Come back แล้วค่า มา Update ชีวิตกัน ^^
Review การจมดิ่งขั้นสุด!!!
ขออภัยที่นะโมห่างหายไปนาน เกิดหลายๆ เหตุการณ์ขึ้นมาในชีวิตของนะโมเอง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ถัดจากบทความก่อนหน้านี้ จะมาเล่าในบทความนี้ค่ะ
จากบทความก่อนหน้า.. เมื่อนะโมติดเตียงนานๆ และได้เจอกับเหตุการณ์ที่ค่อนข้างกระทบจิตใจสุดๆ ขอเกริ่นก่อนว่า นะโมเองเป็นซึมเศร้า (ไม่ได้เป็นซึมเศร้าทิพย์ค่ะ ไปพบแพทย์ทุกเดือน (>.<;)) พอเกิดอาการดิ่ง พ่วงกับสถานการณ์ที่กระทบจิตใจ เลยทำให้นะโมตัดสินใจลาโลกใบนี้ (ขอใช้คำว่า ตุย = ตาย นะคะ จะได้ดูซอฟต์ลงหน่อย)
เอาล่ะ! เตรียมตัวเรียบร้อย คิดแล้วว่าต้องทำอย่างไรบ้าง มีจดหมายลาตุยไว้ด้วย ณ สภาพจิตใจตอนที่คิดว่านะโมจะตุยแล้ว จะไม่มีวันพรุ่งนี้แล้ว มันคือความรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก เหมือนความทุกข์ทุกอย่างที่นะโมแบกมานั้นหลุดออกหมดแล้ว เหลือเพียงตัวนะโมเองและความว่างเปล่า
นะโมได้ทำการกรีดแขนตัวเองด้วยใบมีดสำหรับโกนคิ้วของผู้หญิง ภาพที่คิดไว้คือคงเหมือนในหนังที่เลือดพุ่งออกมา นะโมจะปล่อยให้เลือดไหลจนตุยไปเอง แต่!! ความจริงมันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ด้วยความที่ไม่มีความรู้ด้านร่างกายมนุษย์ คิดแค่ว่ากรีดตรงๆ ไม่ใช่กรีดขวาง ยังไงนะโมต้องตุยแน่
ผลสุดท้าย..ไม่ตุยค่ะ เพราะเลือดไม่ได้พุ่งแบบในหนัง และแฟนกลับมาเจอนะโมที่นอนพยายามให้เลือดมันไหลออกจากตัวอยู่ บอกเลยว่าแฟนโมโหสุดๆ จากการกระทำที่เกิดขึ้น ในตอนนี้หลายคนอาจคิดว่า 'นะโมจะตุยทำไม มีเรื่องอะไรหนักใจขนาดนั้นเลยหรอ?'
สำหรับนะโมในตอนนั้นคือหนักจริงๆ ค่ะ และการมาออกมาเล่าเรื่องราวนี้ก็ใช้เวลาไตร่ตรองอย่างดีแล้ว เพื่อเป็นอุทธาหรณ์ เพื่อเตือนใจหลายๆ คนที่กำลังเจอปัญหาและเป็นโรคเดียวกับนะโม
ภาพนี้คือหลังจากเกิดเหตุ 1 วัน ปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้ว เนื่องจากไม่ตุยและได้จองที่พักไว้ ไม่อยากให้เสียเงินเปล่า นะโมกับแฟนเลยตัดสินใจเดินทางทั้งๆ ที่สภาพจิตใจก็ยังไม่โอเคทั้งคู่
ขณะที่ได้ปลีกตัวจากโลกโซเชียล อยู่กับตัวเอง ณ ปัจจุบัน จึงคิดได้ค่ะ แต่ถ้าถามว่า..นะโมเสียใจไหมที่ทำร้ายตัวเอง นะโมไม่เสียใจเลย เพราะตอนนี้รอยแผลนั้นยังคอยย้ำเตือนนะโมถึงวันที่ต้องการจากโลกใบนี้ไป ให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือแผลเป็นนั่นแหละค่ะ แม้เวลาจะผ่านล่วงเลยมาปี 2021 แล้ว แต่แผลเป็นนี้ก็ยังไม่หายดี (เหตุเกิดเมื่อประมาณเดือนก.ย. 2020)
สิ่งที่นะโมได้รับกับบทเรียนราคาแสนแพงนี้คือ..ความตุยไม่ใช่ทางออกเดียวที่จะแก้ปัญหาได้ หลายคนมักบอกว่าคนที่คิดฆ่าตัวตายคือคนคิดสั้น นะโมขอแย้งตรงนี้เลยนะคะ กว่าการตัดสินใจจะละทิ้งตัวเองจากโลกใบนี้แล้ว มันผ่านขั้นตอนความคิดมาเยอะมากค่ะ
เมื่อกลับไปพบแพทย์ตามนัด นะโมก็ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้แพทย์ทราบ และจัดการปรับยาเพื่อให้ตัวนะโมเองดีขึ้น ซึ่งนอกจากยาที่ช่วยปรับสารเคมีในสมองแล้ว จิตใจ ความคิด รวมถึงทัศนคติก็เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ทำให้นะโมผ่านเหตุการณ์นั้นมาได้ และไม่คิดจะตุยอีกแล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
นะโมรักตัวเองมากขึ้น เข้าใจตัวเองมากขึ้น ปรับมุมมอง ปรับความคิด พยายามอยู่บนหลักความเป็นจริง แต่ก็ใช้เวลาพอสมควรค่ะ กว่าจะหลุดจากหลุมที่นะโมลงไปได้ การปีนป่ายขึ้นมา ต้องใช้แรงใจอย่างมาก ซึ่งคนรอบข้าง สภาพแวดล้อมก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยดันนะโมขึ้นมาจากหลุม
นะโมอยากแชร์ประสบการณ์นี้ให้หลายๆ คนทราบกัน เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนกันกับนะโม นะโมขอแนะนำ..ถ้าคิดว่าตัวเองไม่ไหวแล้ว ให้ไปพบแพทย์ก่อนเลยค่ะ หรือคุยปรึกษากับคนที่ไว้ใจได้ก่อนจะตัดสินใจละทิ้งตัวเอง นะโมเองก็พลาดที่ไม่ได้ไปพบแพทย์เมื่อตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ไหว
ณ ปัจจุบันนี้ หมายถึงในปี 2021 นี้นะคะ นะโมเองได้พัฒนาทางด้านความคิด อารมณ์ การปล่อยวาง การทำจิตให้สงบ เดินทางสายกลาง มองทุกอย่างอยู่บนความเป็นจริง บนสัจธรรมของโลก ขอบอกเลยว่ารู้สึกแข็งแกร่งทางด้านจิตใจมากค่ะ
ท้ายนี้..นะโมขอเป็นกำลังใจให้หลายๆ คนที่กำลังเผชิญปัญหาหรือเป็นโรคซึมเศร้าอยู่นะคะ สนับสนุนให้ไปพบแพทย์ก่อนตัดสินใจอะไรค่ะ เพราะบทเรียนราคาแสนแพงนั้นต้องแลกด้วยหลายสิ่ง ซึ่งไม่มีสิ่งใดคุ้มค่าเลย
ในส่วนบทความหน้า..นะโมจะมารีวิวการไปออกโปรเจคคอสเพลย์ครั้งแรกนะคะ ในปี 2020 หลังจากนั้นก็จะเป็นเรื่องของปี 2021 แล้วค่ะ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านกันนะคะ ^^
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
