7 ก.พ. 2021 เวลา 08:52 • การศึกษา
ท่านไท้ส่วยเอี้ยะ เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา
การชงมีจริงไหม ?
Jasmine ขอเข้าไปศึกษาท่านไท้ส่วยเอี้ยะ เห็นพวกท่านเป็นเทพจีนที่อยู่เป็นกลุ่ม เรียงกันตามนักษัตร 12 ราศรี และในแต่นักษัตร จะมี 5 องค์ (5 ธาตุ ดิน ทอง น้ำไ ม้ ไฟ) ถึงรวมกันมี 60 องค์ เห็น เรียงกันคล้ายเลขหน้าปัดนาฬิกา ซึ่งทั้งหมดอยู่ในความดูแลของท่านเง็กเซียนฮ้องเต้
ท่านจะผลัดเปลี่ยนมาทำหน้าที่ดูแลในส่วนของดวงชะตามนุษย์ เวลาที่ท่านองค์ใดจะมาทำหน้าที่จะมีแสงสว่างไปที่ท่านองค์นั้น
Jasmine เลยเข้าไปสนทนา ถามท่านว่า ดวงชะตามีการชงด้วยหรือ แล้วมันคืออะไร
ท่านไท้ส่วยเอี้ยะ: อธิบายว่า ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า พวกเราลงมาเพื่อสร้างบารมีช่วยเหลือผู้คน โดยสลับช่วงเวลากันลงมา ดังนั้น จึงมิคิดที่จะทำร้ายใคร การที่มนุษย์กล่าวว่ามีการชงกับพวกข้า (ในทางมนุษย์คิดตามนักษัตรปีเกิด ที่อยู่ตรงข้ามประจันกับตำแหน่งนักษัตรที่ท่านไท้ส่วยเอี้ยะที่ทำหน้าที่ในปีนั่นสถิตย์อยู่ (ปีนี้เป็นหน้าที่ของท่านไท้ส่วยเอียะที่สถิตย์อยู่ตำแหน่งนักษัตรปีฉลู ดังนั้นในความเชื่อปีที่ชงคืออยู่ตำแหน่งตรงข้ามปะทะชงกับท่านคือคนเกิดปีมะแม)
ท่านว่า ที่จริงแล้วพวกข้าก็ดูแลช่วยเหลือทุกดวงจิตมิได้เลือกใคร แต่การที่ผู้เกิดในช่วงเวลาที่อยู่ในตำแหน่งตรงข้ามกับเราจะได้รับพลังที่ตรง และแรงกว่าผู้อื่น พลังพวกข้าเป็นกลาง ดังนั้น เมื่อส่งไป มันจะไปเป็นภาคขยายให้กับชะตาผู้นั้น ถ้าเค้าทำดีเป็นคนดี คิดดี พลังมันก็จะไปเพิ่มในส่วนพลังบวกนั้น แต่ถ้า เค้าเป็นคนเลวคิดชั่ว พลังพวกข้าด็จะไปเพิ่มพลังลบในชะตาเค้ามากขึ้น และจะเสียหายในเรื่องใด หรือส่งผลดีในเรื่องใดก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของผู้นั้นเป็นเกณฑ์ พวกข้ามิได้แต่จะมุ่งร้าย ผู้ที่อยู่ตรงข้ามมันก็จะได้รับผลมากและเร็วกว่าดวงชะตาของผู้อยู่รอบๆ อันนี้แหละที่เรียกว่าชง ดังนั้น ชง มันมีทั้งดีและไม่ดีขึ้นอยู่กับการกระทำผู้นั้นเป็นหลัก
Jasmine: แล้วมันแก้ได้จริงหรือ
ท่านไท้ส่วยเอียะ: มันก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อ การกระทำอีกนั้นแหละ ที่จริงพวกข้ามิได้เป็นผู้กำหนด มนุษย์เมื่อทุกข์มากๆ เค้าก็หาข้อแก้ตัว หาทางแก้ไขกันไป การทำดี สวดมนต์ หรือไหว้สินบน มันก็ทำให้จิตเค้ารู้สึกดีมีกำลังใจขึ้น ที่จริงมันมิได้เกี่ยวกับข้า
Jasmine: แล้วที่จริงมันมีอธิพลกับดวงชะตาคนจริงไหมค่ะ
ท่านไท้ส่วยเอี้ยะ: จะว่าไป มันก็เป็นสิ่งที่มนุษย์ ทำๆ ตามกัน เชื่อตามๆ กัน นับถือตามกัน ถ้าใครที่นับถือและเชื่อมั่นก็จะได้รับผลทางใจ สติปัญญามันก็จะมาเมื่อเราเริ่มตั้งมั่นจิตขึ้นมีกำลังใจขึ้น ใครที่ไม่เชื่อและยึดมั่นในการกระทำของตนเอง พลังต่างๆในเส้นทางนี้มันก็ไม่มีผล มันขึ้นอยู่กับตัวเค้าเอง
Jasmine: หนูขอถามตรงๆน่ะค่ะ ท่าน จะไม่ตอบก็ได้ หนูเคย สังเกตุ คนที่นับถือท่าน อยู่ในความดูแลของท่าน ถ้ามีพลังจิตที่ต่ำกว่า ท่านก็จะช่วยเค้า แต่ถ้าผู้ที่มีพลังจิตสูงกว่าท่าน และมายอมรับ นับถือเคารพบูชาท่าน ท่านก็จะดึงพลังส่วนที่เหนือของเค้า มาเป็นของท่าน จนเค้าระดับต่ำกว่า ท่านก็ค่อยเข้าช่วยเหลือจริงไหมค่ะ
ท่านนิ่ง แล้วกล่าวว่า
ท่านไท้ส่วยเอี้ยะ: ข้ามิได้ ไปขอน่ะ เค้าเข้ามาเอง จริงไหม และการจะช่วยใครที่จะช่วยได้เต็มที่ เราต้อง อยู่สูงกว่าเค้า เพื่อที่จะมองปัญหาเค้าออกจริงไหม
Jasmine: เลยถามต่อว่า มาถึงตรงนี้ หนูขอถามหน่อยน่ะค่ะ ว่า ทำไม ต้องมีนักษัตรเป็นสัตว์ แล้วทำไมต้องเป็นสัตว์ 12 ราศรี เหล่านั้น ทำไมไม่เป็นตัวชนิดอื่นบ้าง ดูแล้วมีทั้งสัตว์เล็กหรือสัตว์ใหญ่ที่น่าเอามาเป็นตัวแทนได้อีกจริงไหม
คราวนี้กลับเห็นมีผู้เฒ่า จีนผมเกล้ามวยสีขาว ผิวขาวๆ สูงผอมๆ ใส่ชุด แบบหนังจีนโบราณ เดินมาให้คำตอบว่า
ท่านผู้เฒ่า: เราสังเกตุจาก การเคลื่อนไหว ความเป็นอยู่ของสัตว์เหล่านั้น เมื่อเค้าเคลื่อนไหวกซ้ำๆเวลาเดิม การออกหากินของสัตว์เหล่านั้น ย่อนเกิดพลัง และมันก็ลงตัวกับยามเวลาจริง โดยคิเป็น 12 ช่วงยาม (เท่ากับ 24 ชั่วโมงของปฏิทินสุริยคติ) 1 ชั่วยามเท่ากับ 2 ชั่วโมง เช่น
ช่วงแรก หมายถึง 23 นาฬิกา ถึง 1 นาฬิกา ถูกจับคู่กับหนู เนื่องจากเป็นเวลาที่หนูออกหากิน
ช่วงยามที่ 2 หมายถึง 1นาฬิกา ถึง 3 นาฬิกา ถูกจับคู่กับวัว เพราะเป็นเวลาที่มันเคี้ยวเอื้อง และก็ไล่ไปลำดับพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของสัตว์ตามเวลาเช่นนี้ และการที่ให้มีสัตว์หลายๆชนิด ทั้งสัตว์เล็กใหญ่ และแม้แต่มังกรซึ่งเป็นสัตว์เทพเจ้า เพื่อให้พลังนั้นทั่วถึง และพฤติกรรมสัตว์เหล่านี้ก็เป็นไปตามเวลาที่เหมาะสมด้วย
Jasmine: ท่านเป็นใครค่ะ
ท่านผู้เฒ่า: ท่านว่า มิต้องกล่าวชื่อหรอก แต่เป็นผู้ให้กำเนิดตำราโป็ยหยี่สี่เถี่ยว (ตำราดวงจีน)
Jasmine: สวัสดีค่ะ ยอนดีที่ได้รู้จัก ได้ยินชื่อตำรานี้มานาน วันนี้ได้เจอตัวบรมจารย์เอง ถ้าวันหน้าหนูจะมาขอศึกษาด้วยได้ไหมค่ะ
ท่านผู้เฒ่า: จะว่าไป ตำรานี้ หลังจากข้าเขียนขึ้นก็มีการเพิ่มเติมต่อๆกันมา เอาว่า ร่วมกันสร้างดีกว่า แต่อย่างไรก็ยินดีๆ ที่จะถ่ายทอดให้
Jasmine: ขอบคุณค่ะ
แล้วก็หันมาทางท่านไท้ส่วยเอี้ยะต่อ
ท่านว่า เช่นนี้แสดงว่า การชงหรือไม่มันขึ้นอยู่กับความเชื่อถือในระบบประเพณีและเคารพศรัทธาในพลังของท่านและรวมทั้งพฤติกรรมความเป็นอยู่ของผู้นั้นใช่ไหมค่ะ
ท่านไท้ส่วยเอี้ยะ: ใช่ๆ ท่านพูดถูก
Jasmine: แสดงว่า ถ้าเราสร้างคุณงามความดี ไม่ว่าจะเวลาใด มันก็จะไม่มีคำว่าชงใช่ไหม
ท่านไท้ส่วยเอีัยะ: อย่าลืมว่าคนเรามีเวรกรรมต้องชดใช้ มันอาจถึงเวลาที่เข้ามาแม้เราจะทำดี ก็ตาม บุญก็รับ กรรมก็ต้องชดใช้จริงไหม แต่การที่เราใฝ่ดีมีคุณธรรมจิตใจสงบ อย่างน้อย เราก็มีสติในการคิดแก้ไข เข้าใจเหตุผล และยังมีผู้มาช่วย ทั้งทาง ทิพย์ และทางโบกได้เหมือนกัน ดังนั้น อย่ามัวแต่มาคิดว่า เราชงไหม จะแก้ชงอย่างไร เอาเวลาไปฝึกปฎิบัติ สวดมนต์สร้างกรรมดี จะดีกว่า และแม้ว่า จะนับถือเราก็จงนับถือ เคารพด้วยเหตุและผล ให้ใช้ปัญญานำศรัทธา ไม่ว่าไง จะชงหรือไม่ ชีวิต โชคชะตา มันก็ต้องดีขึ้นแน่นอน ไม่ดีก็ไม่ถึงกับทรุดลง จำไว้ จงช่วยตัวเราเองก่อน ก่อนขอความข่วยเหลือผู้อื่น ถ้าจะขอ จงขอคำแนะนำเพื่อเสริมสร้างสติปัญญาจากเค้าจะดีกว่า นี่ข้าบอก ท่านน่ะ
Jasmine: ขอบคุณมากค่ะ หนูต้องขอตัวก่อน ขอบพระคุณทุกท่าน ที่ให้ความรู้ และ ท่านผู้เฒ่า อย่าลืมน่ะค่ะหนูจะไปขอเรียนรู้วิชาท่าน ขอบคุณมาก ขอกลับก่อนน่ะค่ะ
โฆษณา