โพสต์ไว้ว่าเรื่องนี้ดูแล้ว
The Florida Project (2017)
หนังอินดี้จากค่าย A24 เช่นเคย
หนังสีสันสดใส ที่พูดถึงเรื่องราวชีวิตดาร์ก ๆ ของคนชายขอบละแวกใกล้เคียงกับดิสนีย์แลนด์
โดยดำเนินเรื่องราวผ่านชีวิตเด็กห่ามๆ ที่ชื่อ Monee (มูนี่) แสดงโดย Brooklyn Prince
ในเรื่องนี้ Monee เป็นเด็กที่โตมากับแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ชื่อ Halley รับบทโดย Bria Vinaite นักแสดงหน้าใหม่ ที่ได้สวมบทบาทแม่วัยสาว ที่ไม่มีใครเชื่อว่าเธอจะดูแลลูกได้ดีเท่าไหร่นัก ถึงอย่างนั้น Halley ก็คือแม่คนหนึ่งซึ่งพยามหาเงินเลี้ยงลูก เพื่อไม่ให้ลูกรู้สึกลำบาก ในขณะเดียวกัน Halley ต้องพยามไม่ให้ตนเองโดนไล่ออกจากโมเตล ที่ต้องจ่ายค่าเช่าเป็นรายสัปดาห์อยู่เป็นประจำ
⠀ ⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀ ⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀
ซึ่งโมเตลในรัฐฟลอริดา ที่อยู่ใกล้เคียงกับดิสนี่ย์แลนส์ ล้วนได้รับอิทธิพลจากการเติบโตของดิสนีย์แลนด์ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นโมเตลที่ MoneeและHalley อาศัยอยู่ ที่ใช้ชื่อว่า "เมจิกแลนด์" โดยเลียนแบบมาจากเมจิกแลนด์ของดิสนีย์แลนด์
เช่นเดียวกันกับโมเตลที่เด็กคนอื่นอาศัยอยู่ ก็มีชื่อเรียกอย่าง "ฟิวเจอร์แลนด์" หรือแม้กระทั่งคอนโดร้างข้าง ๆ กัน ก็ยังคงไว้ซึ่งสีสันสดใสให้ได้เห็นกัน
โมเตลในรัฐฟลอริดาที่ได้รับอิทธิพลจากดิสนี่ย์แลนด์ แม้ภายนอกจะมีสีสันไม่ต่างจากดิสนีย์แลนด์ ทว่า เมื่อฉายให้เห็นชีวิตผู้คนภายในโมเตลเหล่านั้น สีสดที่สดใสของโมเตลช่างตัดกับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยที่ไม่น่าอภิรมย์เอาเสียเลย
ดิสนี่ย์แลนด์ในภาพยนตร์เรื่องนี้ จึงเปรียบเหมือนยูโทเปียที่เด็ก ๆ อยากไปสัมผัส
ในขณะที่โมเตลห้องเล็ก ๆ ต่างหาก คือชีวิตจริงที่พวกเขาสัมผัสได้และเอื้อมถึง โดยเฉพาะกับคนที่หาเช้ากินค่ำพอให้มีเงินจ่ายค่าเช่ารายสัปดาห์ คงไม่สามารถเติมเต็มความฝันของเด็ก ๆ เป็นจริงได้
"แม้จะอยู่ใกล้แต่กับเอื้อมไม่ถึง"
หนังเรื่องนี้เสนอให้เราเห็นอเมริกาในอีกมุมหนึ่ง และดิสนี่ย์แลนด์ที่เปรียบเสมือนอเมริกันดรีมของเด็ก ๆ แต่กลับไม่ใช่เด็กทุกคนที่จะถูกเติมเต็มความฝันนั้นให้เป็นจริง
หนังยังคงดำเนินเรื่องราวไปโดยนอกจากจะฉายให้เห็นชีวิตเด็กคนหนึ่ง แล้ว ยังฉายให้เห็นถึงบริบทสภาพแวดล้อมของตัวเธอ
ซึ่งอาจทำให้หลายคนเอาใจช่วยและเสียน้ำตาให้กับเด็กคนนี้โดยไม่รู้ตัว
แม้ว่าอนาคต Monee อาจจะเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ในแบบของแม่เธอที่เป็นหรือเติบโตไปทิศทางใดอื่นซึ่งไม่อาจทราบได้ ถึงกระนั้น ผู้เขียนก็ยังอยากเอาใจช่วยเธออยู่ดี
สิ่งที่ผู้เขียนชอบจากหนังเรื่องนี้ นอกจากเนื้อหาที่ผู้อ่านต้องเข้าไปรับชมกันเองแล้ว(เพื่อไม่ให้เป็นการสปอยด์เนื้อหา) หนังเรื่องนี้ยังเน้นการฉายภาพกว้าง แลนด์สเคปแสนสวย สีฟิล์มสดใส ท่ามกลางชีวิตหม่น ๆ ของชีวิตเด็กคนหนึ่ง
นอกจากนี้ ผู้เขียนยังชอบวิธีการคัดเลือกนักแสดง โดยเฉพาะบท Halley เนื่องจากเดิมทีผู้กำกับอยากได้ Britney Spears นักร้องเพลงป๊อปชื่อดังขวัญใจอเมริกันชนในยุคหนึ่ง มารับบทนี้ โดยคาแรคเตอร์นี้มีความคล้ายคลึงกับภาพที่บริทนีย์ถูกนำเสนอผ่านสื่อออกมาให้เราได้เห็นกันอยู่ช่วงหนึ่ง
ทว่า ท้ายที่สุดแล้ว Bria Vinaite ผู้รับบท Halley ด้วยบทบาทและการแสดงของเธอ ที่ทำให้ผู้เขียนเชื่อว่า เธอเป็นแม่ ที่ไม่อาจดูแลลูกให้ดีได้ ตามการรับรู้ของสังคมส่วนใหญ่ และตามที่กฎหมายคุ้มครองเด็กกำหนด
การแสดงของเธอทำให้ผู้เขียนเชื่อว่า เธอคือคุณแม่วัยสาว ที่ติดยาอย่างหนัก จนมีอาการที่แสดงออกมาทางกายภาพและทางจิตใจ
หากนึกภาพไม่ออก ให้ผู้อ่านลองเสิร์จภาพบริทนีย์ สเปียร์ส ช่วงที่เธอโกนผม (แต่ถึงอย่างนั้นผู้เขียนมิได้มีเจตนากล่าวหาว่าบริทนีย์ สเปียร์ส ใช้ยาเสพติดแต่อย่างใด)
อีกอย่างหนึ่งที่ผู้เขียนประทับใจ คือ การแสดงของนักแสดงเด็กในเรื่อง ทุกคนแสดงได้อย่างเป็นธรรมชาติมาก ราวกับว่าพวกเขากำลังเล่นเป็นตัวเอง แม้หนังอาจจะมีบทพูดมาให้ แต่อาจไม่ได้กำกับบทบาทว่าเด็กจะต้องเป็อย่างไร จนถ่ายทอดความเป็นธรรมชาติของเด็กออกมาให้ได้ชมกัน
⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀
ท้ายนี้ สิ่งที่ผู้เขียนชอบที่สุด คือ การแสดงของคนดูแลโมเตลที่ชื่อ Bobby ซึ่งรับบทโดย Willem Dafoe ที่หลายคนคงเคยเห็นการแสดงของเขาผ่านตามาบ้าง
ตัวละคร Bobby ผู้ดูแลโฮเตล ที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรนี้ ทว่าผู้เขียนกลับรู้สึกว่า Bobby เป็นคนที่คอยติดตาม/คอยดูสอดส่องทุกคนในโมเตล
แม้ในบทบาทที่ได้รับจะไม่ได้สื่อสารออกมาโดยตรง โดยเฉพาะกับ Monee ผู้เขียนคิด(เอาเอง)ว่าบ๊อบบี้คงเป็นอีกหนึ่งคน ที่คอยห่วงใย เอาใจช่วยมูนี่ และบ๊อบบี้คงอยากเห็นว่าชีวิตมูนี่จะเป็นอย่างไรต่อไป
ผู้เขียนยังคงอยากรู้เช่นกันว่ามูนี่จะเติบโตไปในทิศทางไหน ยังคงอยากเอาใจช่วยต่อไป แม้จะช่วยอะไรไม่ได้เลยก็ตาม
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
