5 ก.พ. 2021 เวลา 23:01 • ท่องเที่ยว
พระราชวังแวร์ซายส์.. มรดกโลกตะวันตกแห่งฝรั่งเศส
พระราชวังที่ไม่มีห้องน้ำ!!
พระราชวังแวร์ซายส์ (Palace of Versailles) หรือที่เรียกกันว่า “Château de Versailles” ในภาษาฝรั่งเศส เป็นพระราชวังหลวงแห่งหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส อยู่ห่างจากตัวเมืองปารีสประมาณ 17 กิโลเมตร ตั้งอยู่ที่แวร์ซาย (ชานเมืองของกรุงปารีส) ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของกรุงปารีส
3
อีกทั้งยังได้รับการยกย่องกันว่าเป็นหนึ่งในพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และสวยงามแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย
ภาพจาก Pinterest
ซึ่งประวัติความเป็นมาของพระราชแห่งนี้ ต้องเล่าย้อนกลับไปเมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 แห่งฝรั่งเศส สมัยที่ท่านยังทรงพระเยาว์ ขณะพระชนมายุได้ 23 พระชันษา
พระองค์นั้นชอบการไล่ล่าสัตว์และชอบใกล้ชิดกับธรรมชาติ พระองค์ได้มีโอกาสออกล่าสัตว์ในป่ารอบ ๆ เมืองแวร์ซายส์อยู่หลายครั้ง
พระเจ้าหลุยส์ที่ 13 แห่งฝรั่งเศส ภาพจาก Pinterest
เนื่องจากเดิมทีเมืองแวร์ซายเป็นแค่เพียงเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ที่มีผู้คนอาศัยอยู่น้อย บริเวณส่วนใหญ่ก็เป็นป่าเขาเยี่ยงชนบทอื่น ๆ ของฝรั่งเศส
ท่านจึงทรงเห็นว่าตำบลแวร์ซายน่าจะเหมาะแก่การประทับเพื่อล่าสัตว์ จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระตำหนักขึ้นมาใน ค.ศ. 1623 โดยในช่วงแรกเป็นเพียงกระท่อมเล็ก ๆ สำหรับพักชั่วคราวเท่านั้น และในปี ค.ศ. 1631 ก็มีการสร้างใหม่ให้กลายเป็นชาโตว์ขนาดย่อม ๆ
จนต่อมาในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส ได้ขึ้นครองบัลลังก์ พระองค์ทรงตัดสินพระราชหฤทัยย้ายราชสำนักมาอยู่ที่เมืองแวร์ซายส์ และได้ปรับปรุงพระตำหนักหลังเก่าให้กลายมาเป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่ สวยงามและหรูหราที่สุดในยุโรป เริ่มดำเนินการในปี ค.ศ. 1661
พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส ภาพจาก Wikipedia
โดยใช้งบประมาณทั้งหมด 500,000,000 ฟรังก์ (ซึงเป็นเงินมาจากค่าภาษีอากรของราษฎรชาวฝรั่งเศส) คนงานกว่า 30,000 คน และใช้เวลาก่อสร้างอยู่ร่วมถึง 30 ปีจึงแล้วเสร็จ
2
โดยตลอดเวลาของสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส พระองค์ทรงใช้ที่นี่เป็นสถานที่ในการต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ซึ่งก็รวมทั้งคณะทูตจากสยามไทยในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งอยุธยาของพวกเราด้วย และได้เป็นสถานที่พำนักของกษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ในวันต่อมา
การจำลองการแต่งกายของข้าราชสำนัก ในยุคสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ภายในแวร์ซาย ภาพจาก Pinterest
จนกระทั่งมาถึงสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศส ก็ได้มีการปฏิวัติฝรั่งเศสขึ้น ได้มีกองทัพประชาชนและผู้ประท้วงบุกเข้าพระราชวังเพื่อตามหาพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศส กับพระนางมารี อองตัวเนตต์ จนเหล่าเชื้อพระวงศ์ต้องย้ายไปพำนักที่พระราชวังตุยเลอรีส์
ตั้งแต่วันนั้นพระราชวังแวร์ซายส์ก็ไม่เคยได้เป็นที่พำนักของกษัตริย์ท่านไหนอีกเลย
จนกระทั่งมาในปี ค.ศ. 1837..
พระเจ้าหลุยส์-ฟีลิปที่ 1 แห่งฝรั่งเศส ก็ได้มีคำสั่งให้เปลี่ยนพระราชวังแวร์ซายส์มาเป็นพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสจนถึงปัจจุบันนั้นเอง
พระเจ้าหลุยส์-ฟีลิปที่ 1 แห่งฝรั่งเศส ภาพจาก Wikipedia
โดยตัวของอาคารทุกส่วนทำด้วยหินอ่อนสีขาว มีสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบบาโรค และรอคโคโค ซึ่งผลออกมาก็เป็นแบบอย่างศิลปกรรมที่สวยงาม ภายในวังมีห้องมากมายถึง 700 ห้อง
แบ่งออกเป็นห้อง ๆ เช่น ห้องบรรทม ห้องสำราญ ฯลฯ ทุกห้องล้วนถูกตกแต่งด้วยเครื่องประดับงดงามตระการตาและภาพเขียนที่มีชื่อเสียงประดับอยู่ตามผนังห้อง
ภาพจาก http://www.versailles-tourisme.com/sites/versailles-tourisme/files/styles/gallery_lightbox/public/content/images/1480437021-714939559.jpg?itok=4dqhpiWu
อีกทั้งยังมีการจัดแสดงภาพวาด กับงานแกะสลัก มีการติดตั้งหน้าต่าง 2,153 บาน บันได 67 อัน และเตาผิงกว่า 1,315 เตา พร้อมทั้งการประดับตกแต่งด้วยแชนเดอเรีย
มีขนาดพื้นที่ทั้งหมดกว่า 5,000 ไร่ ด้านนอกของตัวพิพิธภัณฑ์รายล้อมไปด้วยสวนตกแต่งที่สวยงาม โดนมีลวดลายวกวนราวกับเขาวงกต ตกแต่งด้วยต้นไม้ สวนดอกไม้แบบเรขาคณิต
มีประติมากรรมสัมฤทธิ์และหินอ่อนปั้นโดยได้รับแรงบันดาลใจจากเทพนิยายกรีกโรมั น ซึ่งจะมีน้ำพุจากเทพนิยายกรีกที่เข้ามาเพิ่มความสวยงามอีกด้วย
ภาพจาก Pinterest
ห้องกระจก (The Hall of Mirrors หรือ Galerie des Glaces)
ภาพจาก flickr.com
จัดได้ว่าเป็นไฮไลท์สำคัญที่เหล่านักท่องเที่ยวต้องเข้าชมเมื่อมาถึงพระราชวังแห่งนี้ ห้องกระจกนั้นถือได้ว่าเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดในตัวพระราชวัง ถูกสร้างด้วยกระจกบานใหญ่เจียรไนทั้งหมด 17 บาน มีความยาวมากถึง 70 เมตร เมื่อเปิดออกแล้วจะเห็นสวนแวร์ซายอันสวยงาม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนว้าวเป็นอย่างมาก
ตกแต่งไปด้วยโคมไฟแชนเดอเลียร์อันแสนที่จะแพง บวกกับรูปวาดที่อยู่บนเพดานอันงดงาม โดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงกำกับการก่อสร้างเองเกือบทั้งหมด
ภาพจาก https://www.agoda.com/travel-guides/france/paris/palace-of-versailles-hours-location?cid=1844104
ซึ่งเดิมทีเคยถูกใช้สำหรับการต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง หรือจัดพิธีเลี้ยงรับรองคณะราชทูต เป็นเวลาถึง 300 ปี
อีกทั้งช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ห้องนี้ยังถูกใช้ให้เป็นห้องลงนามเซ็นสนธิสัญญาครั้งสำคัญถึง 2 ครั้ง คือ สนธิสัญญาตั้งอาณาจักรเยอรมัน และสนธิสัญญาแวร์ซายส์ “ สงบศึกสงครามโลกครั้งที่ 1 ”
1
ภาพจาก boredpanda.com
ห้องวีนัส (Venus Room)
ภาพจาก Pinterest
เป็นห้องพักราชทูตที่เดินทางมาถวายพระราชสาส์นตราตั้งก่อนเข้าเฝ้า กำแพงห้องด้อนหนึ่งเจาะลึก มีรูปปั้นชุนทรงศึกอันภูมิฐาน แบบโรมันของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14
ตามประวัติศาสตร์ระบุไว้ว่าโกษาปานราชทูตของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยา ครั้งเดินทางไปถวายสาส์นแด่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14
ก็ได้เข้าพักในห้องวีนัสนี้ เพดานห้องวีนัสวิจิตรด้วยภาพเทพธิดาแห่งความงามและความรักล้ำเลิศเป็นที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง
ภาพจาก Pinterest
ห้องชุดส่วนตัวของพระราชินี (The Queen’s Chamber)
ภาพจาก https://www.hisour.com/the-queens-chamber-palace-of-versailles-38400/
อยู่อีกด้านหนึ่งของวัง ถูกแยกออกไปคนละส่วนกับพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์มีห้องต่างหากไม่ยุ่งเกี่ยวกัน ที่พิเศษอีกอย่างหนึ่ง ห้องชุดพระเจ้าหลุยส์ได้ถูกสร้างไว้พิเศษมีประตูและบันไดลับที่ไม่มีใครล่วงรู้
อุทยานแวร์ซายส์ (Versailles Park)
ภาพจาก Pinterest
เป็นสวนยิ่งใหญ่งดงามที่สุด ที่รายล้อมพระราชวังแวร์ซายส์ สถาปนิกแต่งสวนระดับโลกชื่อ เลอโนทด์ ร่วมกับช่างใหญ่ผู้ออกแบบสร้างวังทั้งสองท่านคือ เลอบรังและมอนสาร์ท เริ่มตกแต่งอย่างสมบูรณ์แบบในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 15
อุทยานแวร์ซายส์มีเนื้อที่กว้าง 14,820 เอเคอร์ ประกอบด้วยสระน้ำเล็กๆขึ้นไป จนถึงทะเลสาบจำลองขนาดใหญ่ ทรงรับสั่งให้สร้างรูปปั้น รูปหล่อทองแดงของธรรมชาติทุกสิ่งไว้ ตั้งแต่รูปสัตว์จนถึงรูปปั้นเทพเจ้าทั้งหลายตามตำนานกรีกโบราณ เพื่อประกาศความเกรียงไกรของวัฒนธรรมฝรั่งเศส
2
https://www.agoda.com/travel-guides/france/paris/palace-of-versailles-hours-location?cid=1844104
เทคนิคการชลประทานแบบใหม่ในครั้งนั้นได้ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกโดยขุดคลองต่อจากแม่น้ำเชนน์มาที่แวร์ซายส์ เพื่อใช้เครื่องปั้มน้ำพุ่งขึ้นมาเป็นน้ำพุทั่วอุทยาน บรรดาพฤกษชาติได้นำมาปลูกทดลองในอุทยาน โดยแยกพันธุ์ให้เข้าฤดูกาลที่แปรผันไป
พระราชวังแห่งนี้ไม่มีห้องน้ำ ?
ภาพจาก https://www.hisour.com/gardens-of-versailles-38423/
มันอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ แต่ว่ามันคือเรื่องจริงของประเทศฝรั่งเศสที่เล่ากันมาอย่างตลกขบขันมาอย่างยาวนานจริง ๆ
พระราชวังแวร์ซายสร้างโดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เพื่อเฉลิมฉลองความยิ่งใหญ่ของพระองค์ พระราชวังแห่งนี้มีห้องถึง 700 ห้อง มีผู้อาศัยอย่างน้อย 2 หมื่นคน แต่กลับไม่มีห้องน้ำเลย
1
ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าในสมัยนั้นเชื่อกันว่าน้ำเป็นสิ่งสกปรก การอาบน้ำจึงเป็นการยอมให้เชื้อโรคเข้าไปสู่ร่างกาย ดังนั้นมุมมองในคนสมัยนั้น ห้องน้ำจึงเป็นเหมือนกับแหล่งสะสมเชื้อโรคดี ๆ นี่เอง
เพราะฉะนั้นไม่ต้องสอบเลยว่ากลิ่นตัวของแต่ละคนต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
แต่ตามบันทึกพบว่ามีเพียงห้องเล็กที่มีเก้าอี้ถ่ายวางอยู่ ซึ่งมีทั้งหมด 274 โถ ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับทุกคน แขกที่มาจึงต้องนำกระโถนมาเอง และเททิ้งตามพงหญ้าหรือไม่ก็ในสวนดอกไม้
ผู้คนในพระราชวังไม่ได้ปลดทุกข์ในกระโถนกันทุกคน แต่พวกเขาปลดทุกข์กันทุกหนทุกแห่ง ทั้งตามระเบียง ห้องต่าง ๆ สนามหญ้า และพุ่มไม้ ทำให้พระราชวังแวร์ซายมีกลิ่นเหม็นโชยมาอยู่เสมอ
ภาพจาก https://www.agoda.com/travel-guides/france/paris/palace-of-versailles-hours-location?cid=1844104
ทำให้คนสวนทนไม่ได้ที่ต้องมาคอยทำความสะอาดสิ่งที่ไม่พึงประสงค์เหล่านี้อยู่หลายครั้งหลายครา จึงเขียนป้ายให้ปลดทุกข์ให้เป็นที่เป็นทางแต่ก็ไม่มีใครอยากทำตาม
จนพระเจ้าหลุยส์ต้องมีพระราชโองการให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎ แล้วหลังจากนั้นสวนดอกไม้ก็ค่อย ๆ กลับมาสวยงามเช่นเดิม
นอกจากนี้ยังมีพระราชโองการให้ปลูกส้ม 1,000 ต้น เมื่อมีงานเทศกาลทุกคนก็จะเทน้ำส้มลงในสระน้ำให้น้ำไหลเวียนเพื่อดับกลิ่นเหม็นและเป็นการเฉลิมฉลองไปในตัว
เหตุผลที่พระราชวังแวร์ซายส์.. ได้รับคัดเลือกเป็นมรดกโลก
ภาพจาก https://www.agoda.com/travel-guides/france/paris/palace-of-versailles-hours-location?cid=1844104
พระราชวังแวร์ซายส์ได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 3 เมื่อปี พ.ศ. 2522 ที่ประเทศอียิปต์
ด้วยข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ในการพิจารณา ดังต่อไปนี้
1) เป็นตัวแทนในการแสดงผลงานชิ้นเอกที่จัดทำขึ้นด้วยการสร้างสรรค์อันชาญฉลาดของมนุษย์
2) เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลยิ่ง ผลักดันให้เกิดการพัฒนาสืบต่อมาในด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน ประติมากรรม สวน และภูมิทัศน์ ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้อง หรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือบนพื้นที่ใดๆ ของโลกซึ่งทรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม
ภาพจาก https://letsgotoparis.com/tour/best-paris-tours/
3) มีความคิดหรือความเชื่อที่สอดคล้องโดยตรงกับเหตุการณ์ หรือมีความโดดเด่นอย่างชัดเจนในประวัติศาสตร์
ปัจจุบันพระราชวังแวร์ซายส์ยังคงความสวยงามเลิศล้ำสมกับเป็นมรดกโลกตะวันตก แถมยังถูกจัดให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ 1 ใน 7 ของโลกในยุคปัจจุบันอีกด้วย เหล่าชาวโลกทั้งหลายทั้งมวลต่างยกย่องถึงว่า “ ดีงามและยิ่งใหญ่ที่สุด สมกับเป็นวิมานบนดินของจักรพรรดิจริง ๆ ”
ภาพจาก https://www.agoda.com/travel-guides/france/paris/palace-of-versailles-hours-location?cid=1844104
หวังทุกคนที่อ่านบทความนี้ จะรู้สึกสนุกเพลิดเพลินและได้ความรู้กันไปทุกคนเลยนะครับ
ขอให้ทุกคนมีวันที่ดีกันทุกคนนะครับ
อรุณสวัสดิ์ครับ..
#โลกหนึ่งใบล้านเรื่องราว
#Travel
#Adventure
โฆษณา