10 ก.พ. 2021 เวลา 05:30 • ประวัติศาสตร์
บทความที่แล้วได้พูดถึงเรื่อง ชายที่มี 23 บุคลิกใน 1 คน บิลลี่ มิลลิแกน
1
จากผมได้ไปอ่านมาก็ได้เจอกับ คนที่ มี อาการแบบเดียวกันกับ
บิลลี่ มิลลิแกน (Billy Milligan)
ผมจะมานําเสนอผู้คนที่มีอาการ แบบเดียวกันกับ บิลลี่ มิลลิแกน
เจนี เฮย์นส์ ตัวตนในจินตนาการที่มากมายถึง 2,500 บุคลิก
3
เป็นวิธีปกป้องตัวตนที่แท้จริงจากการถูกทำร้าย
เจนี เฮย์นส์ วัย 49 ปีถูกพ่อแท้ ๆ ผู้ให้กำเนิด ข่มขืน ทรมาน และทำร้ายร่างกายเป็นประจำ ตั้งแต่เธอยังมีอายุได้ไม่กี่ขวบ เจ้าหน้าที่ตำรวจออสเตรเลีย
ถึงกับเอ่ยปากว่า กรณีของเธอถือเป็นคดีล่วงละเมิดทำร้ายเด็กที่โหดร้ายทารุณที่สุดคดีหนึ่งของประเทศ
6
เจนีได้มีโอกาสเข้าให้ปากคำต่อศาลเพื่อดำเนินคดีเอาผิดกับพ่อ แม้ในวันนั้นจะมีเธอขึ้นเบิกความในฐานะผู้เสียหายเพียงคนเดียว แต่ในระหว่างการให้ปากคำกลับมี พยานอีกถึง 6 คนเข้าร่วมให้การด้วย โดยที่ศาลไม่ได้นัดหมายหรือล่วงรู้ถึงพยาน บุคคลเหล่านี้มาก่อน พวกเขาพูดผ่านร่างและเสียงของเจนีซึ่งเปลี่ยนบุคลิกจนกลายเป็นคนละคน
9
เพื่อที่จะแยกตัวตนของเธอออกมา และไม่ต้องรับรู้ความเจ็บปวด
ที่ถูกกระทำอยู่ทุกวี่วัน เจนีจึงสร้างบุคคลในจินตนาการขึ้นมาแทนที่ตัวเองเป็น
จำนวนมากถึง 2,500 คน เพื่อที่จะปกป้องตัวเอง
2
เจนีให้การต่อศาลเรื่องที่พ่อทำร้ายเธอเกือบทุกวันว่า
"พ่อทำอย่างนั้นโดยคิดคำนวณและวางแผนไว้แล้วเป็นอย่างดี เขาจงใจทำและมี
ความสุขรื่นเริงกับทุกนาทีที่ได้ทำลงไป"
1
พ่อของเจนีล้างสมองลูกสาวให้เชื่อว่า เขาสามารถอ่านใจของเธอได้ โดยขู่ว่าจะฆ่าแม่และพี่น้องของเธอเสีย หากเธอบังอาจแม้แต่จะคิดถึงเรื่องที่ตัวเองถูกทำร้าย และไม่ควรจะคิดบอกเรื่องนี้กับใครทั้งสิ้น
1
"แม้แต่โลกส่วนตัวภายในจิตใจของฉันพ่อก็ยังบุกรุกเข้ามา
ฉันไม่เคยรู้สึกปลอดภัยได้เลย แม้กระทั่งในความคิดของตัวเอง" เจนีกล่าว
"ฉันคิดวิเคราะห์ไม่ได้อีกแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ฉันหาบทสรุปไม่ได้"
5
ด้วยความกลัวว่าพ่อจะอ่านความคิดของเธอออก เวลาที่เจนีนึกถึงเรื่องครอบครัวหรือเรื่องที่ถูกทำร้าย เธอจะพยายามกลบเกลื่อนและซ่อนมันไว้ในรูปของการร้องเพลงในใจ หรือนึกถึงเนื้อเพลงยอดนิยม
2
พ่อยังไม่ยอมให้เจนีไปโรงพยาบาลหลังถูกข่มขืนหรือทุบตีอีกด้วย
ทำให้บาดแผลของเธอกลายเป็นอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพ
ตลอดชีวิต
1
การทำร้ายทรมานดำเนินไปอย่างต่อเนื่องจนเจนีมีอายุได้ 11 ปี
ครอบครัวของเธอย้ายถิ่นฐานกลับมาที่สหราชอาณาจักรอีกครั้ง
และพ่อกับแม่ของเธอหย่าร้างกันหลังจากนั้นไม่นานในปี 1984
เจนีเชื่อว่าไม่มีใครรู้ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แม้แต่แม่ของเธอเอง
2
กลยุทธ์เพื่อความอยู่รอด
"ความผิดปกตินี้เป็นเหมือนกลยุทธ์เพื่อความอยู่รอด เป็นปฏิกิริยาตอบสนองที่เด็ก
แยกตัวเองออกจากความรุนแรง ยิ่งเด็กอายุน้อยลงและถูกกระทำทารุณ
มากขึ้นเท่าไหร่ โอกาสที่จะเกิดโรคหลายบุคลิกยิ่งมีสูงขึ้นเท่านั้น"
1
ตลอดช่วงเวลาส่วนใหญ่ในวัยเด็ก เจนีบอกว่าเธอคือ "ซิมโฟนี" เด็กหญิงวัยสี่ขวบ
เจนีบอกว่า บุคคลแรกที่เธอรู้จักในฐานะอีกตัวตนหนึ่งของเธอก็คือ
"ซิมโฟนี" เด็กหญิงอายุ 4 ขวบที่พูดด้วยเสียงแหลมสูงอย่างรวดเร็วแทบลืมหายใจ
"เวลาที่พ่อทำร้ายฉัน จริง ๆ แล้วเขากำลังทำร้ายซิมโฟนี เธอรู้สึกเจ็บปวดในทุกนาทีที่พ่อทำแบบนั้น"
4
"เวลาที่มันเกิดขึ้น ตัวตนอื่น ๆ ของฉันจะเดินออกมาจากด้านหลัง และเบี่ยงเบนความสนใจไปจากตัวฉัน พวกเขาคือเกราะป้องกันไม่ให้พ่อทำร้ายฉันได้"
เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี แม้แต่ "ซิมโฟนี" เองก็เริ่มจะมีตัวตนอื่น ๆ
ของเธอเพิ่มขึ้นมาด้วยกว่าหลายร้อยคน โดยแต่ละคนจะมีบุคลิกต่างกัน
ออกไปเพื่อรองรับสถานการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งโดยเฉพาะ เช่น
"มัสเซิล" วัยรุ่นชายร่างสูงสวมเสื้อแขนสั้นโชว์กล้าม จะปรากฏตัวขึ้น
เพื่อปกป้องเจนีหรือซิมโฟนีอย่างใจเย็นในเวลาที่ถูกทำร้ายรุนแรงเป็นพิเศษ
หรือ "ลินดา" หญิงสาวร่างระหงสวมกระโปรงบานแบบย้อนยุคที่ทั้งเฉลียวฉลาด
และสง่างาม ก็มักจะปรากฏตัวขึ้นบ่อยครั้งเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับโรงเรียนและเพื่อนฝูง
4
ในการให้ปากคำต่อศาลเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
เจนีและตัวตนอื่น ๆ ของเธออีก 6 คนรวมทั้งเด็กหญิงซิมโฟนี
ได้ร่วมกันบอกเล่าแง่มุมต่าง ๆ ของการถูกล่วงละเมิดที่เกิดขึ้น
เมื่อหลายสิบปีก่อน ทำให้พ่อของเจนีถูกตั้งข้อหาเอาผิดรวมทั้งสิ้นถึง 367 ข้อหา
ซึ่งรวมถึงข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี, ล่วงเกินทางเพศ
และบังคับร่วมเพศทางทวารหนัก
2
บ้านที่ผู้เป็นพ่อก่อเหตุทารุณกรรมเจนี ตั้งอยู่ในเมืองกรีนเอเคอร์ ทางตะวันตกของนครซิดนีย์
"ฉันต้องใช้ชีวิตอย่างระแวดระวังตลอดเวลา พยายามเก็บซ่อนบุคลิกอื่น ๆ
ที่มีไม่ให้แสดงออกมา แต่มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะปิดบังตัวตนอื่น ๆ
อีก 2,500 คนภายในตัวฉัน" เจนีกล่าว
2
"แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม ฉันปรารถนาอย่างยิ่งให้เรื่องราวของ
ตัวเองถูกเล่าขานต่อกันไป ฉันต้องการให้ความพยายาม
ดิ้นรนต่อสู้ถึงสิบปีนี้เป็นเหมือนไฟลามทุ่ง เผาทำลายอุปสรรคกีดขวาง
สำหรับคนรุ่นหลังที่ต้องเดินในเส้นทางเดียวกัน"
"หากคุณถูกทำร้ายล่วงละเมิดจนเป็นโรคหลายบุคลิก
คุณสามารถจะได้รับความเป็นธรรมแล้วในทุกวันนี้ จงไปหาตำรวจ
และเล่าเรื่องทั้งหมด พวกเขาจะเชื่อคุณ และความเจ็บป่วยทางใจของคุณจะไม่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการยุติธรรมอีกต่อไป"
1
-ขอขอบคุณเว็บดีๆจาก
โฆษณา