10 ก.พ. 2021 เวลา 02:00 • กีฬา
Rise of timo werner
แฟนๆของทัพสิงบูลน้ำเงินคราม อย่างทีมเชลซี คงจะตื่นตาตื่นใจกันไม่น้อยกับ ดีลสุดหฤโหด กับการใช้เม็ดเงินมหาศาลของเสี่ยหมี เพื่อที่จะทำให้เชลซีกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง หนึ่งในดีที่ทำให้ทุกคนทั้งโลกต้องตะลึงนั่นคือ การคว้าตัวนักเตะที่ฟอร์มสะเด่าที่สุดในเยอรมันคนหนึ่ง อย่าง ติโม แวร์เนอร์ ด้วยค่าตัว 47.5 ล้านปอนด์
และเมื่อเราไปกางสถิติส่วนตัวของเขาดู เราจะพบว่า ตัวเขาลงเล่นในปี 2019/2020 ไปจำนวนทั้งสิ้น 45 เกม ยิง 34 ประตู และทำประตูได้ในลีก ถึง 28 ประตู เป็นรองแค่ โรเบิร์ต เลวานดอฟกี้ เพียงคนเดียวเท่านั้น จากสถิติที่เราพูดๆกัน มันจรึงทำให้แฟนๆของทัพสิงห์ คาดหวังอย่างมากว่าตัวเขา จะเข้ามาเป็นกำลังสำคัญ ให้กับทีม และเป็นจิ๊กซอ ตัวสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์
เปิดฤดูกาลมาได้ไม่นานนัก แวร์เนอร์สามารถทำประตูแรกได้อย่างเป็นทางการ ในการเล่นฟุตบอลถ้วย และใช้เวลาเพียงแค่ สี่นัดในพรีเมียร์ลีก ตัวเขาก็สามารถ พังประตูแรกได้สำเร็จ หลังจากนั้นฟอร์มตัวเขาเองก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ยิงในลีก ไป 4 ลูก ยิงรวมทุกรายการ ไป 11 ลูก
จุดเปลี่ยนที่เกิดขึ้น หลังจากพักเบรก ทีมชาติรอบที่ 2 ของซีซั่น ตัวของแวร์เนอร์ได้เข้าร่วมทัพอินทรีย์เหล็ก อย่างทีมชาติเยอรมัน ซึ่งจะต้องไปเจอกับทีมชาติกระทิงดุ เสปนนั่นเอง จบเกม เสปนถล่มเยอรมัน ไป 6-0
หลังจากกลับมาสู่ลอนดอน ติโมฟอร์มหลุดแบบกู่ไม่กลับ ตัวเขาเสียความมั่นใจและคลำหาบอลไม่เจอ 13 นัดติดต่อกัน โดยหลายครั้งหลายคราที่ตัวเขาเองมีโอกาสอย่างโจ่งแจ้งแต่ กับทำหมูหกลงพื้น ยิงนกตกปลา ไปซะส่วนใหญ่ นายใหญ่แห่งถิ่นสิงห์บูล แฟร้ง แลมพาร์ด ในเวลานั้น เขาอาสาที่จะเรียกความมั่นใจของกองหน้าความเร็วสูงคนนี้ให้กลับมาได้โดยไว นัดหนึ่งใน FA cup เชลซีนำทีมอย่างลูตัน อยู่ 3-1 และทีมสิงได้จุดโทษ ป๋าแลมพ์ไม่รีรอ มอบหน้าที่ให้กับ กองหน้าคนสำคัญของเขานั่นคือ ติโม แวร์นอร์ แน่นอนครับว่า เขาพลาด
ณ ตอนนั้น ทุกคนต่างรู้ดีว่าหายนะกำลังจะมาเยือน ป๋าแลมพ์ และ ติโม แวร์เนอร์ อย่างแน่นอน ฟอร์มของติโมหลุดไปไกลเขา แสดงให้เห็นประหนึ่งมิ่ยากอยู่ในสนามอีกต่อไป อีกทั้งฟอร์มของเชลซีก็กำลังจะจมไปกับเขาด้วย จนเกิดเสียงวิพากษ์ วิจารณ์ มากมาย ว่าเขาคือ ตอเรส 2 รึเปล่า
เสี่ยหมีเจ้าของทีมผู้ใจร้อนไม่รีรอ ที่จะปลด แฟรงก์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีมคนเก่า อีกทั้งยังเป็นตำนานของทีม ออกแบบไร้เยื่อใย และแต่งตั้ง โธมัส ทูเคิล เข้ามาคุมทีมอย่างรวดเร็ว โดยการมาของ ทูเคิลที่เป็นคนเยอรมัน เขาจรึงปฏิญาณตยไว้ว่าจะทำให้ เพชฌฆาตความเร็วแสงคนนี้กับมาเฉิดฉายได้อีกครั้ง อย่าแงแน่นอน
นายใหญ่คนใหม่ค่อยๆสร้างรอยยิ้ม รักษาแผลในใจ และพยายามเค้นฟอร์มของ แวร์เนอร์ออกมาทีละนิดๆ ซึ่งมันก็ใช้เวลาไม่นาน หลังจากโธมัส คุมทีมไปเพียงแค่ 4 นัด ในนัดที่ 4 เชลซีต้องบุกไปเยือน ทีมบ๊วยอย่าง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทูเคิ่ลเลือกที่จะใช้ สามตัวรุก นั่นก็คือ ชิรูด์ เป็นกองหน้าตัวเป้า เมสัน เมาท์ เล่นเป็นเพลย์เมกเกอร์ เยื้องไปทางขวา และ แวร์เนอร์เองถูกจับไปเล่น เป็นเหมือนเบอร์สิบ แต่เล่นเยื้องไปทางซ้ายนิดๆ จบเกม เชลซีเฉือนเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 1-2 คนทำประตูได้แก่ เมสัน เมาท์ และ จอร์ จิญโญ่ โดยที่มาของประตูทั้งสองมาจากชายที่ชื่อว่า ติโม แวร์เนอร์
ติโม สามารถทำ หนึ่งแอสซิส ให้กับเมสัน เมาท์ ตะบันเข้าไปได้ หนึ่งลูก และอีกหนึ่งลูกมาจากการเลี้ยงตะลุยจนได้จุดโทษ และเป็น จอร์ จิญโญ่ ที่เป็นคนสังหารเข้าไปอย่างงดงาม
ติโม แวร์เนอร์ไม่ใช่ ผู้เล่นเบอร์ 9 ธรรมชาติ เขาไม่ใช่พวกนักเตะที่สามารถยิงได้รุนแรงหรือจบสกอร์ได้ในทุกพื้นที่ และตัวเขาเองก็ไม่ใช่กองหน้าเจ้าเวหาแต่อย่างใด แต่จุดเด่นของเขาคือความเร็ว กองหน้ารายนี้สามารถรับมือได้ในทุกตำแหน่งขอแค่เพียงมีพื้นที่ให้เขาได้เล่นกับบอล มีพื้นที่ให้ได้วิ่งตัดไลน์ กองหลัง เขาก็จะอันตรายอย่างมาก ซึ่งแผนของนายใหญ่คนใหม่ ค่อนข้างที่จะเอื้อ แก่ตัวของ ติโม อย่างมาก ถึงแม้ว่ามิชชั่นสำคัญในการทำให้เขากลับมายิงได้ ยังไม่สำเร็จ แต่การที่ได้โชว์ ability ความสามารถ เฉพาะตัว และการคว้า MVP กลับบ้านได้ก็ถือว่าเป็นความสำเร็จที่มากพอแล้ว
ทางส่วนของแฟนเชลซีก็ต้องมาลุ้นกันต่อนะครับว่า โธมัส ทูเคิ่ล จะพาทัพสิงโตน้ำเงินคราม ไปติดท็อปโฟร์ ของลีกได้หรือไม่ แล้ว ติโม แวร์เนอร์ จะสามารถเค้นฟอร์มที่แกร่งที่สุดของตัวเองออกมาได้รึเปล่า ก็มาเอาใจช่วยกันครับ
บทความ By อู๋ FL
โฆษณา