5 ก.พ. 2021 เวลา 17:28 • ธุรกิจ
งานที่ 2 อาชีพที่ 3 ธุรกิจที่ 4 ...
“รายได้ไม่พอใช้ แค่จ่ายหนี้อย่างเดียว ยังไม่พอจ่ายเลย ทำยังไงดี”
หลายครั้งที่คำถามแนวๆนี้ ลอยลมมากับเฟซบุ๊กและอีเมล์ เป็นคำถามที่ฟังดูเหมือนง่าย แต่บอกเลยว่าตอบยากมาก ที่บอกว่ายาก ไม่ใช่เพราะว่าไม่มีคำตอบให้ แต่เป็นเพราะกลัวว่า ตอบไปแล้วจะไม่ถูกใจพระเดชพระคุณที่ถามคำถามเข้ามามากกว่า
เอาเข้าจริง ผมว่าทุกคนรู้คำตอบนะ ... รายได้ไม่พอรายจ่าย ตัวนึงน้อยไป ตัวนึงมากไป ก็แก้ตรงๆ โดยการ ลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้
รายจ่ายลด รายได้เพิ่ม ... เดี๋ยวมันก็พอใช้เอง
เริ่มจาก “ลดรายจ่าย” เราพอจะลดอะไรได้บ้าง ...
ปรับลดมาตรฐานการกินอยู่ แม้ในสิ่งจำเป็นก็ให้ใช้อย่างประหยัด คิดก่อนใช้ทุกสิ่งอย่าง
ลดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย หรือค่าใช้จ่ายที่ไม่มีประโยชน์ลง บุหรี่ เหล้า หวย ฯลฯ เบาลงหน่อยหรือเลิกไปเลยก็ดีนะ
ลดค่างวดชำระหนี้ทุกรายการ ลองเจรจากับเจ้าหนี้ดู (อย่าเพิ่งบอกว่าไม่ได้ ถ้ายังไม่ได้อ้าปากเจรจา) จะขอลดดอกเบี้ย ส่งเฉพาะดอกเบี้ย หรือหยุดส่งชั่วคราว ลองพูด ลองขอดู เรื่องแบบนี้ ขออาจมีได้และไม่ได้ แต่ถ้าไม่อ้าปากขอ อันนี้แม่งไม่ได้แน่ๆ
อย่างไรก็ดีจากประสบการณ์ที่ให้คำแนะนำคนแก้หนี้มามากมาย กล้าพูดเลยว่า การทำแค่ “ลดรายจ่าย” เพียงอย่างเดียวมันไม่พอให้เราปลดหนี้ได้เร็วหรอก แถมวันดีคืนร้ายมีเรื่องให้ต้องจับจ่ายฉุกเฉิน ยิ่งพาลเป็นหนี้หนักขึ้นไปอีก
ที่ถูกคือ ต้อง 2 แรงบวก นั่นคือ สร้างรายได้ควบคู่ไปกับการลดรายจ่ายด้วย
หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ รายได้ทางเดียวไม่สามารถช่วยปลดหนี้ให้หมดไวๆได้หรอกครับ มันต้องมี ... งานที่ 2 อาชีพที่ 3 และธุรกิจที่ 4 เสริมแรงเข้าไปด้วย มันถึงจะพ้นน้ำเร็วขึ้น
หลักการสำคัญของการสร้างงานที่ 2 อาชีพที่ 3 และธุรกิจที่ 4 ก็คือ 1) ช่องทางการหารายได้ทุกช่องทางนั้น เน้นใช้ทุนทางปัญญาเดิมที่มี ไม่ใช้เงินลงทุนที่สูง เพราะเรามีภาระทางการเงินมากพอแล้ว
และ 2) ทั้งสามงานที่จะทำไปพร้อมๆ กันนั้น ควรมีความเกี่ยวข้องกัน เพื่อไม่ทำให้เราต้องเรียนรู้อะไรใหม่ไปพร้อมๆกันหลายเรื่อง
เช่น ตอนที่ผมเริ่มต้นแก้หนี้ให้ครอบครัว นอกจากจะเป็นวิศวกรโรงงานแล้ว ผมยังเอาวิชาความรู้ที่ได้จากการทำงานโรงงาน มารับงานพิเศษเป็นที่ปรึกษาให้กับโรงงานอุตสาหกรรมอื่นๆ (งานที่ 2) ควบคู่ไปกับเริ่มต้นฝึกหาอสังหาริมทรัพย์เพื่อลงทุนให้เช่า อันไหนลงทุนไม่ได้ เกินทุนที่มีบนหน้าตัก ก็จัดแจงหาคนซื้อขอนายหน้า 3% ไป (อาชีพที่ 3)
พองานที่ปรึกษาเริ่มเยอะ ผมเริ่มรับงานฟรีแลนซ์ไม่ไหว เพราะเวลาไม่เหลือให้ออกไปรับงานเองทั้งหมด เลยเริ่มเปิดบริษัทรับน้องๆ มาช่วยงาน (ธุรกิจที่ 4) แล้วก็ Outsource งานออกไป จ่ายน้องๆเป็นค่าจ้างที่ปรึกษา เรากินส่วนค่างาน ค่าการตลาด (ในฐานะคนหางาน)
.
จากเดิม 1 วัน เรารับงานได้เจ้าเดียว กลายเป็นรับงานได้ 3-4 ที่ ไปพร้อมกันๆด้วย ทำงานเท่าๆเดิม แต่ได้เงินมากขึ้น
ลูกศิษย์ผมบางคนเงินไม่มี ก็ขายสินค้าแบบ Pre Order ทำบัญชีได้ก็รับทำบัญชี บ้างก็รับทำกราฟฟิค หรือบางคนก็กลายมาเป็นพ่อค้าคนกลาง นายหน้า ทำตลาดให้สินค้าและรับส่วนแบ่ง
(ยังมีอีกหลายอาชีพที่ทำตอนนั้น และอาชีพของลูกศิษย์อีกเพียบ ขอแค่ไม่ท้อ และไม่ปิดกั้นหรือดูถูกตัวเองจนเกินไป ทางเลือกยังมีอีกเยอะ เอาไว้มีเวลาจะมาเล่าให้ฟัง)
เมื่อหนึ่งเดือนเราหาเงินได้มากขึ้น ในอีกทางก็ลดค่าใช้จ่ายลง จนมีเงินส่วนเกินได้ เราก็มาวางแผนเก็บเงินและชำระคืนหนี้ ค่อยๆ อดทนทำไป ในไม่ช้าหนี้ก็จะหมด
(แต่บอกก่อนนะว่า เกมแก้หนี้เป็นหนังชีวิต ต้องสู้กันยาวมาก)
ที่เจ๋งก็คือ ... หน้ีหมด แต่งานที่ 2 อาชีพที่ 3 และธุรกิจที่ 4 ยังคงอยู่ และช่วยสร้างอัตราเร่งทางการเงินให้เรามั่งคั่งได้เร็วขึ้นกว่าทำงานประจำเพียงอย่างเดียวเสียอีก
สุดท้ายแล้วเท่าที่ผมเจอมา คนกลุ่มเดียวที่แก้หนี้ไม่ได้ ก็คือ คนที่ยอมแพ้ และไม่คิดจะทำอะไรอีกแล้ว พวกเขาไม่เชื่อตัวเอง ยอมจำนน และก็ได้แต่ฝันลมๆแล้งๆ ว่า จะมีใครมาช่วยพาเขาออกไปจากสภาพชีวิตอันเลวร้าย
ชวนคิดวิธีลดรายจ่าย ก็บ่นว่า “ลดจนไม่รู้จะลดอะไรแล้ว!” ทั้งที่เอาเข้าจริง ยังไม่ได้คิด ไม่ได้ลงมือทำอะไรเลยแม้แต่น้อย (บางคนแม่มยังกินเปลืองโชว์ในเฟซบุ๊กอยู่เลย)
หรือชวนคิดหารายได้เพิ่ม ก็บ่นว่า “สัปดาห์หนึ่งทำงาน 5 วัน เหนื่อยจะแย่ จะให้ทำอะไรอีก!”
ถ้าคิดได้แค่นี้ ก็อย่าเสียเวลากันครับ อยู่ตรงนั่นแหละ! ถูกที่ถูกทางแล้วหละ ถ้าความคิดยอมแพ้แค่อย่างเดียว ใครก็ช่วยคุณไม่ได้ครับ
ใครที่เป็นหนี้หนัก แล้วเคยทำแต่ท้อ แต่บ่น เอาใหม่ครับ หาช่องทางลดรายจ่าย และคิดวิธีเพิ่มรายได้ คิดงานที่ 2 อาชีพที่ 3 ธุรกิจที่ 4 ออกเมื่อไหร่
โพสลงเฟซบุ๊กแม่มเลย ประกาศให้โลกรู้ ว่า (กู) สู้ชีวิต เพื่อนในเฟซบุ๊กถ้าไปขอยืมเงินเขา เขาคงไม่สะดวกใจ แต่ถ้าประกาศและบอกเพื่อนๆ ไปว่า ...
“(กู) กำลังทำงานที่ 2 อาชีพที่ 3 ธุรกิจที่ 4 อยู่ เพื่อนคนไหนสนใจซื้อสินค้าหรือจ้างให้ไปทำงาน เรียกใช้ได้เลย”
โฆษณาไปเลย ไม่ต้องอาย จะว่าไปแบบนี้ ผมว่าเพื่อนสบายใจที่จะช่วยมากกว่า เพราะคนเราถึงแม้รักกันแค่ไหน ก็พร้อมที่จะยื่นมือ มากกว่ายื่นเงิน
เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังสู้กับปัญหาหนี้นะครับ จำเอาไว้ ...
“ไม่มีใครทำให้เรารวยได้ ถ้าเราไม่อยาก และไม่มีใครทำให้เราจนได้ ถ้าเราไม่ยอม” ครับ
#โค้ชหนุ่ม
05-02-2021
ปล. ใครสนใจหาไอเดียสร้างรายได้ช่องทางใหม่ๆ จากทุนชีวิตของตัวเอง แนะนำให้ชมวิดีโอนี้ครับ https://youtu.be/zCp4IWMFltA
#Day27 #MoneyDiary #งานที่2อาชีพที่3ธุรกิจที่4
โฆษณา