9 ก.พ. 2021 เวลา 15:30 • ธุรกิจ
เด็กเวียดมองไทยว่าอย่างไร?
4
Source: gonexp.com
ในประเทศเวียดนามจะพบเห็นนักธุรกิจรุ่นเยาว์ ที่รวมตัวกันขึ้นมาหลวมๆ เขาเรียกตัวเองว่า CEO Club มาประชุมพูดคุยสนทนากันตามร้านกาแฟในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ เดือนละ 1-2 ครั้ง ยังมีการจัดสัมนาย่อยๆโดยเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นเรื่องของเทคนิคการทำการตลาดออนไลน์
1
CEO Club กลุ่มนี้ได้เชื่อมโยงกับกลุ่มเครือข่ายธุรกิจออนไลน์ขนาดใหญ่ ที่มีเป้าหมายในการทำธุรกิจข้ามชาติมากกว่าทำธุรกิจในประเทศ กลุ่มนี้ทำการเริ่มต้นธุรกิจในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายต่อไปที่ประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซียและฟิลลิปปินส์ ทั้งหมดเป็นประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่กลุ่มนี้ไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้เขามีเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจนี้ไปยังตะวันออกกลางและภูมิภาคอื่นๆ เช่น สหรัฐอเมริกา
5
Source: english.doanthanhnien.vn
CEO Club กลุ่มนี้มีช่วงอายุอยู่ระหว่าง 20-30 กลางๆ ท่าทางดูซื่อๆ แต่งตัวธรรมดา ขับรถจักรยานยนต์แล้วแบกเป้ ที่เห็นเป็นปกติได้ทั่วไป มีการพกโทรศัพท์มือถืออย่างน้อย 2 เครื่อง และจะพบได้ในเกือบทุกงานสัมนา บางงานสัมนารองรับเฉพาะบริษัทที่มีงบโฆษณาเฟสบุ๊คเกินเดือนละ 500,000 บาท หรือบางสัมนารับเฉพาะบริษัทที่มีรายได้เกินเดือนละ 10 ล้านบาทเท่านั้น แต่ก็พบว่ายังมีมีผู้เข้าร่วมสัมนาเป็นหลักร้อยคนเลยทีเดียว
4
นอกจากงานสัมมนาจะเป็นการอบรมแบ่งปันข้อมูลใหม่ๆแล้ว ในงานยังมี Young CEO Group ที่เป็นคนรุ่นใหม่ๆมาขึ้นเวทีเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ทั้งทั้งที่เป็นประสบการณ์ที่ประสบความสำเร็จและไม่ประสบความสำเร็จ
2
แต่มีเนื้อหาที่ฟังแล้วน่าตกใจก็คือ คนกลุ่มนี้เขาพูดกันถึงการทำธุรกิจขายออนไลน์ในไทยด้วย โดยสรุปแนวทางในการทำธุรกิจได้ดังนี้
1
1. หาตัวแทนจดทะเบียนบริษัทในไทยและเข้าไปถือหุ้นในบริษัท
2
2. จัดหาคลังสินค้าและสำนักงานโดยการเช่าอาคารพาณิชย์ประเทศไทย
1
3. ว่าจ้างพนักงานชาวไทย โดยให้เงินเดือน 15,000-20,000 บาท มีหน้าที่หลักในการนำเสนอขายสินค้าทางออนไลน์ ทำการตอบข้อมูลลูกค้า บรรจุและส่งสินค้ารวมถึงการให้คำปรึกษาลูกค้า รวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องด้วย
4. ให้คนเวียดนามเข้ามาทำการอบรมให้พนักงานในประเทศไทย
1
5. สินค้าที่ขายส่วนมากนำเข้ามาจากประเทศจีน
3
6. ทำการตลาดจากเวียดนามโดยการทำโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มต่าง อาทิ Facebook YouTube Tiktok เป็นต้น
1
7. ทำสื่อการตลาดต่างๆจากเวียดนามแล้วว่าจ้างคนแปลเป็นภาษาไทยหรือจ้างคนไทยทำ
8. ในช่วงแรกๆสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ จะเป็นการทำธุรกิจแบบ Drop ship คือการที่ลูกค้าสั่งสินค้ามาก่อนแล้วจึงจัดหาสินค้าส่งให้ลูกค้า เพราะว่าธรรมชาติของคนไทยรอสินค้าได้นานกว่าคนเวียดนาม ทำให้สร้างโอกาสในการเรียนรู้การทำตลาดก่อนที่จะลงทุนเพิ่มขึ้นได้เป็นอย่างดี
6
Source: Sprout Social
สิ่งที่นักลงทุนวัยเยาว์ชาวเวียดนามได้รับผลตอบแทนก็คือ
- สามารถขายสินค้าได้ในราคาสูงกว่าที่เวียดนามประมาณ 2-3 เท่า (สำหรับสินค้าที่มีคุณภาพดี)
- มีปริมาณการสั่งซื้อ 2,000-3,000 ครั้งต่อวัน (ในช่วง 1-2 เดือนแรก มีคำสั่งซื้อประมาณ 100 ครั้งต่อวัน)
ต้นทุนการดำเนินการและค่าใช้จ่ายต่างๆ มีสัดส่วนดังนี้
1
- ค่าใช้จ่ายกับการโฆษณาเป็นสัดส่วนร้อยละ 35
1
- ต้นทุนสินค้าร้อยละ 20
- มีค่าดำเนินการร้อยละ 10
- ค่าขนส่งร้อยละ 10
- ใช้เงินลงทุนขั้นต่ำประมาณ 4-5 ล้านบาท
 
หากมีกระบวนการในการจัดการระบบการขายสินค้าออนไลน์ที่ดีอาจจะได้กำไรตั้งแต่เดือนแรกด้วยซ้ำ
Source: ecomeye.com
ทำไมต้องเป็นประเทศไทย
- คนไทยนิยมซื้อสินค้าตามกระแสและสินค้าไฮเทค
3
- เรื่องนี้ชัดเจนมากเพราะว่าคนไทยชอบซื้อ
3
- ยอดซื้อของต่อครั้งสูงกว่าเวียดนาม
- ในประเทศไทยต้นทุนการตลาดต่ำกว่าเวียดนามมาก
- คนไทยชอบของดีมีคุณภาพ
- คนไทยไม่ได้รังเกียจหรือต่อต้านสินค้าจากประเทศจีนเหมือนกับประเทศเวียดนาม
2
- คนไทยส่วนมากใจดี ซื่อสัตย์ ซื่อตรง ไว้ใจได้
1
- มีอัตราการคืนสินค้าที่ต่ำมาก ประมาณ 3% ที่ประเทศเวียดนาม มีอัตราการคืนสินค้าอยู่ที่ 30%
3
- คนไทยสามารถรอรับสินค้าได้นาน แม้ว่าจะต้องรอถึง 10-15 วัน แต่ที่ประเทศเวียดนามแค่เพียง 3-4 วันก็ทำการยกเลิกแล้ว
2
- ระบบการขนส่งในประเทศไทยมีประสิทธิภาพสูงกว่าในประเทศเวียดนาม
2
- กฏระเบียบในในการประกอบธุรกิจของประเทศไทยไม่เข้มงวดมากนัก
6
Source: StartUp in Thailand
มาดูกันว่าคนเวียดนามมองคนไทยเป็นอย่างไรกันบ้าง
- คนไทยไม่ชอบทำธุรกิจของตัวเอง ชอบทำงานเป็นพนักงานบริษัทต่างๆ ซึ่งแตกต่างจากคนเวียดนามและคนจีน
8
- คนไทยใจดีหน้าตาดี น่ารัก (อันนี้ยืนยันได้ครับ เพราะ "ยุคใหม่" ก็เคยทำธุรกิจกับคนเวียดนาม)
5
- ทำงานช้า ทำอะไรช้า แต่ขยัน ไม่อู้ ไม่โกง
3
- ขายสินค้าไม่ค่อยเป็นสอนยาก แต่เมื่อทำเป็นแล้วไม่แหกกฎ และทำไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยนิยมเปลี่ยนงาน
5
- คนไทยต่อยอดไม่ค่อยเป็น ส่วนมากจะทำในสิ่งเดิมๆที่คุ้นเคย
12
- คนไทยไม่ค่อยมีความรู้เรื่องเทคโนโลยีและการตลาดออนไลน์
4
เมื่อผ่านไปประมาณ 1 ปี จะพบว่าบริษัทกลุ่มนี้มีกิจการที่ใหญ่โตขึ้นมีตัวตนที่ชัดเจนมากขึ้นในประเทศไทย ผู้ถือหุ้นหลักก็จะมีอายุอยู่ในช่วง 30 ต้นๆ แล้วเขาก็จะทำการซื้ออาคารทั้งหลังในใจกลางกรุงเทพ และให้บริษัทขนส่งให้มาเปิดสำนักงานหรือสาขาในอาคาร มีการจ้างพนักงานคนไทยหลายคนเพื่อรองรับที่จะทำการนำเข้าสินค้าจากเวียดนามมากขึ้นแทนที่สินค้าจากประเทศจีน หลังจากนั้นก็วางแผนเตรียมการขยายธุรกิจออกไปยังประเทศอื่นๆในกลุ่มอาเซียน
https://koueitrading.com/global/kouei-vietnam-trading-co-ltd-ho-chi-minh-head-office/
จากการเติบโตในการทำธุรกิจของCEO วัยเยาว์กลุ่มนี้ ทำให้สามารถดึงดูดนักลงทุนจากเมืองต่างๆมากขึ้นเรื่อยๆกระจายทั่วทั้งประเทศเวียดนาม ด้วยเป้าหมายที่ต้องการให้คนในประเทศเวียดนามมีบริษัทอย่างเช่นเดียวกันกับเขาเป็นหลักพันบริษัทขึ้นไป ทำให้สามารถส่งออกสินค้าจากประเทศเวียดนามออกไปขายทั่วโลกได้ ด้วยมีจุดมุ่งหมายที่อยากเปลี่ยนประเทศเวียดนามจากประเทศที่ยากจน และด้อยพัฒนาในสายตาของไทยและหลายๆประเทศ กลายมาเป็นมาเป็นประเทศแนวหน้าของโลกให้ได้
1
ความฝันอันยิ่งใหญ่นี้ เกิดขึ้นจากการเริ่มต้นจากจุดเล็กๆของพ่อค้าและนักการตลาดออนไลน์ CEO วัยเยาว์กลุ่มนี้ปัจจุบันมีสำนักงานและศูนย์ปฏิบัติการตั้งอยู่ที่ที่เมืองโฮจิมินห์ เป็นเมืองเศรษฐกิจของประเทศตั้งอยู่ทางตอนใต้ มีผู้เข้าร่วมธุรกิจนี้นับพันคนแล้ว
1
Source: VietnamPlus
ในอนาคตของ CEO วัยเยาว์กลุ่มนี้ที่เป็นนักการตลาดที่มีรายได้ขั้นต่ำ 2-3 ล้านบาท/เดือน ในอีก 10 ปีข้างหน้าคนกลุ่มนี้ก็คงออกไปค้าขายทุกประเทศในอาเซียน แล้วเมื่อเขาสะสมประสบการณ์ที่มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อพวกเขาอายุ 50 ปีก็คงมีหลายคนที่กลายมาเป็นผู้บริหารประเทศ เชื่อว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า เวียดนามคงเป็นยุคที่เจริญรุ่งเรืองมั่งคั่งได้ตามอย่างที่พวกเขาวาดหวังไว้
2
เมื่อมองดูเขาก็คงต้องย้อนกลับมาดูตัวเองว่า หนุ่มสาวชาวไทยของเรามีดีอะไรบ้างและวันนี้กำลังนิยมและสนใจอะไรกันอยู่มุมที่เขามองเรานั้นจริงแท้แค่ไหน 20 ปีข้างหน้าต่อจากนี้ไปเมืองไทยจะเป็นไปในทิศทางใด
"ยุคใหม่การตลาดของไทย" เชื่อมั่นมากกว่าประเทศไทยจะเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความมั่นคงมั่งคั่งและเป็นประเทศที่อยู่แล้วมีความสุขอย่างแน่นอน จากพื้นฐานของการปลูกฝังจากบรรพบุรุษของเรา ที่เริ่มส่งแสงประกายชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
3
แล้วคุณล่ะคิดเห็นเป็นอย่างไรกันบ้าง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก:
Innothai Network
คุณกุลาณี
คุณอัจฉรากร
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
1
Instagram: Modernizationmarketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Thailand Modern Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
สำหรับท่านที่สนใจการทำตลาดสุขภาพที่มีการรับรองจากเอกสารทางการแพทย์แล้ว
ติดต่อได้ที่
Facebook Page: โรคเบาหวานเป็นได้ก็หายได้
โฆษณา