9 ก.พ. 2021 เวลา 13:54 • ท่องเที่ยว
แบกเป้เที่ยว UK ตอนที่1 Land's End , Penzance แดนใต้ สายลมและเกลียวคลื่น
ที่มา https://www.jack-wolfskin.de/trekking/?eVar50=intern.home.DE.20CW44-ImageGrid-Activities-all-Winter&eVar51=2
ฅ.คนเล่าเรื่องจะมาแชร์ประสบการณ์เดินทางในต่างประเทศที่ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสไปอีกหรือเปล่า เพราะฅ.คนเล่าเรื่องไปเรียนภาษาและใช้ชีวิตเกือบ 5 เดือนที่ สหราชอาณาจักร ในเมืองที่ชื่อว่า บริสตอล Bristol ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ในทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอังกฤษ โดย เป็นเมืองที่ประชากรมากที่สุดในอันดับ 6 ของอังกฤษและอันดับ 8 ของสหราชอาณาจักร และเป็นปากแม่น้ำ แอวัน : Avonmouth เมื่อข้ามฝั่งทะเลก็จะเป็นดินแดน เวลล์ นั้นเอง (โปรดติดตามเรื่องเล่าครั้งต่อไป จะมาเจาะลึกชีวิตและที่ท่องเที่ยวทั้งในเมืองและเมืองรอบๆมาให้ท่านผู้อ่านสนุกกับประสบการณ์ไปด้วยกัน)
เมื่อเรากล่าวคอร์วอลล์ (อังกฤษ: Cornwall) หรือ แคร์นอว์ (คอร์นวอลล์: Kernow) เป็นเทศมณฑลแห่งหนึ่งของประเทศอังกฤษภายในสหราชอาณาจักร ตั้งอยู่ทางปลายแหลมด้านตะวันตกเฉียงใต้ของสหราชอาณาจักร ทางด้านเหนือและด้านตะวันตกจรดทะเลเคลติก ทางด้านใต้จรดช่องแคบอังกฤษ ด้านตะวันออกติดกับเทศมณฑลเดวอนโดยมีแม่น้ำเทมาร์เป็นเส้นแบ่งเขต
แผนที่ Cornwall ที่มา https://www.visitcornwall.com/maps-places-cornwall-0
การเดินทางเริ่มจากการนั่งรถไฟ จาก Bristol จนไปถึง เมือง Plymouth และเปลี่ยนขบวนเพื่อไปยัง เมือง Penzance ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ในกลุ่มของ Cornwall ฅ.คนเล่าเรื่องได้ทำการจองที่พักที่นี้ เป็น Youth Hostel หรือจะเรียกสั้นๆว่า YHA
เมือง Penzance ที่มา https://www.visitcornwall.com/accommodation/inns-pubs/west-cornwall/penzance/ship-inn
เมื่อมาถึงสถานีรถไฟ ของเมือง Penzance สิ่งที่เราต้องไปคือการ ไปหาที่พักที่เราจ้องไว้ คือ YHA Penzance และเราก็ต้องเริ่มใช้ทักษะการถามทางจากชาวบ้านเพื่อต่อรถประจำหมู่บ้านไปที่พักของเรา ในตอนนั้นเป็นเวลาเช้าตรู่ จึงไม่ลำบากนักที่จะถามหารถประจำทาง และสิ่งที่เราไม่ได้คาดคิดไว้ คือรถประจำทางนั้นนานๆถึงจะมา เราก็ต้องรอหรือกะเวลากลับมารอที่จุดรอรถประจำทางนี้ แต่ด้วยความที่เคยมีประสบการณ์เป็นแบ็คแพ็ค มาก่อน จึงเตรียมผลไม้และขนมปังและน้ำดื่มจาก Bristol มาพอสมควร สิ่งที่เห็นคือรถประจำทางขนาดจิ๋ว หรือ มินิบัส นั้นเอง เมื่อได้ขึ้นรถ ก็สนุกสนานกับบรรยากาศสองข้างทางชนบท เมื่อมาถึงที่พัก เจ้ารถมินิบัสนั้นก็จอดที่จอดข้างที่พักเลย และเราจำได้มีเพียงผู้โดยสารไม่กี่คนและเราก็เป็นคนสุดท้ายที่ลงรถนั้น
ด้วยนิสัยคนไทยช่างพูดมีอัธยาศัยจึงถามพี่ที่ขับรถเลยว่าถ้าจะไป Land's End จุดใต้สุดของแหลมอังกฤษ ตามที่เราเคยหาข้อมูลไว้ และ The Minack Theatre สองจุดที่เราต้องไปให้ได้ คำตอบที่ประหลาดใจคือรถคันนี้แหละที่จะพาเราไปจุดหมาย และพี่ก็บอกเวลาว่าออกเช้านะครับ ( เสียด้ายภาพที่ฅ.คนเล่าเรื่องเก็บไว้ในคอมตัวเก่า และน่าเสียด้ายภาพเหล่านั้นไม่สามารถเปิดได้เพราะคอมตัวนั้นเสียจนเกินจะเยี่ยวยา อ้อขอบอกก่อน ว่าเหตุการณ์มันหลายปีผ่านมานานมากน่าจะสิบกว่าปี ข้อมูลบางอย่างอาจเปลี่ยนแปลงไปตามเวลาได้)
1
YHA Penzance Castle Horneck, Penzance, Cornwall, TR20 8TF ที่มา www.yha.orh.uk
YHA Penzance เป็นอาคารสองชั้นบรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ล้อมรอบที่พัก บรรยากาศที่พักก็เป็นเตียงสองชั้นดูสะอาดและโปร่งสว่าง เมื่อเช็คอิน ก็ขอนอนพักเพราะเพลียจากการนั่งรถไฟตลอดคืน ตื่นมาตอนเย็นก้ไปนั่งคุยเล่นกับผู้ดูแล อย่างสนุกสนาน เขาพาเราไปที่แผนที่เมืองในห้องนั่งเล่น สิ่งที่แสนจะภูมิใจคือเขาบอกว่านี้น่าจะเป็นธงชาติไทยแรกที่มาปักที่แผนที่นี้เลย เพราะไม่เห็นเช่นนั้นเหมือนกัน ความคิดนอกกรอบของเราคงมีน้อยคนที่จะเข้าใจ และมีอีกสิ่งที่จะบอกว่าการเดินทางครั้งนี้มาจาก การคิดอย่างกะทันหันและการวางแผนที่อันแสนสั้น
1
สภาพห้องนอนของ YHA Penzance ที่มา www.yha.org.uk
ในแผนเที่ยวแบกเป้ครั้งนี้ คือการเอาเงินก้อนสุดท้ายที่ได้จากการทำงาน part time ในร้านอาหารไทย เพื่อที่จะต้องไปจ่ายค่าเช่าห้องพัก แต่เนื่องด้วยเป็นอาทิตย์สุดท้ายจึงมีความคิดว่าเราจะมีโอกาสกลับมาอีกหรือไม่ ก็ไม่รู้จึงขอเลิกเช่ากับเจ้าของบ้านแล้วเอาของใช้บางส่วนไปฝากไว้กับเพื่อนคนไทยก่อนบินกลับไทย แล้วใช้เวลาเกือบอาทิตย์ในการท่องเที่ยว เหนือ ใต้ ของ UK เท่าที่จะทำได้ในตอนนั้น
กลับมาเรื่องที่น่าจดจำระหว่างการเดินทางของฅ.คนเล่าเรื่อง ในเช้าตรู่เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จก็เก็บของเพราะเราพักที่นี้แค่คืนเดียวและวันต่อไปยังไม่รู้จะไปพักไหน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นข้างหน้า และแล้วเราได้ขึ้นรถมินิบัสเป็นคนแรก แต่สิ่งที่ทำให้ประหลาดใจคือรถคันนี้เป็น เหมือน รถโรงเรียน ของเด็กเล็กๆที่ไปโรงเรียนของหมู่บ้าน มันช่างเป็นบรรยากาศชนบทที่น่ารักและอบอุ่น พ่อแม่ หรือ คุณตา คุณยาย ต่างมายืนรอส่งลูกหลานของตัวเองขึ้นรถพร้อมจ่ายเงิน ทักทายพนักงานขับรถอย่างเป็นกันเอง ในข้อความที่คล้ายๆกัน คือ ฝาก......ด้วยนะ
เด็กน้อยน่าจะราวๆ อนุบาลหรือ ป.1-2 ก็ไม่แน่ใจ ต่างแบกกระเป๋าและกล่องข้าวตัวเองและกระติกน้ำส่วนตัวมาทุกคน ทุกสายตาเริ่มจับตามองคนหัวดำ แปลกตาสะพายเป้ไม่ต่างจากเขาเหล่านั้นแต่กลับตัวใหญ่ และไม่แน่ใจว่าจะพูดภาษาของเขาได้หรือไม่ เมื่อเราเริ่มทักทายเขาเหล่านั้นยิ้มและหัวเหราะสนุกสนาน เราก็สุนกไปกับเขาเช่นกัน เราคุยกันนิดหน่อยเพราะเขาเหล่านั้นดูจะเขินอายเราคนผิวเหลืองๆหัวดำๆ ( คนเอเชีย ฝรั่งเขาบอกว่าเราผิวสีเหลือง และผมดำสวยมาก)
1
เมื่อส่งเด็กๆถึงโรงเรียน ก็เหลือเพียงเราคนเดียวตามเคยและนั่งสูดอากาศอันสดชื่นตลอดทางจนในที่สุดก็ถึง Land's End สถานที่ที่เราตั้งเป้าไว้
จุดชมวิวของ Land's End ที่มา https://www.visitcornwall.com/things-to-do/attractions/west-cornwall/lands-end/lands-end-landmark
จุดชมวิวของ Land's End ที่มา https://www.visitcornwall.com/things-to-do/attractions/west-cornwall/lands-end/lands-end-landmark
Land's End ที่มา https://www.visitcornwall.com/things-to-do/attractions/west-cornwall/lands-end/lands-end-landmark
จุดชมวิวที่นี้ลมแรงมาก ตัวเราเกือบจะปลิ้วไปตามแรงลม เสียงเกลียวคลื่นกระทบหน้าผาเป็นละอองฟองกระจายดังเสียงทักทายผู้มาเยี่ยมชม
และเวลาอันน้อยนิดและรถประจำทางที่มีอย่างจำกัดเราต้องตรงเวลาและไปยืนรอเพื่อจะไปที่เที่ยวอีกทีที่เราค้นหาไว้จากเน็ต คือ The Minack Theartre ที่ฅ.คนเล่าเรื่องได้แชร์จากเพจของฅ.คนนอกกรอบ ที่ได้บอกเรื่องราวของหญิง ที่ชื่อว่า Rowena Cade
The Minack Theatre ที่มา https://www.visitcornwall.com/things-to-do/arts-and-heritage/west-cornwall/lands-end/minack-theatre?term=minac
ฅ.คนเล่าเรื่อง ได้เดินรอบๆและนี่งจินตนาการว่าถ้ามีการแสดงคงจะได้บรรยากาศที่รื่นร่มเสียเหลือเกินแต่ในตอนนั้น มีเพียงสายลมแสงแดด และลมหนาวที่มากระทบตัวตลอดเวลา การแสดงที่เราเห็นนั้นไม่ใช่ละครเวที แต่เป็น นักโต้คลื่น ที่มาเล่น wind surf แถวชายหาดใกล้ๆโรงละคร เปรียบดังฉากหนึ่งในภาพยนต์ที่เรานั่งที่โรงกลางแจ้ง เนื่องด้วยเราต้องรีบไปหาที่พักใหม่ และมีแผนที่จะเที่ยวอีกที่คือ St.Michael's Mount ที่ห่างจากตัวเมือง Penzance เล็กน้อย
จึงมารอรถประจำทางที่จะเข้าเมือง แต่เมื่อไปดูรอบเวลาแล้วรถพึ่งออกไป และต้องรออีกสองชั่วโมงกว่ารถเที่ยวต่อไปจะมา ด้วยความสนุกหรือพลังอะไรไม่รู้ ไม่นั่งรอ แต่ออกเดินมุ่งหน้าเข้าเมืองและหวังว่าจะโบกรถกลับเข้าเมืองเพิ่มความท้าท้ายให้อีกในทริปนี้ ตัดสินใจเดินมาพร้อมกับเป้ที่มีสำภาระของกินที่เตรียมยามฉุกเฉิน และแล้วเมื่อเดินได้สักพัก พยายามโบกรถก็ไม่มีรถยนต์จอดรับ และมีรถน้อยคันเหลือเกินที่ขับผ่านมา จนในที่สุดนั่งลงเอากระดาษและปากมาเขียน ว่า " pick me up to Penzance Please ! มาแปะเป้พร้อมกับเดินอย่างมีความหวังต่อไป และแล้วปาฏิหารก็เกิดขึ้นหลังจากที่เดินมาเป็นระยะทาง 6 ไมล์ ( เรื่องขำๆ คือ เราฉินว่าประเทศไทย ใช่หน่วยหลักหินระยะทางเป็นกม. แต่ที่อังกฤษเขาใช้เป็นไมล์จ้า นั้นหมายความว่าเราเดินมาเกือบ 6x1.5 กมนั้นเอง) บ่าที่เริ่มอ่านล้าและเท้าที่เริ่มเจ็บ พอนึกได้ก็ทำให้ราแถบจะทรุดตัวลงนั่ง แล้วสิ่งที่เป็นปาฏิหารนั้นคือ มีรถตู้ที่มาหยุดข้างๆเราแล้วมีเสียงชายหนุ่มทักทายว่า"คุณกำลังจะเข้าเมืองเหรอ" เสียงสวรรค์มาแล้ว เรารีบตอบรับทันที เขาเปิดประตู้หน้าเชิญเราขึ้นรถตู้ ที่เป็นรถรับซ่อมอะไรสักอย่างจำไม่ค่อยได้แล้ว
1
โบกรถเที่ยว ที่มา http://www.traave.com
เมื่อได้ขึ้นรถเราสองคนก็เริ่มสนทนาอย่ามีอรรถรส เมื่อเขาทราบว่าเราเป็นคนไทย และสิ่งที่จำได้คือเขาชอบดำน้ำและไปมาหลายประเทศ ทั้งออสเตรเลี่ย และประเทศไทย และความชอบของเราก็สนใจเรื่องดำน้ำเพราะเป็นความใฝ่ฝันที่จะเรียนดำน้ำลึกมาตั้งแต่เรียนป.ตรี ความใจดีและไมรตรของชายหนุ่มนั้นยังพามาที่ท่าเรื่อที่จะข้ามไปเกาะ St.Michael Mount ทั้งที่เขาไม่ได้ผ่านจุดนั้นและแนะนำทางอย่างดีว่าต้องไปตรงไหนอย่างไร แต่ด้วยเวลาที่เย็นแล้วจึงหมดเวลาเข้าปราสาทแล้ว จึงตัดสินใจไม่ข้ามไปและใช้เวลาในการเตรียมตัวเดินทางต่อไปในเมือง Plymouth เพื่อหาYHA ที่นั้น
ตอนนี้ขอจบก่อนและฝากติดตาม ตอนต่อไปด้วยนะ......
1
ปล. ขอแนบรูป St.Michael's Mount มา ด้วยเพื่อท่านผู้จะสนใจไป
St.Michael's Mount ที่มา https://www.visitcornwall.com/things-to-do/attractions/west-cornwall/marazion/st-michaels-mount?term=st%27michael
โฆษณา