6 ก.พ. 2021 เวลา 01:29 • ความคิดเห็น
5 นิสัยง่ายๆ ที่คนประสบความสำเร็จเขาทำกัน ลองทำด้วยทฤษฎี 21 วันของ Dr.Maxwell Maltz ชีวิตดีขึ้นแน่นอน
2
5 นิสัยง่ายๆ ที่คนประสบความสำเร็จเขาทำกัน ลองทำด้วยทฤษฎี 21 วันของ Dr.Maxwell Maltz ชีวิตดีขึ้นแน่นอน
เพื่อนๆ คงเคยได้ยินทฤษฎี 21 วันในการพัฒนาตัวเองกันมาบ้างใช่ไหม ที่ว่าเมื่อคนเราทนทำอะไรสักอย่างเป็นประจำได้ถึง 21 วันติดต่อกันพฤติกรรมนั้นจะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งหรือเป็นนิสัยของเราโดยอัตโนมัติ
2
นี่คือทฤษฎีของ Dr.Maxwell Maltz นายแพทย์ชื่อดังชาวสหรัฐฯ ที่ได้เขียนไว้ในหนังสือ “Psycho-Cybernetics” ที่ถูกบอกกล่าวต่อๆ กันมาเป็นเวลา...ก็นานอยู่นะฮ่าๆ คำถามต่อไปก็คือแล้วนิสัยอะไรล่ะที่คนเราน่าจะนำมาทำตามติดต่อกันถึง 21 วัน เพื่อจะได้กลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ แหม่! แต่ไอ้คำว่าประสบความสำเร็จของแต่ละคนมันก็ไม่เหมือนกันอีกแหละ
3
เพราะฉะนั้นวันนี้แอดจะมาแนะนำ 5 นิสัยพื้นฐานที่สำคัญในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ ที่สามารถสร้างระเบียบวินัยในการใช้ชีวิตรอบด้าน เพราะแอดเองก็ไม่สามารถไปตัดสินใครได้ว่าความสำเร็จของคนนั้นคนนี้มันคืออะไร แต่อย่างน้อยหากมีนิสัยทั้ง 5 นี้เอาไว้ รับรองว่าเมื่อเพื่อนๆ กำหนดความสำเร็จของตัวเองได้แล้ว 5 นิสัยนี้จะเป็นประโญชน์แน่นอนจะมีอะไรบ้างไปดู
3
(1) ลงมือทำทันทีไม่ผัดวันประกันพรุ่ง
จากงานวิจัยหลายๆ งานบ่งชี้ให้เห็นว่าเมื่อมนุษย์เราจะตัดสินใจทำอะไรก็ตามหากเริ่มทำไปแล้วก็มี % ที่จะทำจนกว่าจะสำเร็จสูงมาก แต่กลับกันหากยังลังเลว่าจะทำดีไหมเมื่อเวลาผ่านไป คนเราจะไม่อยากทำสิ่งนั้นแล้วจนทำให้เกิดการเลื่อนกำหนดการในสิ่งนั้นไป
หลายๆ ครั้งแอดเองก็มีสิ่งที่อยากทำแต่ก็ลังเลกับปัจจัยหลายๆ อย่างจนเมื่อเวลาผ่านไปแค่ 2-3 นาที ความตั้งใจที่จะทำงานนั้นก็หายไปเลย แต่กลับกันหากเรากัดฟันทำมันเลยไม่ต้องตั้งคำถามหรือลังเลอะไร กลับกลายเป็นว่าเราสามารถทำงานนั้นได้จนสำเร็จจนได้
5
(2) เลิกงานเมื่อไหร่ ก็เลิกคิดเรื่องงานด้วย
แอดเชื่อว่ามีเพื่อนๆ หลายคนที่มักจะจริงจังกับการทำงานมากๆ ซึ่งไม่ได้ผิดอะไรการทุ่มเทให้กับงานเป็นสิ่งที่ดีมันแสดงถึงความรับผิดชอบในหน้าที่ของเรา แต่นอกจากความรับผิดชอบในเรื่องงานแล้ว ‘ชีวิต’ ของเราเองก็เป็นสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบเช่นกัน
3
หลายๆ คนมักจะจริงจังกับงานมากจนเกินไปแม้กระทั่งเวลาเลิกงานในหัวของพวกเขาก็ยังมีเรื่องงานเข้ามาแทรกอยู่ตลอดเวลา นั่นเป็นสมดุลของการรับผิดชอบชีวิตที่ไม่ดีเลย การคิดแต่เรื่องงานมากเกินไปจะทำให้เราพลาดโอกาสหลายๆ อย่างในชีวิตไป ทั้งความรัก ความสัมพันธ์ มิตรภาพ
1
งานเป็นเพียงแค่กระบวนการหนึ่งในการหารายได้หรือเติมเต็มคุณค่าในชีวิตบางอย่างของเราเท่านั้น หากแต่ถ้าเราสามารถแยกแยะช่วงเวลาของการทำงานและการใช้ชีวิตได้นั้นแหละที่นับว่าเป็นความสำเร็จในชีวิตที่สมดุล ในช่วงเวลาอื่นนอกจากงานต่อให้มีงานเข้ามาลองช่างน้ำหนักดูว่าเราสามารถปฏิเสธงานนั้นได้ไหม หากปฏิเสธได้ก็ปฏิเสธเถอะครับ
2
(3) คิดก่อนรับปากอะไรกับใคร
ฮั่นแน่! มาถึงข้อนี้แอดเชื่อว่ามีเพื่อนๆ หลายคนเป็น ที่พอใครว่าอะไรมาก็รับปากเอาไว้ก่อนถึงเวลาแล้วค่อยว่ากันใช่ไหมนั่นเป็นนิสัยที่ไม่โอเคเลยนะ เพราะในการรับปากแบบไม่ทันคิดแบบนั้นหากคิดเป็น % แอดคิดว่ามีประมาณ 70% เลยนะที่ไม่สามารถทำตามที่รับปากได้
การรับปากเป็นการตอบสนองเพื่อให้เกิดความสบายใจต่อผู้ถูกนัดหมายอย่างหนึ่ง แต่กลับกันหากนัดนั้นไม่สามารถทำได้ก็อาจก่อให้เกิดผลเสียที่ไม่อาจคาดการณ์ผลที่เกิดขึ้นได้ทั้งด้านความรู้สึกและการทำงาน
1
เพราะฉะนั้นเราควรที่จะฝึกการคิดก่อนรับปากกับใครเอาไว้เป็นนิสัย การปฏิเสธก็เป็นวิธีการหนึ่งที่จะทำให้ความสัมพันธ์ดำเนินไปด้วยดีนะ เพราะอย่างน้อยเมื่อเราสำรวจตัวเองก่อนแล้วบอกเหตุผลของการปฏิเสธเหล่านั้น แอดคิดว่ามันยังดีกว่าการผิดนัดแล้วมาหาข้ออ้างทีหลังอีกนะ (อย่าปล่อยให้ใครต้องรอเลยไม่ว่าจะกรณีไหนก็ตาม)
1
(4) พัฒนาทักษะเดิม เรียนรู้ทักษะใหม่บ้างก็พอ
ในการทำงานและการใช้ชีวิต ทุกคนล้วนมีทักษะที่ต้องใช้แตกต่างกันและการพัฒนาทักษะเหล่านั้นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่คนประสบความสำเร็จหลายๆ คนเขาทำกัน ยกตัวอย่างในแง่การทำงานบางครั้งเราทำงานผิดพลาด ให้เราเรียนรู้และปรับปรุงกระบวนการนั้นให้ดีขึ้นจนไม่เกิดความผิดพลาดอีก
หรือแม้แต่ทักษะที่เราต้องใช้ในการใช้ชีวิต อย่างเพื่อนๆ บางคนเล่นกีฬาเป็นงานอดิเรกไม่ว่าจะ บาส บอล ฯลฯ เราก็จะต้องพัฒนาทักษะในการเล่นกีฬาเหล่านั้น การพัฒนาทักษะของกิจกรรมในชีวิตจะช่วยให้เรามีนิสัยการพัฒนาทักษะที่มีอยู่ได้ดียิ่งขึ้น
ส่วนเรื่องการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ หลายคนบอกว่าจะต้องพัฒนาทักษะใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลาแหม่! ก็บางคนเขามีความสุขอยู่แล้วก็จะเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ไปเพื่ออะไรจริงไหม แอดเลยแนะนำว่าเรียนรู้บ้างก็พอแล้ว ขอแค่ให้ทักษะที่เรียนรู้ใหม่เป็นสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุข การเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ก็จะไม่ใช่ความทุกข์ในการพัฒนาตัวเองอีกต่อไป
4
(5) มองปัญหาในแง่ลบ แต่แก้ไขด้วยแง่บวก
หลายๆ คนชอบพูดว่าอย่ามองปัญหาที่เกิดขึ้นในแง่ลบแหม่! คนเรามันก็ต้องมีอารมณ์ลบกันบ้างไม่งั้นจะเป็นมนุษย์ได้ยังไงจริงไหม เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดปัญหาแล้วเรามีความคิดด้านลบให้คิดลบๆ ไปเลย แต่อย่าเชื่อว่าอารมณ์เหล่านั้นคือสิ่งที่ถูกต้องมันคือการตอบสนองตามสิ่งที่เกิดเท่านั้น หากจมอยู่กับมันมากเกินไปอารมณ์เหล่านั้นจะพาเราออกจากสิ่งที่เป็นความจริงมากขึ้นนั่นเอง
4
นิสัยการรู้เท่าทันอารมณ์ด้านลบที่เกิดขึ้นนั่นแหละคือสิ่งสำคัญที่เราต้องฝึกให้เป็นนิสัย เมื่อเรารู้ว่าเรากำลังตกอยู่ในอารมณ์ด้านลบให้เราค่อยๆ ตั้งสติไม่ต้องรีบแก้ปัญหาให้มองปัญหากว้างๆ ทำความเข้าใจมันช้าๆ หากทำได้วิธีการแก้ปัญหาด้วยความคิดแง่บวกมันจะไหลออกมาเอง
5
อย่าไปฝืนปฏิเสธความคิดด้านลบที่เกิดขึ้นแต่แค่ยอมรับมันรู้เท่าทันมันจากนั้นก็เปลี่ยนมันให้กลายเป็นจุดอ่อนที่เราจะต้องแก้ไข หากเราเลือกที่จะปฏิเสธอารมณ์หรือความคิดแง่ลบเหล่านั้น ก็ไม่ต่างจากการหนีปัญหา และเราก็จะไม่เข้าใจถึงวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสมด้วย
นิสัยทั้ง 5 นี้เป็นพื้นฐานนิสัยง่ายๆ ที่เราสามารถปรับเปลี่ยนมันได้ในทุกๆ วัน หากสามารถทำนิสัยเหล่านี้ได้ในเวลา 21 วันตามที่ Dr.Maxwell Maltz ได้กล่าวไว้แอดเชื่อว่ามันจะเป็นประโยชน์ไม่ใช่แค่ในการทำงาน แต่ในการใช้ชีวิตเองก็จะทำให้เพื่อนๆ มีความสุขกับสิ่งรอบตัวได้เช่นกัน
1
นอกจากนิสัยทั้ง 5 นี้แล้วยังคงมีนิสัยอะไรที่อยากจะแนะนำให้เพื่อนๆ ที่ติดตาม Ad Addict ลองทำตามกันสามารถพูดคุยกันได้ในคอมเมนต์เลยนะ เพราะแอดเองก็ยังคงมีอีกหลายๆ อย่างต้องพัฒนาเช่นกัน มาแลกเปลี่ยนกันได้นะครับ
3
โฆษณา