5 ก.พ. 2021 เวลา 12:51 • หุ้น & เศรษฐกิจ
จังหวะซื้อหุ้นที่ดีควรเป็นอย่างไร
ซื้อแล้วต้องขึ้นเลย ซื้อแล้วต้องวิ่งเลยอย่างนั้นหรอ จึงจะถือว่าเป็นจังหวะซื้อที่ดี(ใจคอจะไม่ถือรอบ้างเลยหรอ)
การซื้อหุ้นเนี่ย ผมแบ่ง 2 ประเภท
1. คือซื้อตอนเบรค
2. คือซื้อตอนย่อ
ซื้อตอนเบรค Break เนี่ย ก็จะมีแบ่งแยกย่อยไปอีก เช่น เบรคไปแล้ว แล้วก็ซื้อ หรือเบรคไปสักระยะแล้วค่อยซื้อ หรือกำลังจะเบรคก็ซื้อ หรือ ซื้อตอนที่วิ่ง ๆ อยู่
ซื้อตอนย่อ Buy on Dip เนี่ย คือ รอให้ราคาหลังจากที่หั้นพึ่งเบรคเนี่ยได้พักตัว ได้ซับแรงขายไปก่อน ได้ลงมาแนวรับก่อน แล้วก็ค่อยไปซื้อ
ซึ่งจังหวะการซื้อเนี่ย ของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไป บางคนก็ซื้อเบรคได้ง่าย ๆ ซื้อแล้วขึ้นเลยถูกจังหวะตลอด
บางคนซื้อแล้วก็ดอย หรือซื้อปุ๊บลงปั๊บ ก็มีเยอะ
หรือบางคนก็รอซื้อตอนย่อได้ รอให้ราคาลงมาแนวรับได้ หรือราคานิ่ง ก่อนละค่อยเข้าไปซื้อได้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งที่เราต้องเจอ เมื่อซื้อหุ้นก็คือ จังหวะที่ถูกต้อง และจังหวะที่ผิด แต่จะเป็นแค่บางช่วงเวลาเท่านั้น คือตอนนี้ซื้อผิด ซื้อแล้วลงไปเลย แต่พออีกสักพักหุ้นก็กลับขึ้นมาได้ จากผิดจังหวะกลายเป็นถูกจังหวะละ
หรือบางคนก็ถูกจังหวะก่อน แล้วอีกสักพักก็ผิด คือมันก็ไม่มีอะไรที่จะเป็นอย่างนั้นตลอดไปหรือไม่เปลี่ยนแปลง คือก็ต้องพร้อมเสมอ เมื่อราคาเปลี่ยน จากขึ้นเป็นลง จากลงเป็นขึ้น
ดังนั้น แผนการซื้อขาย ถึงสำคัญ คือเราต้องวาง Scenario เอาไว้ก่อน ว่าถ้าซื้อหุ้นไปแล้ว จะเปิดอะไรขึ้นได้บ้าง
เช่น ซื้อแล้ววิ่งขึ้นไปเลย จะทำอย่างไร หรือ
ซื้อแล้วลงจะทำยัง หรือ
ซื้อราคาปิดแล้วอีกวันเปิดโดดลงไปฟลอร์ จะทำยังไง
หรือ ขายออกไปแล้ว ละราคากลับขึ้นมาได้เราจะทำอย่างไร
หรือ จากหุ้นที่มีกำไรอยู่ดีดี อีกวันทำให้ขาดทุน จะทำยังไง
สิ่งเหล่านี้ที่เกิดขึ้น มันคือความซวยหรอ มัมคือความผิดพลาดของเราหรอ มันคือความเฮงของเรา หรือที่เราขาดทุนเป็นเพราะอะไรล่ะ เราต้องไปโทษใครมั้ย ที่ทำให้เราไม่ตัดสินใจขาย หรือเปลี่ยนใจไม่ขาย หรือเราต้องโทษตัวเองมั้ย ที่ไม่ได้ขายออกไป แล้วเจ็บใจตัวเองมั้ย
แล้วมันคืออะไรกันแน่
มันคือสิ่งที่เกิดขึ้น มันก็แค่สิ่งที่เกิดขึ้น ดังนั้นอยู่ที่เราแล้วล่ะ ว่าจะแก้ไข สิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วอย่างไร
จะแก้ไข หรือ จะมัวโทษดินฟ้าอากาศ จะตีโพย ตีพาย รึ
การแก้ไข เหตุการณ์พวกนี้ก็คือ การทำแผนการเทรดนั่นเอง ว่าถ้าเราไปเหตุการณ์แบบนี้ แบบนี้นะ เราจะทำอย่างไรกับเหตุการณ์นั้น ๆ ที่เกิดขึ้น
เจอเหตุการณ์แบบไหนมาก็ค่อย ๆ กำหนดไว้เป็น Scenario ของเราในครั้งหน้า ถ้าเจออีกก็แก้ไขได้ละ เพราะเราไม่ได้เจอแบบนี้ครั้งแรกนี่
แผนการเทรด ก็มีแต่ จะทำหรือไม่ทำ อย่ามาอ้างว่าไม่มีเวลา จะทำ ก็ทำ ไม่ทำก็ยอมรับผลที่ตามมาซะนะ
เมื่อทำแผนแล้ว เมื่อเจอเหตุการณ์ต่าง ๆ นา ๆ จังหวะซื้อ จังหวะขาย เราก็จะดีขึ้นเองตามทักษาะที่เพิ่มขึ้น
#สำนักหุ้นพักตัว
โฆษณา