เรื่อง “คัมภีร์เก้าบุปผา”
ตอนที่ 20
ความเดิมตอนที่แล้ว
พรรคฟ้าดิน ได้นำกองกำลัง ล้อมรอบเขาหัวซานไว้โดยผู้ที่นำกองกำลังมา คือ 3 ทูตพรรคฟ้าดินและ 12 มณีพฤกษา
โดยจุดประสงค์ของพวกเขาก็คือการมา เพื่อตามหา เทพธิดา ซึ่งได้ เข้ามายังแผ่นดินภาคกลางเป็นเวลานานถึง 10 ปีแล้ว
โดยเหตุผลหลักอีกอย่างก็คือประมุขคนปัจจุบันของพรรคฟ้าดินได้เสียชีวิตลงแล้วตามกฎของพรรค จึงต้องเชิญธิดาเทพ ซึ่งเป็นทายาท ขึ้นดำรงตำแหน่งประมุขพรรคคนต่อไป
โดยในตอนนี้เซียวอีได้เข้าต่อสู้กับ
3 ทูตพรรคฟ้าดิน และ เจอเข้ากับ ยอดวิชาสามประสานพันธ์เหลี่ยมที่ค่อนข้างจะเสียเปรียบอย่างมาก เพราะไม่รู้แนวทางวิชา
ท่ามกลางสถานการณ์ที่กำลังจะแย่อยู่นั้นเอง เตี่ยเมี่ยง ก็ได้ตะโกนออกมาว่า
3 ทูตพรรคฟ้าดินจงหยุดมือ!!
พร้อมกับชูป้ายตราสัญลักษณ์รูปดินและฟ้า เมื่อ 3 ทูต และ 12 มณีพฤกษาพร้อมด้วยเหล่าศิษย์ทั้งหลายเห็นจึงได้คุกเข่าลงคำนับต่อ “ป้ายฟ้าดิน”
ที่แท้เตี่ยเมี่ยงก็คือ ธิดาเทพ
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ในตอนนั้นประมุขพรรคฟ้าดินคือ เจ้ามังกรเสื้อม่วง
ซึ่งเป็นแม่แท้ๆของเตี่ยเมี่ยง
เมื่อเจ้ามังกรเสื้อม่วงขึ้นรับตำแหน่งประมุขพรรคนางจึงได้แต่งตั้งให้เตี่ยเมี่ยงขึ้นมาดำรงตำแหน่ง ธิดาเทพ ซึ่งหมายถึงทายาท คนต่อไป
ในเวลานั้นเองเจ้ามังกรเสื้อม่วงได้มีคำสั่งให้ธิดาเทพ เดินทางไปยังแผ่นดินภาคกลางเพื่อแทรกซึมเข้าไปยังพรรคสุริยันจันทรา หรือพรรคอสูรจันทราเดิม เพื่อ ขโมย เคล็ดวิชาลมปราณตะวันจันทรา
มาเพื่อเป็นการตัดกำลังของ พรรคสุริยันจันทรา แล้ว ทางพรรคฟ้าดินก็จะนำกองกำลัง บุกเข้าทลายพรรคสุริยันจันทรา เปิดประตูสู่ภาคกลาง หลังจากนั้นจึงค่อยปราบทุกสำนักในยุทธภพ
เมื่อ เตี่ยเมี่ยงหรือธิดาเทพ ได้ประกาศตน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นางจึงพูดขึ้นว่า ทุกท่านจงรีบหยุดมือเถิด ข้า ยินดี ติดตามพวกท่านกลับไปยังแผ่นดินภาคเหนือ เพื่อเข้ารับตำแหน่งประมุขพรรคคนใหม่
แต่ก่อนจะเดินทางกลับไปนั้นนางจึงได้หันมาหาเซียวอี้แล้วบอกว่า ขอบคุณสำหรับความรู้สึกดีๆ ที่ท่านมอบให้ข้ามาตลอด
ข้าจะจดจำมันไว้ไม่ลืมเลือน สุดท้ายนี้ข้าอยากจะบอกความรู้สึกในใจของข้า ว่า
“ข้ารักท่าน“
เซียวอี้เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็เกิดน้ำตาไหล แล้วพูดขึ้นว่า ข้าก็รักเจ้าเช่นกัน
นาง จึงพูดต่อไปอีกว่า 1 ปี แค่ 1 ปีเท่านั้น ท่านกับข้าก็จะได้กลับมาพบกันอีกแน่นอน
เซียวอี้จึงตอบนางว่านานแค่ไหนข้าก็จะรอเจ้า รอเจ้าตลอดไป
หลังจากนั้น เตี่ยเมี่ยงหรือธิดาเทพ จึงเดินทางกลับไปกับ 3 ทูตพรรคฟ้าดิน และ
12 มณีพฤกษา เดินทาง กลับสู่ภาคเหนือ
ทางด้าน เซียวอี้จึงได้อำลาต่อจอมยุทธสำนักต่างๆเพื่อเดินทางกลับไปยังพรรคสุริยันจันทราส่วนสำนักอื่นๆก็แยกย้าย
เช่นกัน 3 สำนักกระบี่และเส้าหลินบู๊ตึง ต่างก็แยกย้ายกลับยังที่ตั้งของตนเอง
เซียวอี้และพรรคพวกได้เดินทางกลับมาจนถึงพรรคสุริยันจันทราและได้มาพบเข้ากับประมุขอึ้งที่กำลังจะปิดชีพของ 2 คนทรยศคือ ต้าเหลียงกับต้าจง
เซียวอี้ที่เห็นดังนั้นจึงได้ตะโกนห้ามไว้แล้วพูดขึ้นว่าท่านประมุขหากท่านสังหาร 2 คนนี้แล้วท่านจะได้อะไรขึ้นมาล่ะมิสู้ครั้งมันไว้ให้มันได้ชดใช้กรรมของมันจะไม่ดีกว่าหรือ
ทันใดนั้นเองต้าจงก็ใช้ยาพิษที่ติดตัวอยู่กรอกเข้าปากตนเองจนถูกพิษสิ้นใจตายในที่สุด
ต้าเหลียงที่เห็นดังนั้นก็เกิดรู้สึกผิดขึ้นมาจึงได้เล่าความจริงบางอย่างให้กับประมุขซึ่งได้ฟัง
ต้าเหลียงเล่าว่า เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้วในตอนนั้นภรรยาของท่านประมุขได้ให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่งขึ้น
ในตอนนั้นเอง ข้ากับต้าจงที่ต้องการจะหุบตำแหน่งประมุขอยู่แล้ว จึงไม่อยากให้ท่านมีทายาทในคืนนั้นเอง
ข้ากับต้าจงจึงได้ลักลอบขโมยบุตรชายของท่านแล้วนำไปทิ้งไว้บริเวณข้างทางใกล้กับสำนักพยัคฆ์บิน
หลังจากนั้นพวกข้าจึงได้รีบเดินทางกลับมา แต่คิดไปคิดมาก็ไม่อยากจะทำให้เด็กเกิดอันตรายพวกเราจึงได้ย้อนกลับไปยังที่เดิม
แต่ปรากฏว่า สองสามีภรรยา แห่งสำนักพยัคฆ์บินนั่นก็คือเจ้าสำนักเอี้ยนเทียนได้เก็บเด็กคนนั้นไปแล้ว
พวกเราเองก็ไม่ได้สนใจอะไรจึงได้รีบเดินทางกลับมาและมาดำเนินการแผนต่อไปคือการลอบสังหารภรรยาของท่านแล้วใส่ความว่าเป็นฝีมือของ 3 สำนักกระบี่
หลังจากนั้นก็ยุให้ท่าน ไปต่อสู้กับเจ้าสำนักทั้ง 3 พอท่านอ่อนแรงอาศัยเพียงฝีมือของพวกเราทั้งสองก็สามารถทำให้ท่านบาดเจ็บได้หลังจากนั้นก็แค่เข้าควบคุมพรรคสถาปนาตนเองขึ้นเป็นประมุขยังไงล่ะ
เมื่อเซียวอี้ได้ฟังเขาก็รู้ได้ในทันทีว่า
บุตรชายที่กล่าวถึงก็คือเขานั่นเองเซียวอี้พูดด้วยเสียงที่สั่นว่านี่ข้าเป็นลูกของท่านอย่างนั้นหรือ
ประมุขอึ้ง ก็แทบไม่อยากจะเชื่อว่าลูกชายที่เขาตามหามาตลอดจะอยู่ใกล้ๆนี้เอง
ประมุขอึ้งแทบน้ำตาจะไหล แล้วพูดขึ้นว่า ลูกพ่อมาหาสิลูก...
เซียวอี้ จึง ร้องขึ้นว่า ท่านพ่อ...แล้วจึงวิ่งเข้าไปกอดประมุขอึ้งในทันที
ทั้งคู่ต่างร้องห่มร้องไห้กันยกใหญ่ต่างพูดถึงสิ่งที่อยากบอกกันมาตลอด 20 ปี
ทางด้านต้าเหลียง เมื่อได้เล่าทุกสิ่งทุกอย่างจนหมดสิ้นแล้วเขาก็ได้ รู้สึกว่า หมดพันธะหรือเรื่องราวต่างๆแล้วสบายใจแล้วหลังจากนั้นจึงได้ใช้นิ้วเดินพลังลมปราณทะลวงเข้าสู่หัวใจปลิดชีพตนเองตายในที่สุด
ภายหลังจากเรื่องราวทุกอย่าง สงบลง
ประมุขอึ้งและเซียวอี้จึงได้ทำพิธีฝังหลุมศพให้กับต้าเหลียงต้าจงเป็นอย่างดี
หลังจากนั้นก็ได้มีการปรับปรุงและพัฒนาถึงโครงสร้างต่างๆของพรรคให้ดียิ่งขึ้น
และในช่วงนี้ประมุขอึ้งยังได้ บอกถึงแนวทางเคล็ดวิชาลมปราณตะวันจันทราขั้นที่ 6 ซึ่งเซียวอี้นั้นฝึกยังไม่สำเร็จให้อีกด้วย
ตัดภาพไปที่ปรมาจารย์ฟงหยวน ณ หุบเขาแห่งหนึ่ง ในตอนนี้เขากำลัง ถ่ายทอดยอดวิชาคัมภีร์เก้าอิมจินเอ็งให้แก่กังปิ่น
ซึ่งเป็นแค่การเริ่มต้นของวิชาเท่านั้นเพราะ
3 วิชาสุดยอดของปรมาจารย์ฟงหยวนนั้นฝึกยากยิ่ง แม้ฝึกเพียงวิชาคัมภีร์เก้าอิมจินเอ็งก็ยากราวกับการแบกภูเขานับ 10 ลูก
แต่กังปิ่นก็มีความเพียรพยายามและความตั้งใจที่จะฝึกให้ประสบความสำเร็จ
เพียงเวลาแค่เดือนเศษเขาก็สามารถฝึกคัมภีร์เก้าอิมจินเอ็ง ขั้นแรกได้และสามารถแปรสภาพกำลังภายในให้กลายเป็นพลังความเย็นได้
แต่ถึงกระนั้นการที่จะสามารถนำเอาไปใช้จริงได้ต้องฝึกถึงขั้นที่ 9 ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาต่อจากนี้ถึง 9 ปีและฝึกให้ชำนาญอีก10กว่าปี
ตัดภาพไปที่ แดนภาคเหนือ...
ในตอนนี้ธิดาเทพเตี่ยเมี่ยงได้ขึ้นดำรงตำแหน่งประมุขพรรคฟ้าดินคนใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นางจึงได้เริ่มต้นการขยายอิทธิพลในภาคเหนือตามคำแนะนำของ
3 ทูตพรรคฟ้าดิน
และในช่วงเวลาต่อจากนี้นางยังคงต้องรอเวลาถึง 1 ปีถึงจะได้กลับไปพบกับ
เซียวอี้อีกครั้งเพราะตามกฎของพรรค
1 ปีให้หลังประมุขพรรค
จึงจะมีอำนาจแบบเบ็ดเสร็จโดยไม่ต้องมีคนมาคอยให้คำชี้แนะซึ่งหมายความว่า 1 ปีหลังจากนี้นางจะสามารถมอบตำแหน่งประมุขให้ใครก็ได้และนางจะเป็นอิสระ
แต่ถึงกระนั้นการที่เป็นเช่นนี้ก็ทำให้นางไม่ต้อง ถูกพิษของดอกไร้รักทำร้ายจนถึงขั้นต้องสิ้นชีวิตเพราะพิษดอกไร้รักจะทำงานก็ต่อเมื่อมีความรู้สึกเท่านั้น
ตัดภาพไปที่ทางด้านเซียวอี้
ภายหลังจากได้รับถ่ายทอดลมปราณตะวันจันทราจนสมบูรณ์แล้วและเรื่องราวภายในพรรคก็เป็นไปด้วยความสงบสุข
เซียวอี้จึงได้มอบตำแหน่งรักษาการประมุขให้กับทูตซ้ายทูตขวาเป็นผู้ดูแลพรรค
ส่วนตัวเองนั้นก็ปลีกวิเวกไปอาศัยอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งเพื่อทบทวนฝึกวิชาให้แตกฉาน
และชำนาญมากยิ่งขึ้น
จบตอนที่ 20
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
