Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
จดการบ้าน
•
ติดตาม
8 ก.พ. 2021 เวลา 09:18 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
The wolf of Wall Street (2013)
หนังนานเกือบสามชั่วโมงที่ทำให้เห็นชีวิตตั้งแต่เริ่มต้นทำงานจนรวยเงินล้นของคนหนึ่งคน
เริ่มต้นจากการเข้าไปเป็นเด็กฝึกหัดใน Wall Street ที่เข้ามาทำงานงงๆ ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ถูกสั่งสอนให้รู้จักวิธีการขาย โดยเน้นไปที่จุดอ่อนของลูกค้าแต่ละคนนั่นคือ “ความโลภ” และการปั่นหัวลูกค้าก็ทำได้โดยง่าย ยิ่งในตลาดที่มีเหล่ากระทิงวิ่งกันเพ่นพ่านอย่าง Wall Street
เมื่อการงานก้าวหน้าเติบโตถึงจุดหนึ่ง ในเรื่องยังพาผู้ชมไปพบเจอกับวิกฤตใหญ่ระดับชาติอย่าง Black Monday ซึ่งความหนักหนาสาหัสก็ไม่น่าจะต่างจากสถานการณ์ Covid-19 ปัจจุบัน ที่เกิดความโกลาหลทางเศรษฐกิจ ทำให้แผนการอนาคตที่หลายคนวาดฝันเอาไว้ต้องถูกขยำทิ้ง และโยนลงขยะไปก่อน เพราะการเอาตัวรอด ณ เวลาขณะนั้นสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด
การต่อสู้ในยุคที่เศรษฐกิจย่ำแย่เกิดวิฤตการณ์เลวร้ายทั่วทั้งโลกแบบนี้ “กำลังใจ” จากคนใกล้ตัวถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่ช่วยให้มีแรงก้าวต่อ การผจญภัยของเรื่องนำพาให้ไปพบกับงานใหม่ที่น่าเย้ายวนด้วยค่านายหน้าที่สูงกว่าเดิมหลายเท่า และด้วยสกิลการขายที่มีอยู่แล้วบวกกับความโลภของปลายสายที่โทรไป จึงทำให้การสนทนาผ่านโทรศัพท์เป็น “การ(หลอก)ขาย” ที่รวดเร็ว และวางหูลงพร้อมกับความโลภของปลายสาย
“คนจะรวย ช่วยไม่ได้” ตามชื่อหนังที่แปลเป็นไทยจึงกำเนิดเกิดขึ้น เมื่อ “ความโลภ” เข้าครอบงำการจะหยุดอยู่แค่การเป็นพนักงานต๊อกต๋อยจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก ยิ่งคนอย่าง Jordan Belfort ยิ่งแล้วใหญ่ ด้วยความที่เป็นคนมีความทะเยอทะยาน มั่นใจในตัวเอง และเป็นพวกกล้าได้กล้าเสียอยู่แล้วด้วย เหมือนฟ้ารู้เห็นเป็นใจดลบันดาลให้กลุ่มคนโลภมาเจอกัน การดำเนินการสร้างธุรกิจการ(หลอก)ขายหุ้นจึงกำเนิดเกิดขึ้น
จะว่าไป “ความโลภ” ก็นับว่าเป็นการเสพติดอย่างหนึ่ง ซึ่งในเรื่องทำให้เห็นทุกอย่างที่มนุษย์เราจะเสพติดมันได้ไม่ว่าจะเป็น โคเคน ยาบ้า กัญชามาให้หมด และสิ่งที่ยั่วยวนหัวใจผู้ชายมากที่สุดยามที่มีเงินถุงเงินถังเยอะขนาดนี้ย่อมหนีไม่พ้นเรื่องผู้หญิง จึงทำให้หวนคิดถึงประโยคเด็ดที่ว่า “ดูผู้ชายให้ดูตอนสบาย ดูผู้หญิงให้ดูตอนลำบาก”
การทำธุรกิจสีเทาอมดำขนาดนี้ในบ้านเมืองที่มีขื่อมีแปย่อมถูกตรวจสอบจากหน่วยงานของภาครัฐเป็นธรรมดา ตัวอย่างก็มีให้เห็นอยู่ถมไปอย่างตาลุงบางคนที่ตั้งหน่วยงานรัฐขึ้นมาเองเพื่อตรวจสอบตัวเองซะงั้น ทำแบบนี้มันจะไปจับมือใครดมได้คนผิดก็ลอยนวลไปตามระเบียบ ก็เล่นเขียนกฏหมายเอื้อให้พวกพ้องตัวเองซะขนาดนั้น “คุกมีเอาไว้ขังคนจน” ก็คงจะเป็นเรื่องจริงอยู่ไม่น้อย แต่สำหรับประเทศที่เจริญแล้วเจ้าหน้าที่รัฐก็คงปฏิบัติตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด อย่างในเรื่องการติดสินบนเจ้าพนักงานก็เห็นจะเป็นไปได้ยากอยู่
เป็นธรรมดาของสัจธรรม “หยิน-หยาง” ที่ชีวิตเมื่อไต่ขึ้นไปถึงจุดที่สูงแล้วนั้น หากไม่เตรียมการรับแรงกระแทกขาลงย่อมจะเจ็บหนักอยู่ไม่น้อย อย่างผู้มีอำนาจบางคนที่มัวแต่ยึดมั่นยึดติดอยู่ในอำนาจทั้งที่บริหารไม่เป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง ถ้าหากมีสติรู้ตัวสักเล็กน้อยก็ควรจะตระหนักได้ว่าจุดใดคือจุดสูงสุดของตัวเอง ชีวิตคนเรามันไม่ยืนยาวเท่าโลกหรอก ควรจะปล่อยให้ผู้เล่นหน้าใหม่ได้มีโอกาสลงสนาม เพราะถ้ามัวแต่หลงระเริงใน “ความโลภ” ปล่อยให้เวลาล่วงเลยผ่านไปกว่าจะรู้ตัวอีกทีเครื่องคงได้ลอยข้ามจุดที่ควร landing ไปไกลแล้ว
และแล้วเมื่อเวลามาถึงทุกคนย่อมสมควรได้รับบทลงโทษจากการกระทำที่ทำลงไป “โลภมากนั้นลาภหาย” คงเป็นสุภาษิตที่คอยเอาไว้เตือนใจได้อยู่ไม่น้อย ถ้าลาภที่หายนั้นเป็นแค่ทรัพสินย์ก็พอจะหาใหม่ได้ แต่ถ้าสิ่งที่หายไปเป็นคนรักเรื่องนี้ก็เป็นสิ่งที่ยากจะทำใจไม่น้อย
อย่าให้เวลาที่ผ่านไปแต่ละวันจมติดอยู่กับอุปสงค์จอมปลอมที่ล่องลอยอยู่ในอากาศเต็มไปหมด หากแต่จงทำความเข้าใจอุปสงค์อุปทานเหล่านั้น แล้วจะทำให้เราเข้าใจแก่นแท้ความต้องการของมนุษย์อย่างเช่นประโยคคลาสสิคในหนังที่ว่า “Sell me this pen”
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย