11 ก.พ. 2021 เวลา 10:19 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
The White Tiger ในหนึ่งรุ่น จะมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
สะท้อนสังคมอินเดียหรือป่าวไม่ทราบได้เพราะไม่ใช่คนอินเดีย จะมองจากมุ่มใครมุมไหน สิ่งที่หนังสะท้อนที่ดีที่สุดน่าจะความเป็นมนุษย์นั่นเอง ส่วนชื่อของหนังถูกนิยามแต่ต้นเรื่องและกระทั้งในหนังตัวอย่างแล้วว่า เสือขาว หมายถึงในหนึ่งรุ่นจะมีเพียงตัวเดียวที่กลายเป็นเสือขาวที่สวยงาม โดดเด่น ไม่เหมือนใคร จะมองแง่มุมสัญลักษณ์ของคนที่สามารถก้าวข้ามวรรณะ หรือประสบความสำเร็จในชีวิต มากกว่าพี่น้องร่วมเผ่าพันธุ์ก็เป็นได้
หนังใช้การเล่าเรื่องราวของตัวเอก พลราม โดยตัว พลราม เองในปัจจุบันผูซึ่งกลายเป็นนักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จ เพื่อกระตุ้นแรงบันดาลใจในการลุกขึ้นสู้ ของเสือขาวผู้ก้าวข้ามวรรณะได้สำเร็จ หนังจึงแสดงถึงความทะเยอทะยาน ความฉลาดเฉลียว นักวางแผน ผู้ไม่ยอมให้โชคชะตามาทำให้เขาต้องสยบยอม แต่ในขณะเดียวกันก็ะสะท้อนภาพของทฤษฏีกรงไก่ที่ตัวพลรามเองเป็นคนเล่าเรื่อง
สังคม หนังพูดถึงสภาพของชนชั้นทางสังคมของอินเดีย ที่เรารู้จักกันอยู่แค่ 4 วรรณะ แต่มันมีแยกย่อยมากกว่านั้น หนังเป็นแนวเสียดสี ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าหลายสิ่งในหนังมันเป็นเพียงภาพสะท้อนในมุมของใครหรือป่าวเกี่ยวกับอินเดีย หรือมันคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเป็นปกติ อันนี้ก็ไม่ทราบได้จึงไม่อยากมุ่งไปจับประเด็นแคบๆ ที่ชัดเจนมาในหนังจนเกิดไป เพราะสรุปรวมแบบเราเข้าใจ ก็คนรวยคนจน กับสังคมที่คนจนด้อยโอกาสที่จะเติบโตหรือขึ้นมาร่ำรวยได้นั่นแหละ
สังคมแบบกรงไก่ ที่ขังคนให้สยบยอมกับกรงที่ได้รับ และอย่าได้ดิ้นรน เพราะสุดท้ายแกก็เป็นได้แค่เพียงอาหารเท่านั่นละ แก่นแกนของเรื่องที่สะท้อนปัญหาเสรีภาพ ที่มันถูกขังโดยกรงแห่งวรรณะทางสังคม กรงไก่ที่ไก่เองใช้ชีวิตโดยไม่รู้เลยว่าโลกภายนอกนั้นเป็นอย่างไร
การเมือง อินเดียที่มีชื่อเสียในการต่อสู้เพื่อเสรีภาพ และประชาธิปไตย ประเทศที่มีบุรุษอย่างมหาตมคานธีนั่นละ หนังกลับสะท้อนการขายฝันและเน่าเฟะของสังคมการเมืองผ่านภาพการคอร์รัปชั่น สังคมคนรวยกับนักการเมืองที่แสวงหาเพียงผลประโยชน์โดยไม่รู้จักพอ
"มัวหากุญแจทำไม ในเมื่อประตูมันเปิดอยู่"
แม้พลรามจะเป็นคนทะเยอทะยาน ฉลาด มุ่งมั่น พยายามหากุญแจที่จะเปิดกรง ก้าวข้ามวรรณะ มุ่งสู่ความสำเร็จและร่ำรวย ทั้งที่กรงมันไม่มีอยู่จริง เขาสามารถออกมาได้ทุกเมื่อที่ต้องการ แต่เมื่อไก่มันอยู่ในกรงนานจนคุ้นเคย แม้เอากรงออกไปแล้วมันก็ไม่กล้าเดินไปไหนกลัวจะชนเข้ากับกรงตลอดเวลา หนังสะท้อนสะท้อนการพยายามต่อสู้ดิ้นรนของพลรามเพื่อตามฝันของเขา แม้ทุกอย่างจะดีขึ้นเรื่อยๆ แต่เขาก็ชนเข้ากับกรงไก่ที่มองไม่เห็นนั้นอยู่ตลอดเวลา เพราะแม้จะพยายามมากเพียงใด พลราม ก็ไม่เคยก้าวออกจากกรงได้สักที
หลายคนดูจบอาจจะมีดราด่าตามกระแสแสดงออกนิยมตามยุคสมัย คือมองว่ามันจบไม่สวยเลย แบบคนไม่ดีทำไมได้ดี ทำไมได้เป็นพระเอก คนทำตามจะว่าไง ควรแสดงความรับผิดชอบดีชั่ว หรือไม่ควรเชิดชูตัวเอกที่ไร้ศีลธรรม ส่วนตัวกลับมองว่าหนังมันสะท้อนความรู้สึกได้ดี และตั้งใจให้ผู้ชมรู้สึกเช่นนั้นแหละ ยิ่งมีคนไม่เห็นด้วยกับตอนจบ ยิ่งสะท้อนความสำเร็จของสิ่งที่หนังพยายามสื่อ คนเรารู้ว่าอะไรดีไม่ดีกันทั้งนั้ แต่ถึงเวลาเราจะเลือกแบบไหนมันก็ตรงนั้นละ ส่วนหนทางแห่งความมั่งคั่งของ พลราม เกิดขึ้นอย่างไร ไปดูต่อในหนังเองนะครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา