10 ก.พ. 2021 เวลา 03:12 • ถ่ายภาพ
ปกติรูปละเรื่อง แต่วันนี้แถมให้หลายรูปต่อเรื่อง
เนื่องจากไปออกทริปปั่นจักรยานมาเมื่อวันจันทร์ต้นเดือน สัปดาห์หนึ่งเต็ม ๆ ทำให้มีรูปสวย ๆ หลายรูป ครั้นจะปล่อยออกไปทีละรูปก็จะเป็นการยากที่จะหาเรื่องมาเขียนประกอบ เพราะแท้จริงแล้วมันเป็นเรื่องเดียวกัน
จึงอย่ากระนั้นเลย ปล่อยออกไปซะทีเดียวเถอะ
เริ่มจากเย็นวันอาทิตย์สิ้นเดือนมกราคมที่ผ่านมานี้ ผมเอาจักรยานคันโปรดที่เรียกมันว่า "ไอ้พิงกี้" ขึ้นรถทัวร์จากกรุงเทพไปลงน่าน
รถทัวร์ถึงน่านเช้ามืดของวันจันทร์ต้นเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากเอาไอ้พิงกี้ซึ่งถอดแยกส่วนใส่ใต้ท้องรถทัวร์มาลงมาประกอบแล้วก็เข้าไปล้างหน้า แปรงฟัน เปลี่ยนชุดเป็นชุดปั่นจักรยานในห้องน้ำสถานีขนส่ง จากนั้นก็ปั่นไอ้พิงกี้ออกไปในบัดดล
ผมตั้งใจว่าจะไปกินข้าวเช้าที่อำเภอสันติสุขซึ่งอยู่ห่างตัวจังหวัดน่านออกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราวสามสิบกิโลเศษ แล้วค่อยปั่นออกจากอำเภอสันติสุขขึ้นไปทางเหนือบนเส้นทางที่เรียกกันว่าถนนลอยฟ้าอีกราวยี่สิบกิโลเศษ ไปกินข้าวเที่ยงที่บ้านหลักลาย พักเหนื่อยที่นั่นให้นาน ๆ แล้วค่อยปั่นต่อขึ้นไปทางเหนือบนถนนสายเดิมอีกราวสามสิบกิโลเศษ ไปนอนค้างคืนที่อำเภอบ่อเกลือสักคืน
ปรากฏว่าเส้นทางสายน่านสันติสุขไม่หมูอย่างที่คิด เก้าโมงเช้าแล้วผมยังอยู่ห่างสันติสุขอยู่เป็นสิบกิโลอยู่เลย จึงหาอะไรกินข้าง ๆ ทางแถวนั้นไปก่อน กินข้าวเสร็จออกปั่นต่อ ไปถึงสันติสุขเอาเกือบเที่ยง
เมื่อเป็นเช่นนั้น ผมพิจารณาดูแล้วเห็นว่า เวลาที่เหลืออีกเพียงครึ่งวันกับระยะทางที่ยังเหลืออีกราวห้าสิบกิโล อีกทั้งจากนี้จะเป็นเส้นทางขึ้นเขาสูงชัน ยังไงก็ไม่มีทางจะปั่นไปให้ถึงบ่อเกลือก่อนค่ำได้อย่างแน่นวล จึงตัดสินใจเปลี่ยนแผน
คืนนี้ไปนอนหลักลายแทนดีกว่า
หลักลายห่างจากสันติสุขไม่มาก เพราะฉะนั้นไม่ต้องรีบร้อน หาข้าวเที่ยงกินที่สันติสุขแล้วพักให้นาน ๆ หน่อยเถอะ บ่ายแก่่ ๆ ค่อยออก
และก็เป็นไปตามนั้น ผมค่อย ๆ ปั่นบ้างเข็นบ้างไปตามกรรมตามวาระไปจนถึงหลักลายก็ค่ำพอดี แล้วก็หาที่พักค้างที่นั่นคืนหนึ่ง
รุ่งขึ้นเช้าวันอังคาร ยังเหลือระยะทางอีกสามสิบกิโลเศษจะถึงบ่อเกลือและเส้นทางค่อนไปในทางลาดลง ผมจึงปั่นอย่างอ้อยสร้อย ชมทิวทัศน์อันงดงามวิจิตรตระการตาไปเรื่อย และก็ถึงบ่อเกลือก่อนเที่ยง กินข้าวเที่ยงที่บ่อเกลือและปั่นเที่ยวชมเมืองอยู่ครึ่งวัน แล้วก็หาที่พักพักเสียคืนหนึ่ง
เช้าวันพุธ ผมตื่นตั้งแต่ตีห้า มานั่งคิดว่าจะไปไหนต่อดี เปิดกูเกิ้ลแม็พมานั่งดู
อำเภอปัวน่าไป อยู่ไม่ห่างบ่อเกลือมากนัก จากบ่อเกลือสี่สิบกิโลเศษไปทางตะวันตก แต่เริ่มต้นจะต้องปั่นไต่เขาสูงชันราวสิบสามกิโลไปยังจุดชมวิวของอุทยานแห่งชาติดอยภูคาเสียก่อน จากนั้นเส้นทางจึงจะค่อย ๆ ลาดลงจนไปถึงปัว
ผมตัดสินใจไปปัว แต่ก็ไม่อยากปั่นไต่เขาสิบสามกิโลแรก จึงว่าจ้างชาวบ้านให้เอารถกระบะไปส่งที่จุดชมวิว จากนั้นจึงปล่อยให้ไอ้พิงกี้ไหลลงเขาไปตามธรรมชาติ สบายผมไป ฮา
ผมมาถึงปัวเร็วมาก แถมปั่นก็น้อยเพราะปล่อยรถไหลลงเสียเป็นส่วนใหญ่ รู้สึกไม่สาแก่ใจเท่าไร จึงตัดสินใจปั่นออกจากปัวลงทางใต้ไปอีกยี่สิบกิโลเศษ ไปค้างคืนที่อำเภอท่าวังผา
รุ่งขึ้นวันพฤหัสบดี นอนอ้อยสร้อยอยู่ในโรงแรมจนเที่ยงจึงออกจากโรงแรมปั่นลงใต้อีกสี่สิบกิโลเศษแบบชิล ๆ เพราะเป็นทางราบ ไปนอนน่าน
วันศุกร์ ปั่นเที่ยวชมเมืองน่านวันนึงเต็ม ๆ ก่อนจะถอดแยกชิ้นส่วนไอ้พิงกี้ใส่ใต้ท้องรถทัวร์กลับกรุงเทพตอนหัวค่ำของวันนั้น
ผมถึงกรุงเทพเมื่อเช้ามืดของวันเสาร์ เอาไอ้พิงกี้ไปฝากไว้บ้านเพื่อน บ่าย ๆ จึงเดินทางกลับบ้านที่นครศรีธรรมราช เพียงแต่ไม่ได้กลับรวดเดียว ผมนั่งรถตู้มาวันละนิดละหน่อย จากกรุงเทพมาค้างประจวบ แล้วไปค้างชุมพร แล้วก็ไปค้างขนอมอีกที
ใช้เวลาไปถึงสี่วันในการนั่งรถตู้จากกรุงเทพไปนครศรีธรรมราช ฮา
โฆษณา