigerobiose, maltose, isomaltose, maltotetraose, maltulose, maltotriose,melezitose, melibiose, palatinose, nigerose, trehalose, raffinose, และ erlos ซึ่งมีคุณสมบัติในเรื่องของการให้ความชุ่มชื้นกับผิวเป็นหลัก น้ำตาลบางตัวอาทิ Rhamnose ก็มีส่วนช่วยในการลด pro-inflammatory cytokines ซึ่งช่วยลดการอักเสบของผิวได้เช่นกัน
น้ำผึ้งยังประกอบไปด้วยกรดอะมิโนซึ่งประกอบไปด้วย Proline เป็นองค์ประกอบหลักที่ช่วยทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้น้ำผึ้งยังประกอบไปด้วย วิตามิน A, C, E, B5, B6 และอื่นๆ รวมถึงมีโปรตีน carbohydrate และ trace minerals ที่ช่วยเรื่อง antioxidant, anti-inflammation, skin regeneration และยังเป็น Natural Moisturizing Factor อีกด้วย (NMF) ตามลำดับ
 
คุณสมบัติที่ทำให้น้ำผึ้งโดดเด่นคือคุณสมบัติในการลดการสะสมของจุลชีพ สมานผิว และ การต้านการอักเสบ ในส่วนของการต้านจุลชีพในเอนไซม์ของน้ำผึ้งมี Glucose oxidase ซึ่งจะผลิต Hydrogen Peroxide ซึ่งมีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรียก่อสิว มี Flavonoids และ phenolic acid ซึ่งมีฤทธิ์ลดการเจริญเติบโตของจุลชีพ และ นอกจากนี้น้ำผึ้งยังมี enzyme lysozyme ซึ่งเป็นตัวที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของยีสต์-ราครับ
 
ในแง่ของการสมานผิว มีการอ้างอิงกลไกการทำงานที่เป็นไปได้จากการทดสอบอยู่สามแนวทางคือ
1. ด้วยความที่น้ำผึ้งมีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลชีพทำให้ facilitate กระบวนการซ่อนแซมเนื้อเยื้อ
2. จากการทดสอบในอาสาสมัครทดลองที่มีแผลไหม้ พบว่าน้ำผึ้งสามารถต่อต้านอนุมูลอิสระที่เกิดจาก oxidative stress ของผิวที่ถูกไฟไหม้ จึงทำให้แผลมีอาการที่ดีขึ้นแต่กลไกนี้ยังเป็นกลไกที่ยังไม่เป็นที่เข้าใจนักในกลุ่มผู้วิจัยนัก
3. จากการทดลองในรูปแบบ in-vitro พบว่าน้ำผึ้งมีคุณสมบัติเป็น Cell-communication ingredient ที่ทำให้เกิดการเพิ่มจำนวนของเซลล์ (Cell proliferation) ดังนั้นจึงช่วยส่งเสริมการสมานผิวได้
Reference:
McLoone, Pauline, Afolabi Oluwadun, Mary Warnock, and Lorna Fyfe. “Honey: A Therapeutic Agent for Disorders of the Skin,” August 4, 2016. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5661189/?fbclid=IwAR2MuhV3SUVUAq3TFcDCVQhfC_y-VZ2UJ435qYGe3IISL5_1o2ncO2N3duU.
Majtan, Juraj, Pawan Kumar, Tomas Majtan, Andrew F. Walls, and Jaroslav Klaudiny. “Effect of Honey and Its Major Royal Jelly Protein 1 on Cytokine and MMP-9 MRNA Transcripts in Human Keratinocytes.” Experimental Dermatology 19, no. 8 (2009). doi:10.1111/j.1600-0625.2009.00994.x.
Kurek-Górecka, Anna; Górecki, Michał; Rzepecka-Stojko, Anna; Balwierz, Radosław; Stojko, Jerzy. 2020. "Bee Products in Dermatology and Skin Care" Molecules 25, no. 3: 556. https://doi.org/10.3390/molecules25030556
ประโยชน์จองน้ำผึ้งเมื่อทาลงบนผิว
ทีนี้เรามาดูข้อดี - ข้อเสียของน้ำผึ้ง 100% และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากน้ำผึ้งเมื่อใช้กับผิว ต่างกันยังไง?
ผมได้ลงข้อมูลในตารางเปรียบเทียบให้ดูกันตามภาพเลยครับ
นอกจากนี้ยังมีวัตถุดิบที่มาจากผึ้งในรูปแบบอื่นที่น่าสนใจและมีประสิทธิภาพสูงที่นักวิจัยและพัฒนาเครื่องสำอางนำมาใช้เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็น Bee product concept ให้มีความโดดเด่นในด้านประสิทธิภาพและ Marketing มากยิ่งขึ้น อาทิ Propolis, Royal Jelly, Bee wax และ Bee venom
*สรุปย่อคือ Bullet point ในรูปภาพครับ*
 
Propolis:
Propolis เป็นวัตถุดิบจากผึ้งที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในด้านการยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลชีพและการลดการอักเสบ ในแง่ของการต้านการเจริญเติบโตของจุลชีพ Propolis มีประสิทธิภาพสูงในการรักษาสิวโดยมีฤทธิ์ในการลดจำนวนของแบคทีเรียก่อสิวอย่าง C. Acne และ S. epidermidis นอกจากนี้ Propolis ยังถูกใช้อย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและยาที่ใช้เพื่อรักษาผิวที่มีอาการติดเชื้อจากแบคทีเรียและเชื้อรา
Propolis ยังประกอบไปด้วย Caffeic acid ที่ช่วยในการต้านการอักเสบและ Genistein ที่ช่วยในด้านการสมานแผล อีกทั้ง Propolis ยังประกอบไปด้วย Phenolic compounds และ flavonoids อีกมากมายที่มีฤทธิ์ anti-oxidant เป็นอย่างดี
Royal Jelly:
Royal Jelly เป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบจากผึ้งที่มักถูกใส่มาในผลิตภัณฑ์ที่มีราคาสูง เนื่องจากมีคุณสมบัติหลายประการ Royal jelly มีฤทธิ์การต่อต้านจุลชีพ ช่วย antioxidant และเติมความชุ่มชื้นเป็นอย่างดี สำหรับคนผิวมัน Royal Jelly มีส่วนช่วยทำให้สมดุลการผลิตน้ำมันบนผิวเป็นปกติอีกด้วย นอกจากนี้ Royal Jelly ยังมีคุณสมบัติที่โดดเด่นในเรื่องของการลดการอักเสบโดยผ่านกลไกการยับยั้ง pro-inflammatory cytokines อาทิ TNF-α, IL-6, IL-1 และ ช่วยในการสมานแผลโดยมี defensin-1ไปกระตุ้นการผลิต MMP-9, กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อ และกระตุ้นการปิดแผล และท้ายที่สุด Royal Jelly มีคุณสมบัติในการ Anti-aging โดย Royal jelly มีองค์ประกอบสำคัญที่ชื่อว่า 10-hydroxy-trans-2-decenoic acid ที่มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการผลิต fiboblast ของคอลลาเจนและกระตุ้นการผลิต Transforming Growth Factor (TGF) ซึ่งมีผลกระทบในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของผิวครับ
Bee wax:
Bee wax เป็นแว็กซ์ที่มีลักษณะเป็น ของแข็งที่เมื่อโดนความร้อนก็จะนิ่มลงและหลอมเหลวเป็นของเหลว คุณสมบัติที่เด่นชัดคือคุณสมบัติในการเคลือบผิวเพื่อทำให้ผิวนุ่มลื่นและป้องกันการระเหยออกของน้ำในผิวหรือที่เรียกกันว่า Trans Epidermal Water Loss (TEWL) จึงเหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับคนที่มีผิวค่อนไปทางผิวแห้ง แต่ไม่เหมาะกับคนที่ผิวมันเพราะอาจเข้าไปอุดตันผิวได้ครับ
Bee Venom:
Bee Venom เป็นพิษผึ้งที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องของการยับยั้งจุลชีพโดยเฉพาะ C.Acne โดยมี Toxic peptide ชื่อ Melittin ที่มีฤทธิ์ในการทำลาย Cell wall ของแบคทีเรีย และช่วยรักษาผิวที่มีปัญหาที่มาจากเชื้อราและเชื้อไวรัสเช่นกัน Bee venom ยังมีฤทธิ์ในการต่อต้านการอักเสบของเซลล์โดยการยับยั้ง pro-inflammatory cytokines อาทิ IL-1β, TNF-α และ IL-6 อีกทั้งยังยับยั้งเอนไซม์ COX-2 ซึ่งจะไปลดการผลิต Prostaglandins ที่เกิดขึ้นในกระบวนการอักเสบนั่นเอง นอกจากนี้ Bee venom ยังมีคุณสมบัติในการ antioxidant อีกด้วย
 
Photo credit: ภาพถ่ายโดย Ion Ceban @ionelceban จาก Pexels
Reference:
Kurek-Górecka, Anna; Górecki, Michał; Rzepecka-Stojko, Anna; Balwierz, Radosław; Stojko, Jerzy. 2020. "Bee Products in Dermatology and Skin Care" Molecules 25, no. 3: 556. https://doi.org/10.3390/molecules25030556
Majtan, Juraj, Pawan Kumar, Tomas Majtan, Andrew F. Walls, and Jaroslav Klaudiny. “Effect of Honey and Its Major Royal Jelly Protein 1 on Cytokine and MMP-9 MRNA Transcripts in Human Keratinocytes.” Experimental Dermatology 19, no. 8 (2009). doi:10.1111/j.1600-0625.2009.00994.x.
มาในส่วนของการแนะนำผลิตภัณฑ์ครับ
ชื่อผลิตภัณฑ์: I'm From Honey Mask
ประเภทการใช้งาน:
✅ใช้ในการ Mask บำรุงผิวแบบล้างออกในขั้นตอนหลังล้างหน้า แล้วบำรุงผิวต่อ ในกรณีที่เป็นสภาพผิวแห้งและเป็นสิว สามารถใช้ควบคู่กับยารักษาสิวได้ ✅เพื่อลดความระคายเคืองและความแห้งกร้านของผิว
ช่วยอะไรและเหมาะกับปัญหาผิวแบบไหน:
✅ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เคลือบผิว ลดความแห้งกร้าน ปลอบปะโลมให้ผิวแข็งแรง และ ลดการสะสมของเชื้อก่อสิว
✅เหมาะสำหรับคนผิวผสมค่อนไปทางแห้งถึงผิวแห้งมาก เหมาะกับผู้เป็นสิวผิวแห้ง ไม่เหมาะกับคนผิวผสมค่อนไปทางมันถึงคนผิวมัน
ปราศจากแอลกอฮอล์, ปราศจากซิลิโคน, ปราศจากสารกันเสีย (positive lists)
สรุปภาพรวมผลิตภัณฑ์:
เป็น Mask แบบล้างออก เนื้อมาส์กค่อนข้างหนาข้น เหมาะกับคนผิวแห้ง ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีวัตถุดิบจากผลผลิตของผึ้งค่อนข้างเยอะ ผสมผสานได้อย่างลงตัวอาทิ Honey, Propolis, Royal Jelly, Bee wax และ Bee venom ทำให้ได้ประสิทธิภาพในด้านการปลอบปะโลมผิว สมานผิว และลดการสะสมของเชื้อสิวได้ จุดเด่นที่น่าสนใจอีกจุดคือการนำน้ำมันสกัดจากเมล็ดพืชต่างๆรวมถึง Shea butter มาใช้ร่วมกับสารเติมน้ำให้ผิวอย่าง Pentylene Glycol ทำให้ประสิทธิภาพของการเติมความชุ่มชื้นขั้นพื้นฐานเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์ เพราะสามารถที่จะเติมน้ำ เคลือบกักเก็บความชุ่มชื้น และเติมเต็มกรดไขมันจำเป็นได้พร้อมกัน ส่วนผสมที่น่าสนใจอีกตัวคือ Beta-Glucan ที่ช่วยปลอบปะโลมผิวและทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ในส่วนที่ทางแบรนด์ claim ว่าเป็นตัวช่วยผลัดเซลล์ผิวโบนัสมองว่าเป็นการปรับให้ผิวมีกระบวนการผลัดเซลล์อย่างเป็นปกติโดยการรักษาความชุ่มชื้นให้พอเหมาะมากกว่าครับ เพราะหากผิวแห้ง ผิวจะมีกระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติที่ไม่ดีจึงเกิดการลอกเป็นจุดๆครับ อย่างไรก็ตามสูตรนี้มีสารที่มีคุณสมบัติเป็น Fragrance (มีระบุในส่วนของการวิเคราะห์ส่วนผสม) ดังนั้นจึงอาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ระคายเคืองง่ายครับ
วิเคราะห์ส่วนผสม:
ส่วนประกอบ:
Honey, Caprylic/​Capric Triglyceride, PEG-7 Glyceryl Cocoate, Disteardimonium Hectorite, Macadamia Ternifolia Seed Oil, Helianthus Annuus (Sunflower) Seed Oil, Pentylene Glycol, Butyrospermum Parkii (Shea) Butter, Beeswax, Tocopheryl Acetate, Argania Spinosa Kernel Extract, Corylus Avellana (Hazel) Seed Oil, Simmondsia Chinensis (Jojoba) Seed Oil, Snail Secretion Filtrate, Water, Bambusa Vulgaris Water, Nelumbo Nucifera Flower Water, Aloe Barbadensis Leaf Water, Propolis Extract, Beta-Glucan, Bee Venom, Citrus Paradisi (Grapefruit) Fruit Extract, Sophora Angustifolia Root Extract, Eugenia Caryophyllus (Clove) Flower Extract, Eucalyptus Globulus Leaf Extract, Punica Granatum Fruit Extract, Bambusa Vulgaris Extract, Butylene Glycol, Glycerin.
 
Highlighted Ingredients: Propolis Extract, Honey Extract, Royal Jelly Extract, Bee Venom
 
กลุ่มให้ความชุ่มชื้น
กลุ่มเคลือบผิวทำให้ผิวนุ่ม
Caprylic/​Capric Triglyceride - เป็น Medium Chain Triglyceride ซึ่งถือเป็น Carrier oil ที่ช่วยเป็น Penetration Enhancer อีกทั้งเป็น emollient ที่ช่วยเคลือบปกคลุมผิว ทำให้ผิวนุ่ม และป้องกันการสูญเสียน้ำของผิว (trans epidermal water loss, TEWL) ได้
 
Macadamia Ternifolia Seed Oil, Helianthus Annuus (Sunflower) Seed Oil, Butyrospermum Parkii (Shea) Butter, Argania Spinosa Kernel Extract, Corylus Avellana (Hazel) Seed Oil, Simmondsia Chinensis (Jojoba) Seed Oil - ขออนุญาตรวมกลุ่มเป็น oil, butter, liquid wax หรือ emollient ที่มาจากพีชแล้วกันนะครับ ผลิตภัณฑ์นี้มีการเลือกใช้ emollient ชนิดต่างๆของพืช ที่ให้ Fatty acid ในการสร้างความแข็งแรงของ lipid ใน Skin barrier อีกทั้งยังมี unsaponifiable matter เช่น phytosterol และวิตามินต่างๆที่มีส่วนช่วยในการลดการระคายเคืองของผิวได้ นอกจากนี้ emollient ยังมีคุณสมบัติทำให้ผิวนุ่มและป้องกันการสูญเสียน้ำของผิว (trans epidermal water loss, TEWL) ได้
 
Beeswax - ทำหน้าที่เคลือบผิวป้องกันการสูญเสียน้ำของผิว (trans epidermal water loss, TEWL)
 
PEG-7 Glyceryl Cocoate - ตัวนี้จะเป็นสารชำระล้างแบบไร้ประจุ (มันทำความสะอาดไม่ได้ดีมากขนาดนั้น แต่ดีพอที่จะสามารถล้าง Mask บนหน้าออกได้) ที่มีความอ่อนโยนสูง และมีคุณสมบัติในการเป็น lipid layer enhancer ในตัวมันเอง กล่าวคือเวลาเราล้าง Mask ออก สารตัวนี้จะช่วยปกป้องไขมันตามธรรมชาติของผิวไม่ให้ถูกชะล้างออกไปด้วย ทำให้ผิวสามารถเก็บรักษาความชุ่มชื้นไว้ได้และไม่รู้สึกแห้งตึงหลังจากการล้างหน้าครับ
 
กลุ่มเติมน้ำให้ผิว
Pentylene Glycol - Humectant ที่ดีและเป็น Penetration Enhancer หรือตัวช่วยนำพาสารต่างๆเข้าสู่ผิว
 
กลุ่มปลอบปะโลมผิว ลดอาการระคายเคือง
Snail Secretion Filtrate - เมือกหอยทาก มีคุณสมบัติในช่วยสมานผิว และช่วยลดอาการระคายเคืองของผิว และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
 
Beta-Glucan - เป็น Polysaccharide ที่ได้จากยีสต์หรือข้าวโอ๊ต มีฤทธิ์ในการช่วย ปลอบปะโลมผิว ทำให้ผิวแข็งแรง และช่วย antioxidant
 
Bambusa Vulgaris Water - น้ำจากต้นไผ่ หลักๆช่วยในการปลอบปะโลมผิวและช่วยลดอาการระคายเคือง
 
กลุ่ม Antioxidant
Tocopheryl Acetate - วิตามิน E ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ
 
ส่วนผสมที่เป็นสารสกัดจากพืชที่เหลือที่ไม่ได้กล่าวถึงจะเป็นพวก Skin conditioning agent นะครับ
 
ส่วนตัวที่เป็น Fragrance แต่ไม่ได้ถึงขนาดต้องระแวงว่าเป็นผลิตภัณฑ์ไม่ดีให้โยนทิ้ง เพราะสารบางตัวในรายการต่อไปนี้ก็มีประโยชน์ในตัวของมันคือสารที่ถูกระบุตามรายการดังต่อไปนี้
1. Eugenia Caryophyllus (Clove) Flower Extract เป็น ตัวทำให้รูขุมขนหดตัว และ Fragrance ตาม EU
2. Eucalyptus Globulus Leaf Extract เป็น Perfuming และ Skin Conditioning (เเต่ช่วยเสริมสร้างเซราไมด์นะ) ตาม EU
3. Aloe Barbadensis Leaf Water เป็น Fragrance ตาม EU
*ความแตกต่างระหว่าง Aloe Barbadensis Leaf Water & Aloe Barbadensis Leaf Juice Extract
อย่าสับสนกัน เนื่องจาก Aloe Barbadensis Leaf Water ผลิตโดยกระบวนการกลั่น Steam distillation และตัว Aloe Barbadensis Leaf Water มีคุณสมบัติเป็น Fragrance อ้างอิงตาม EU ซึ่งต่างจาก Aloe Barbadensis Leaf Juice Extract ที่มีคุณสมบัติในการลดอาการระคายเคือง และสมานแผลอย่างที่เราเข้าใจกัน ณ ตอนนี้ผมยังไม่สามารถหาข้อมูลสนับสนุนเชิงประสิทธิภาพของ Aloe Barbadensis Leaf Water ได้ว่าจะมีผลเหมือนตัว Extract หรือไม่ หากมีข้อมูลสนับสนุนสามารถ comment บอกผมได้นะครับ :)
Additive อื่นๆ - มีความปลอดภัยค่อนข้างดี อย่างไรก็ตามพยายามใช้ผลิตภัณฑ์ให้หมดตามระยะเวลาที่กำหนดตามสัญลักษณ์ PAO (Period after open) ที่ระบุบนฉลาก เพราะว่ามีส่วนประกอบของ Oil และ wax ธรรมชาติค่อนข้างเยอะ ดังนั้นจึงมีแนวโน้มที่จะเกิดการหืนของน้ำมันได้ในอนาคตเนื่องจากไม่ได้ใส่สารคงคุณภาพของน้ำมันประเภท antioxidant ในผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์นี้เป็นบรจุภัณฑ์แบบกระปุกและเป็นสูตร Preservative free ดังนั้นจึงควรใช้ไม้พายตักและรักษาความสะอาดให้ดี เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของผลิตภัณฑ์
ชื่อผลิตภัณฑ์: Skinfood Royal Honey Propolis Enrich Essence
ประเภทการใช้งาน:
✅ใช้ในการบำรุงผิวในขั้นตอนเซรั่ม หากรักษาสิวอยู่ สามารถใช้ควบคู่กับยารักษาสิวเพื่อลดอาการระคายเคืองและความแห้งจากยารักษาสิว อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการลดการสะสมเชื้อก่อสิวได้
ช่วยอะไรและเหมาะกับปัญหาผิวแบบไหน:
✅ลดการสะสมของเชื้อก่อสิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และ ปลอบปะโลมให้ผิวแข็งแรง
✅เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว (ใช้ตามปริมาณที่เหมาะสม) ผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้แต่ต้อง patch test ให้เรียบร้อยก่อน แต่ไม่เหมาะกับคนที่แพ้ยีสต์หรือสารประเภทหมักบ่ม
ปราศจากน้ำมัน, ปราศจากแอลกอฮอล์, ปราศจากซิลิโคน, ปราศจากน้ำหอม, ปราศจากสารกันเสีย (positive lists)
 
สรุปภาพรวมผลิตภัณฑ์:
เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการผสมผสานผลผลิตจากผึ้งอย่างลงตัว ซึ่งคือ Honey, Royal Jelly และ Propolis ทำให้สามารถคาดหวังผลในด้านการปลอบปะโลมผิวจากความระคายเคืองและการลดการสะสมของเชื้อสิวได้ อีกทั้งยังเสริมประสิทธิภาพด้านความชุ่มชื้นด้วย Sodium Hyaluronate และปลอบปะโลมให้ผิวแข็งแรงขึ้น ด้วย Beta-glucan สิ่งที่น่าสนใจในนี้คือการที่ทางผู้ผลิตเติม Lactobacillus Ferment ลงมาในสูตรซึ่งมีคุณสมบัติสำคัญในการสร้างสมดุลที่ดีให้กับ Skin microbiota บนผิว เพราะสัดส่วนของจุลชีพแต่ละชนิดที่อยู่บนผิวมีผลกระทบต่อสุขภาพของผิวครับ ข้อดีอีกอย่างของตัวนี้คือส่วนผสมมีรายการค่อนข้างสั้น หมายความว่าโอกาสที่ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์จะมีความเสี่ยงที่จะเจอกับสารที่อาจก่อความระคายเคืองได้น้อยลงครับ
วิเคราะห์ส่วนผสม:
ส่วนประกอบ:
Propolis Extract, Honey Extract, Royal Jelly Extract, Butylene Glycol, Dipropylene Glycol, Portulaca Oleracea Extract, Glycerin, Beta-Glucan, Lactobacillus Ferment, Saccharomyces Ferment, Sodium Hyaluronate, Hydroxyethylcellulose, Disodium Edta, Carbomer, Arginine.
 
Highlighted Ingredients: Propolis Extract, Honey Extract, Royal Jelly Extract
 
กลุ่มให้ความชุ่มชื้น
กลุ่มเติมน้ำให้ผิว
Glycerin - Humectant พื้นฐานที่ดีและเป็น Penetration Enhancer หรือตัวช่วยนำพาสารต่างๆเข้าสู่ผิว
Butylene Glycol - Humectant พื้นฐานที่ดีและเป็น Penetration Enhancer หรือตัวช่วยนำพาสารต่างๆเข้าสู่ผิว
Dipropylene Glycol - Humectant ให้ความชุ่มชื้น
Sodium Hyaluronate - Humectant ให้ความชุ่มชื้น
 
กลุ่มปลอบปะโลมผิว ลดอาการระคายเคือง
Beta-Glucan - เป็น Polysaccharide ที่ได้จากยีสต์หรือข้าวโอ๊ต มีฤทธิ์ในการช่วย ปลอบปะโลมผิว ทำให้ผิวแข็งแรง และช่วย antioxidant
Portulaca Oleracea Extract - ผักเบี้ยใหญ่ เป็น plant extract ที่เน้นไปทาง anti-inflammation และ anti-irritation
 
 
กลุ่ม Miscellaneous
Saccharomyces Ferment - จะเป็นพวกยีสต์หมักบ่มที่ประกอบไปด้วยแร่ธาตุ กรดอะมิโนที่จำเป็นแก่ผิว และมีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวเเข็งแรง และสีผิวสม่ำเสมอ อย่างไรก็ตามโบนัสไม่สามารถบอกคุณสมบัติเฉพาะของสารตัวนี้ได้ 100% เนื่องจากไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งที่มาของสารตัวนี้ โดยส่วนใหญ่สารที่เป็น ยีสต์หมักบ่มของแต่ละผู้ผลิตจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไปเล็กน้อยตามปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับ วัตถุดิบที่ใช้ในการหมักบ่ม วิธีการหมักบ่ม ดังนั้นผลลัพธ์เกี่ยวกับเรื่องประสิทธิภาพก็จะแตกต่างเช่นกันครับ
Lactobacillus Ferment - เป็น แบคทีเรียดี แบบ Post-biotic (แบบที่ตายแล้ว) ช่วยในการสร้างสมดุลของ Skin microbiota บนผิวทำให้ผิวมีสุขภาพที่ดีและเเข็งแรง และให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
 
Additive อื่นๆ - มีความปลอดภัยต่อผิวสูงมากและค่อนข้างประทับใจที่ไม่ใช้สารกลุ่ม Triethanolamine หรือ tromethamine ในการ neutralize carbomer แต่ใช้ arginine แทนซึ่งเป็นมิตรกับผิวกว่ามาก นอกจากนี้สูตรนี้ยัง Preservative-free, Alcohol free และ PEG free อีกด้วยซึ่งมีความอ่อนโยนต่อผิวมาก ถือว่ามีการวางโครง Additive ที่ดี
ชื่อผลิตภัณฑ์: COSRX Full Fit Propolis Light Ampoule
ประเภทการใช้งาน:
✅ใช้ในการบำรุงผิวในขั้นตอนเซรั่ม หากรักษาสิวอยู่ สามารถใช้ควบคู่กับยารักษาสิวเพื่อลดอาการระคายเคืองและความแห้งจากยารักษาสิว
ช่วยอะไรและเหมาะกับปัญหาผิวแบบไหน:
✅ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ปลอบปะโลมให้ผิวแข็งแรง และ ลดการสะสมของเชื้อก่อสิว
✅เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว (ใช้ตามปริมาณที่เหมาะสม) ผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้แต่ต้อง patch test ให้เรียบร้อยก่อน
ปราศจากน้ำมัน, ปราศจากแอลกอฮอล์, ปราศจากซิลิโคน, ปราศจากน้ำหอม, ปราศจากสารกันเสีย (positive lists)
 
สรุปภาพรวมผลิตภัณฑ์:
เป็นผลิตภัณฑ์ที่มี concept คล้ายคลึงกับ Skinfood Royal Honey Propolis Enrich Essence แต่จะมีส่วนผสมจากผึ้งหลักๆคือตัว Propolis Extract และมี active ingredients ที่เน้นเรื่องความชุ่มชื้นและปลอบปะโลมผิวเป็นหลัก ซึ่งคือ Sodium Hyaluronate และ Betain ถึงแม้ว่าเมื่อเปรียบเทียบกับ Skinfood ส่วนผสมและประสิทธิภาพตัวนี้อาจจะดูไม่หวือหวา แต่โบนัสอยากให้ผู้อ่านมองในมุมมองที่ว่าส่วนผสมที่ผู้ผลิตเลือกใช้ในตำรับนี้มีความอ่อนโยนสูง ให้ผลลัพธ์ที่ดีในด้านความชุ่มชื้น และ ให้ผิวที่แข็งแรงขึ้น โบนัสว่าผลิตภัณฑ์นี้เป็น option ที่ดีสำหรับคนที่ไม่สามารถใช้พวกยีสต์หรือสารหมักบ่มที่ผสมใน Skinfood ตัวก่อนหน้านี้ได้ครับ ข้อดีอีกอย่างของตัวนี้คือส่วนผสมมีรายการค่อนข้างสั้น หมายความว่าโอกาสที่ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์จะมีความเสี่ยงที่จะเจอกับสารที่อาจก่อความระคายเคืองได้น้อยลงครับ
วิเคราะห์ส่วนผสม:
ส่วนประกอบ:
Propolis Extract, Butylene Glycol, Glycerin, Betaine, 1,2-Hexanediol, Cassia Obtusifolia Seed Extract, Sodium Hyaluronate, Hydroxyethylcellulose, Carbomer, Panthenol, Arginine.
 
Hilighted Ingredients: Propolis Extract
 
กลุ่มให้ความชุ่มชื้น
กลุ่มเติมน้ำให้ผิว
Glycerin - Humectant พื้นฐานที่ดีและเป็น Penetration Enhancer หรือตัวช่วยนำพาสารต่างๆเข้าสู่ผิว
Butylene Glycol - Humectant พื้นฐานที่ดีและเป็น Penetration Enhancer หรือตัวช่วยนำพาสารต่างๆเข้าสู่ผิว
1,2-hexanediol - Humectant ที่ดีและเป็น Penetration Enhancer หรือตัวช่วยนำพาสารต่างๆเข้าสู่ผิว
Sodium Hyaluronate - Humectant ให้ความชุ่มชื้น
Betaine - เป็นกรดอะมิโนที่ทำให้เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์มีความเหนอะน้อยลง และมีความนุ่มขึ้น ช่วยทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นได้อย่างดีเยี่ยม และช่วยลดความระคายเคืองของผิวที่เกิดจากสารซักฟอก
Panthenol - วิตามินบี 5 ช่วยให้ความชุ่มชื้น และมีคุณสมบัติในการลดความอักเสบระคายเคืองของผิวหนัง และเสริมความแข็งแรงของ Skin Barrier
 
กลุ่มปลอบปะโลมผิว ลดอาการระคายเคือง
Cassia Obtusifolia Seed Extract - สารสกัดจากเมล็ดพืชที่มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบเป็นหลัก ลดความแดง และมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant)
 
Additive อื่นๆ - มีความปลอดภัยต่อผิวสูงมากและค่อนข้างประทับใจที่ไม่ใช้สารกลุ่ม Triethanolamine หรือ tromethamine ในการ neutralize carbomer แต่ใช้ arginine แทนซึ่งเป็นมิตรกับผิวกว่ามาก นอกจากนี้สูตรนี้ยัง Preservative-free, Alcohol free และ PEG free อีกด้วยซึ่งมีความอ่อนโยนต่อผิวมาก ถือว่ามีการวางโครง Additive ที่ดี
 
หมายเหตุ:
อาการอุดตัน อาการระคายเคืองและอาการแพ้ที่เกิดขึ้นจากการใช้งานผลิตภัณฑ์อาจเกิดขึ้นได้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล ควรทดสอบผลิตภัณฑ์ด้วยการ Patch Test ในบริเวณเล็กๆก่อนการใช้งานเพื่อดูปฏิกิริยาของผิวที่มีต่อผลิตภัณฑ์
 
ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ร่วมกัน และวิถีชีวิตของแต่ละบุคคล
โบนัสหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะครับ ยังไงฝากกดติดตามใน blockdit กด Like ใน Facebook Fanpage และเป็นกำลังใจให้โบนัสด้วยนะครับ แล้วหากมีคำถามอะไรหรืออยากให้รีวิวหรือมีผลิตภัณฑ์เฉพาะอะไรอยากให้รีวิว Leave comment ไว้ด้านล่างได้เลยนะครับ
ขอบคุณครับ🧸
โฆษณา