ทุบโรงแรมดุสิตธานี ปิดตำนานโรงแรม 50 ปี บอกอะไรกับคุณ !!
ทุบโรงแรมดุสิตธานี เกิดอะไรขึ้นเมื่อธุรกิจโรงแรมที่อยู่มานานกว่า 5 ทศวรรษ
ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงจนถึงขั้นต้องทุบตัวโรงแรม จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากถึงการทุบครั้งนี้ แต่ตอนนี้อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญก่อนเจอสภาวะโควิด 19 นั่นเอง
โรมแรมดุสิตธานี ก่อตั้งโดยท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ซึ่งท่านผู้หญิงเข้าใจไลฟ์สไตล์ของกลุ่มชาติตะวันตกเป็นอย่างมาก และริเริ่มพัฒนาโรงแรมระดับ 5 ดาวขึ้นมา
นั่นคือ “โรมแรมดุสิตธานี”
การสร้างโรงแรมดุสิตธานีขึ้นนั้นสามารถอยู่มาจนมีอายุมากกว่า 5 ทศวรรษเลยที
เดียว และถือเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวที่สูงที่สุดในประเทศ และกลายเป็นแลนด์
มาร์คที่สำคัญใจกลางกรุงเทพฯ ณ ตอนนั้น
แต่ในปี 2561 มีข่าวการทุบโรงแรมดุสิตธานีขึ้น สร้างความประหลาดใจให้กับทั้ง
ชาวไทยและต่างชาติเป็นอย่างมาก เพราะอย่างที่หลายคนรู้ ที่นี่คือแลนด์มาร์ค
สำคัญของไทยที่ดำรงอยู่มาได้กว่า 50 ปี
แต่การทุบครั้งนี้ เหตุผลเพื่อการปรับตัวสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อเตรียมขึ้นโครงการใหม่ “ดุสิต เซนทรัล พาร์ค” โครงการมิกซ์ยูส ขนาดใหญ่ มูลค่า 3.67
หมื่นล้านบาท บนพื้นที่กว่า 23 ไร่ ประกอบด้วยโรงแรม สำนักงาน และศูนย์การค้า นั่นเอง
ซึ่งแนวคิดการทุบโรงแรมดุสิตธานีครั้งนี้ เกิดขึ้นก่อนสถานการณ์ COVID-19 อีก
ด้วย หมายความว่า ถ้าโรงแรมยังคงเปิดให้บริการต่อไป ก็ย่อมได้รับผลกระทบจาก COVID จนอาจจะต้องตกอยู่ในสภาวะขาดทุนจนต้องปิดตัวลงเหมือนธุรกิจโรงแรม
ในหลายๆแห่งตอนนี้
กรณีนี้ถือเป็นตัวอย่างการปรับตัวที่ดีทีเดียว สำหรับโรงแรมที่อยู่ในทำเลทอง
ที่สามารถหาทางออกได้โดยการร่วมทุนกับกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา เพื่อระดมทุนมาเปิดโครงการใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม
เรื่องนี้สามารถบอกถึงเรื่องอายุของอสังหาฯ ได้อีกด้วย โดยทั่วไป เพื่อนๆรู้กันไหม
ครับว่า ในกรณีที่อสังหาฯมีอายุมากๆก็มีโอกาสที่จะถูกรื้อถอนไปตามอายุได้เช่นกัน โดยเฉพาะอสังหาฯตึกสูง ดังนั้น ก่อนจะลงทุนลองเอาอายุของตัวตึกมาเป็นส่วน
หนึ่งในการตัดสินใจดูด้วยนะครับ
อาคารคอนโดสมัยนี้มีเทคโนโลยีการสร้างที่ทันสมัย หากมีการตรวจสอบซ่อมบำรุงที่ถูกต้อง โครงสร้างจะต้องอยู่ได้เกิน 50-100 ปีขึ้นไป โดยสามารถแยกตาม
ประเภทได้ ดังนี้
คอนกรีตมีอายุ 50-60 ปี,สีอาคาร 5-8 ปีหรือเมื่อสีภายนอกเริ่มซีดจางก็ควรทาสี
ใหม่,กระเบื้องปูพื้น/แกรนิต 60 ปีขึ้นไป ,เพดาน ยิบซั่มบอร์ด 40 ปีขึ้นไป ,หลังคากระเบื้องคอนกรีต 50-60 ปี, ไม้บันได 45 ปีขึ้นไป ,ถังบำบัด 50 ปีขึ้นไป,สายไฟตามอาคาร 40 ปีขึ้นไป,ไม้เชิงชาย 50, ผนังไม่รวมสี 60 ปีขึ้นไป เป็นต้น
แต่อาคารของโรงแรมดุสิตนั้นเป็นเทคโนโลยีสมัยก่อน ซึ่งการทุบครั้งนี้อาจจะเป็น
การตัดสินใจที่ถูกต้องแล้วก็ได้ เพราะมีการสร้างดุสิต เซนทรัล พาร์คขึ้นแทนที่
เท่ากับว่าเป็นการโละใช้วัสดุใหม่ทั้งตึก แทนการใช้วัสดุเดิมที่อาจเกินอายุของมัน
ไปแล้ว และทุกคนคงพอจะทราบว่าธุรกิจโรงแรมช่วงนี้อยู่ในช่วงขาลงเป็นอย่าง
มาก อสังหาฯแนวสูงได้รับผลกระทบไปเต็มๆ ซึ่งโรงแรมดุสิตธานี ถือเป็นตัวอย่าง
โรงแรมที่สามารถตัดสินใจได้ก่อนนั่นเอง
กรณีนี้เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจเป็นอย่างมากของธุรกิจโรงแรมที่กำลังจะเอาตัวรอด
แต่ต้องแลกมาด้วยงบประมาณที่สูง ซึ่งถ้าไม่ได้มีทำเลที่ดีจริง รวมถึงการบริหารงานระดับนี้ คงยากทีจะสามารถทำได้เช่นกัน
โครงการมิกซ์ยูสที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้น เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่อลังการมาก และคงจะดึง
ดูดผู้คนในอนาคตได้เป็นอย่างมาก และยิ่งใหญ่กว่าเก่าแน่นอน
สรุป
1 การดำเนินธุรกิจใดๆ ย่อมต้องคอยปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ และมีแนวคิดใหม่ๆเพื่อ
ก้าวให้ทันกับสถานการณ์ที่เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ
2 การเลือกผู้ร่วมทุนหรือ Partner ที่เหมาะสม จะยิ่งสนับสนุนให้ธุรกิจก้าวหน้าไปได้เร็วขึ้น
3 ส่วนประกอบต่างๆในโครงการล้วนมีอายุของมัน ดังนั้น การมองวัสดุที่อยู่ในตัว
อาคารประกอบด้วย นับเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ธุรกิจโรงแรมยังมีทางรอด อยู่ที่คุณจะอ่านเกมส์ขาดขนาดไหน และการทุบตึกของ
โรงแรมดุสิตธานีครั้งนี้ จะเป็นการสร้างความสำเร็จครั้งใหม่ให้เกิดขึ้นหรือไม่ต้อง
ลองติดตามชมกันนะครับ
ขอบคุณที่รับชมครับ
ติดตามข่าวสาร และ เทคนิคอสังหาได้ที่
Properth - Property Expert
หากคุณรักอสังหาเราคือเพื่อนกัน
แอด wattanai.m
- 43
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
