7 ก.พ. 2021 เวลา 03:45 • อาหาร
รู้ไว้ใช่ว่า วันนี้ขอเสนอ "200calของเราไม่เท่ากัน"
ในแต่ละวัน คนเราต้องการพลังงาน 2,000-2,500 แคลลอรี่ต่อวัน ถ้าเกินกว่านี้พลังงานก็จะกลายเป็นไขมัน สะสม ที่ทำให้เราดูอ้วน และเป็นจุดเริ่มต้นของโรคร้ายต่างๆ หากอยากจะลดน้ำหนัก ต้องลดปริมาณอาหารที่ทานให้น้อยกว่า 2,000 แคลลอรี่เพื่อให้ร่างกายนำไขมันส่วนเกิน ออกมาใช้ หมั่นออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายใช้พลังงานมากขึ้น ที่สำคัญต้องหัดคำนวณแคลอรี่เพื่อจะได้รู้ว่า แต่ละวันเรากินอาหารไปเท่าไหร่
แคลอรี (calorie) คือ หน่วยในการวัดพลังงานที่อยู่ในอาหาร โดยในทางโภชนาการ แคลอรี (Cal) มีค่าเท่ากับ กิโลแคลอรี (kcal) ดังนั้นถ้า 1 แคลอรีอาหาร จะมีค่าเท่ากับ 1 กิโลแคลอรี (kcal)
แต่สำหรับคนที่กำลังใส่ใจกับการดูแลตัวเอง ควบคุมอาหาร ต้องรู้จักการคำนวณ แคลลอรี่ ดังนั้นมาดูกันสิว่า อาหาร 200 cal. มีอะไรบ้าง ไว้เป็นข้อมูลในการเลือกรับประทานอาหาร ทั้งนี้อาหารแต่ละชนิดก็จะให้พลังงานแตก ต่างกัน ดังนี้
1. ไข่ต้ม 3 ฟอง ไข่ต้มคือสุดยอดอาหารให้พลังงาน และอยู่ท้องมากที่สุด
2. M&M นิดหน่อย บริโภคแต่น้อย หากเผลอใจกินไปมาก ต้องออกกำลังกายเยอะตาม
3. กีวี 6 ลูก เป็นผลไม้อันดับต้นๆ ของผลไม้ลดความอ้วนเพราะมีไฟเบอร์จำนวนมากที่ทำให้อิ่มเร็วและนาน
4. ไส้กรอก ครึ่งชิ้น ทานชิ้นเดียวอาจจะไม่เคยพอ แต่ถ้าอยากผอมก็ต้องพอที่ครึ่งชิ้น!
5. ช็อคโกแล็ต 8 ชิ้น ใครที่บอว่ากินช็อคโกแล็ตแล้อ้วนแถมสิวขึ้น เข้าใจผิดแล้วล่ะ การกินดาร์กช็อกโกแลต40 ออนซ์ ทุกวันเป็นเวลาสองสัปดาห์ ช่วยทำให้ฮอร์โมนความเครียดลดลง
6. แอ๊ปเปิ้ล 2 ลูก ราชาแห่งผลไม้ลดน้ำหนักแอปเปิ้ลจะให้พลังงานค่อนข้างต่ำและค่อยเป็นค่อยไป เพราะแหล่งพลังงานของแอปเปิ้ลคือ น้ำตาลฟรักโทสซึ่งเป็นน้ำตาลที่เปลี่ยนรูปเป็นพลังงานอย่างช้า ๆ ในร่างกายช่วยให้ไม่รู้สึกหิว อิ่มนาน
7. น้ำอัดลมครึ่งแก้ว คุณค่าทางโภชนาการของน้ำอัดลมอยู่ที่น้ำตาลซึ่งร่างกายสามารถนำไปใช้เป็นพลังงานได้ แต่จุดอ่อนของน้ำอัดลมอยู่ที่ผู้ดื่มได้พลังงานเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีสารอาหารอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนั้นเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง!
8. เบอร์เกอร์ ครึ่งชิ้น ทานแต่พอดี ถ้าคุณทานฟาสต์ฟูดมากเกินไป อาหารพวกนี้ก็จะกลายเป็นตัวทำลายสุขภาพของคุณได้ จากปริมาณไขมันและเครื่องเทศรสจัดต่าง ๆ ที่มากเกินเหตุ
แต่เดี๋ยวก่อน กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้แนะนำปริมาณพลังงานที่ควรได้รับใน แต่ละวันไว้ในธงโภชนาการ ดังนี้
• เด็กตั้งแต่อายุ 6-13 ปี ผู้หญิงทำงานนั่งโต๊ะ และผู้สูงอายุ ควรได้รับพลังงานประมาณ 1,600 แคลอรี • วัยรุ่นชาย-หญิง ผู้ชายวัยทำงาน และผู้สูงอายุ ควรได้รับพลังงานประมาณ 2,000 แคลอรี - กลุ่มผู้ใช้แรงงาน เกษตรกร และนักกีฬา ควรได้รับพลังงานประมาณ 2,400 แคลอรี
นอกจากจะคำนึงถึงน้ำหนักแล้ว ควรกินอาหารที่มีประโยชน์ ให้ได้ปริมาณพลังงานให้เพียงพอต่อการใช้งานใน แต่ละวันด้วย นอกจากจะหุ่นดีแล้ว สุขภาพที่ดีก็เป็นเรื่องสำคัญ อย่าปล่อยให้ตัวเองผอมแห้ง แล้วสุขภาพก็ย่ำแย่ ไปด้วย
เป็นยังไงกันบ้างครับถ้าชอบก็ฝากกดติดตามด้วยนะครับเพื่อจะได้รับข้อมูลความรู้ดีอีก ขอบคุณมากครับ...
โฆษณา