8 ก.พ. 2021 เวลา 10:15 • ข่าว
ผมถูกกล่าวหาว่า ค้ายาบ้า
ระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต
แซ้ง แซ่เถา ชาวเขาเผ่าม้ง บนดอยภูทับเบิก เพชรบูรณ์ ต้องตกที่นั่งลำบาก เมื่อชีวิตที่แสนธรรมดา ต้องกลายเป็นผู้ต้องหา และถูกจองจำ
“ตำรวจหาว่าผม ค้ายาบ้า เพราะผมแซ้ง แซ่เถา มีชื่อเหมือนกับผู้ต้องหาในหมายจับ”
1.จุดเริ่มต้นชีวิตในเรือนจำ
จุดเริ่มต้นของเรื่องราว
เช้าของวันที่ 24 สิงหาคม 2548
ภรรยา แซ้ง แซ่เถาเล่าเหตุการณ์ในวันจับกุมว่า ตำรวจนอกเครื่องแบบนับสิบนาย พร้อมอาวุธครบมือ ได้มาล้อมบ้านและเข้าจู่โจมจับสามีถึงห้องนอน โดยตำรวจบอกเพียงว่า แซ้ง แซ่เถา คือ คนที่มีชื่อและนามสกุลตรงกับคนร้ายในหมายจับ
การนำกำลังเข้าจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนั้น
เกิดขึ้นท่ามกลางความคลางแคลงใจของเพื่อนบ้านที่พบเห็นเหตุการณ์
“เห็นเจ้าหน้าที่ใส่ชุดนอกเครื่องแบบมากันเยอะแยะเลย มีอยู่ฝั่งข้างบ้านอีก 2-3 คน
เห็น 3-4 คน อยู่ข้างหน้า ผมยืนตรงประตูเห็นตำรวจขึ้นไปจับแกใส่กุญแจมือ” เพื่อนบ้านของเซ้ง แซ่เถากล่าว
ญาติของแซ้ง แซ่เถา ถามตำรวจว่ามาจับคดีอะไร หลานมันไม่มีความผิด ตำรวจบอกเพียงว่าว่า ไม่รู้แต่ถ้าอยากรู้ให้ตามไปที่โรงพักเอาเอง
ตำรวจปักใจเชื่อ
ว่าทั้งประเทศมีคนชื่อ แซ้ง แซ่เถา เพียงคนเดียว
และเซ้ง ชาวม้งคนนี้ คือ ผู้ร้ายค้ายาบ้าตามหมายจับที่ออกมาเมื่อปี 2540
แม้แซ้ง แซ่เถา จะปฏิเสธข้อกล่าวหา และเพื่อนในหมู่บ้านทับเบิกจะช่วยยืนยันใน
ความบริสุทธิ์แต่เสียงคัดค้านของชาวบ้านตัวเล็กๆ ก็เบาเกินกว่า ที่ตำรวจผู้มีอำนาจบังคับใช้กฎหมายจะได้ยินและรับฟัง
2.ข้อกล่าวหา สู่กรงขัง
เซ้ง แซ่เถา ตกเป็นนักโทษทันที
ในข้อหาร่วมกันค้ายาบ้า 22,000 เม็ด มีโทษสูงสุดคือประหารชีวิต
ตามหมายจับคดีอาญาที่ 147 / 2540 ซึ่งเป็นคดีที่เกิดตั้งแต่ปี 2540
หมายจับแซ้ง คดีอาญาที่ 147 / 2540
3.เหตุการณ์…ที่มาของหมายจับ
ย้อนกลับไปเมื่อ 24 ปีก่อน ช่วงค่ำของวันที่ 25 กันยายน 2540
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ด่านห้วยสนามทราย ต.โคกมน อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์
ตรวจค้นรถกระบะต้องสงสัย พบยาบ้าจำนวน 22,000 เม็ด
แต่ไม่ทันที่จะรวบตัวคนร้ายมาลงโทษ คนขับและผู้ที่โดยสารมาด้วย ได้อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไปได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเพียงชื่อของคนร้าย
ไม่มีข้อมูลที่อยู่ตามทะเบียนราษฎร์ ไม่ทราบเลขประจำตัว 13
หลักในบัตรประจำประชาชน ด้วยเจตนาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะจับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษโดยเร็วหมายจับคดีอาญาที่ 147/2540 ก็ได้ออกมา
เพื่อควานหาตัวคนร้ายทันที
หนึ่งในนั้น คือ หมายจับคนร้ายที่ชื่อ แซ้ง แซ่เถา
4.ชะตากรรมของแซ้ง แซ่เถา ในคุก
แซ้ง ถูกจับคดีค้ายาเสพติด อยู่ในคุกนานกว่า 9 เดือน
“2 เดือนแรกผมคิดมากที่สุดนะ ร้องไห้ เพราะไปอยู่ในนั้นเป็นห่วงครอบครัวมากที่สุด ผมคิดมาทำไมเราไม่ผิดเขาถึงจับเรามา มีแต่ร้องไห้” แซ้ง แซ่เถา กล่าว
เคราะห์กรรม ไม่เพียงแต่ตกอยู่กับแซ้ง ที่ถูกจองจำให้ไร้ซึ่งอิสรภาพ
ลูกและเมียที่อยู่ข้างนอก กว่าจะผ่านคืนวันอันโหดร้าย ในวันที่ไร้หัวหน้าครอบครัวผู้เป็นเสาหลัก ทุกอย่างผ่านไปอย่างเชื่องชาและเจ็บปวด
ซ้ำร้ายพืชไร่ ที่แซ้ง และภรรยาช่วยกันลงทุนลงแรง เพื่อหวังผลผลิตเลี้ยงปากท้องครอบครัว ก็ไม่มีคนช่วยดูแล จนถูกไฟป่าเผาจนเสียหาย
ภรรยาของแซ้ง ต้องอยู่อย่างลำบากในวันที่สามีติดคุก
“สามีถูกจับในคุก ตัวเองกับลูกอยู่กัน 3 คน ลูกก็ยังเล็ก พืชไร่ ก็ถูกไฟไหม้หมดเลย ลำบากมาก ไม่มีแม้ข้าวจะกิน” ภรรยาของแซ้ง แซ่เถา เล่าทั้งน้ำตา
จากวันเป็นเดือน จากเดือนคล้อยไปแรมปี ชีวิตครอบครัวแทบพังสลาย
หนี้สินเริ่มเพิ่มพูน แต่ด้วยเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของสามี แม้จะต้องดิ้นรนแบกหน้าไปกู้หนี้ยืมสินหลายแสนบาท มาสู้คดี…เธอก็ไม่เคยท้อ
ที่จะหาความยุติธรรมให้กับสามี
5.พิสูจน์ความจริง-ความเท็จ
การมาถึงของทนายนรินทร์ ศักดิ์เจริญชัยกุลจึงเป็นจุดเริ่มต้น ในการค้นหาความจริง
และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้กับ แซ้ง แซ่เถา
สิ่งแรกที่ทนายพบ จากการลงพื้นที่หมู่บ้านและตรวจสอบฐานทะเบียนบ้าน
จากอำเภอคือ คนที่ชื่อ แซ้ง แซ่เถา ไม่ได้มีคนเดียวในประเทศไทย
“ข้อมูลของนายแซ้ง ตอนนั้นมี 5-6 คนที่มีชื่อนี้อยู่ในฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ตามข้อมูลที่เขาได้มาคือเป็นคนที่นี่ แต่ที่ทับเบิกก็มีนายแซ้ง 3 คนแต่เขาเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสุกลไปแล้ว” ทนายนรินทร์ ศักดิ์เจริญชัยกุล กล่าว
ข้อมูลสำคัญจากชาวบ้าน คือ วันเกิดเหตุที่ตำรวจจับคนร้ายค้ายาบ้า
ตามหมายจับ ปี 2540
แซ้ง แซ่เถาอยู่ในหมู่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหน
ปากคำให้การของชาวบ้าน ยืนยันหนักแน่นว่าวันที่25 กันยายน 2540
แซ้ง แซ่เถา ไม่ได้ไปขนยาบ้า ตามที่ตำรวจอ้าง แต่วันนั้นเซ้งอยู่ในงานศพ ของคนในหมู่บ้านที่เสียชีวิต
มีหลักฐานเป็นใบมรณะบัตรของเพื่อนบ้าน ที่ลงวันที่25 กันยายน 2540
และพยานที่รู้เห็นกันทั้งหมู่บ้าน ที่พร้อมใจกันมายืนยันความบริสุทธิ์ให้กับแซ้ง
แซ่เถา
1
“ตอนที่ตำรวจจับยาบ้าที่น้ำหนาว แซ้ง แซ่เถา คนที่ตำรวจจับไป อยู่งานศพด้วยกันกับพวกเรา จะไปค้ายาบ้าได้ยังไงทุกคนในหมู่บ้านเป็นพยานได้ แต่ตำรวจไม่เชื่อ ไม่เคยฟังเรา”
ชาวบ้านหนึ่งในประจักษ์พยานสำคัญยืนยัน
6.ความจริงปรากฎ แซ้ง คือ แพะรับบาป
หลังการถูกจองจำในคุกนาน 9 เดือน 27 วัน
ในที่สุด ความจริงก็เปิดเผย
แซ้ง แซ่เถา ตกเป็นแพะรับบาป เพียงเพราะมีชื่อเหมือนคนร้าย
“ ตำรวจจับแพะ ”
และแซ้ง แซ่เถา ชาวม้งในหมู่บ้านทับเบิกคือ
ผู้รับกรรม เป็นแพะ...ชื่อเหมือน
22 มิถุนายน 2549 ศาลมีคำสั่งให้ปล่อยตัว เซ้ง แซ่เถา ให้เป็นอิสระ
9 เดือน 27 วัน ที่ต้องติดคุก ทั้งที่ไม่มีความผิด
สิ่งที่ได้รับกลับมา จากความผิดพลาดของกระบวนการยุติธรรม คือ หนี้ก้อนโตกว่า 4 แสน 5 หมื่นบาท และความเจ็บปวดทางจิตใจที่ประเมินเป็นมูลค่าไม่ได้
ไม่มีความช่วยเหลือใดๆ จากหน่วยงานหรือบุคคล
ที่ทำให้แซ้ง แซ่เถา ต้องตกเป็นแพะ
ไม่มี…แม้แต่คำขอโทษ จากคนในกระบวนการยุติธรรมไทย
แม้แต่คนเดียว…จนถึงวันนี้
7.เสียงร้องของแพะ ในวันที่ได้อิสรภาพคืน
“ผมลำบากมาก ผมบอกแฟนว่าผมไม่อยากเป็นคนดีแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจเขาไม่ดีอย่างนี้ ผมไม่อยากเป็นคนดี ชาวบ้านเขาทั้งหมู่บ้านรู้หมดทำไมยังจับผมไป ท้อเลยทำไมคนชั่วๆมันได้ดีแต่คนดีไม่มีดี
เราเสียใจ.... ท้อมาก”
แซ้ง แซ่เถา แพะรับบาปคดีค้ายาเสพติด เพียงเพราะมีชื่อเหมือนคนร้าย
โฆษณา