12 ก.พ. 2021 เวลา 04:13 • หุ้น & เศรษฐกิจ
[Opinion] TESLA และ BITCOIN สินทรัพย์ที่แบก
ความหวังนักลงทุนไว้ 49 ล้านล้าน
ณ วันนี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า Tesla และ Bitcoin
กลายมาเป็นตัวเลือกการลงทุนที่ร้อนแรงที่สุดในโลก
ปัจจุบัน Tesla มีมูลค่า 24 ล้านล้านบาท
เพิ่มขึ้นคิดเป็น 420% ภายในปีเดียว
หรือหากเราเทียบกับเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
มูลค่าบริษัท Tesla จะปรับตัวขึ้นมามากถึง 2,560%
เช่นเดียวกันกับ Bitcoin
ที่ ณ ตอนนี้ หากเรารวมมูลค่าของ Bitcoin ทั้งโลก
ซึ่งถือเป็น Market Cap ก็จะมีมูลค่าราว 25 ล้านล้านบาท
คิดเป็นการปรับตัวขึ้นมา 343%
หรือหากเราเทียบกับเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
มูลค่าของ Bitcoin ทั้งโลก จะปรับตัวขึ้นมามากถึง 10,300%
บังเอิญเหมือนกันว่า 2 สิ่งนี้กลับมีมูลค่าเกือบจะเท่ากันเลย..
แล้วอะไร ที่ทำให้Bitcoin และ Tesla มีมูลค่า เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา?
คำตอบก็ คือ "อนาคต"
เริ่มจาก Tesla ที่ถือเป็นผู้นำนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเปลี่ยนโลก
ในช่วงแรก Tesla เจอมรสุมอย่างหนัก
ตั้งแต่การส่งมอบที่ทำได้ต่ำกว่าที่คาดการณ์
การขาดทุนต่อเนื่อง จนขาดสภาพคล่องรุนแรงจนเกือบจะล้มละลาย
จนหุ้น Tesla ถูก Short Sell มหาศาล
ส่งผลให้ทางบริษัทไม่สามารถแม้แต่จะเพิ่มทุน จนอีลอน มัสก์
ถึงขนาดต้องออกมาทวีตว่าเขาอาจจะนำ Tesla ออกจากตลาดหุ้น
เพื่อให้พนักงานไม่ต้องไปโฟกัสกับสิ่งที่เกิดขึ้นนอกบริษัท เช่น ราคาหุ้น
แต่ในช่วงปีสองปีมานี้ Tesla ก็ดูเหมือนจะผ่านบททดสอบไปได้หลายด่าน
จนในที่สุด บริษัทกลับมาทำกำไรได้ติดต่อกันถึง 5 ไตรมาส
แถมประกาศกร้าวว่าในปี 2021 นี้ จะส่งมอบรถยนต์อีกเกือบ 8 แสนคัน
คิดเป็นการเติบโตขึ้นอีก 60% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
จากเกือบล้มละลาย
สู่การพิชิตตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ถล่มทลาย
สิ่งที่ตามมาก็คือ "ความคิดของนักลงทุนที่เปลี่ยนไป"
จาก "ไม่เชื่อ" เป็น " เชื่อ"
แถมเป็นการเชื่อที่ดันมูลค่าบริษัท เด้งไปกว่า 25 เท่าใน 5 ปี
ที่อัตราส่วน P/E อยู่ที่ระดับ 1,263 เท่า..
แต่เมื่อการซื้อขายที่ร้อนแรงเกินไป
จนมูลค่าบริษัทที่ส่งมอบรถยนต์ไม่กี่แสนคัน
กลับมีมูลค่าทะลุ Facebook ที่มีผู้ใช้งาน 3,000 ล้านบัญชี
มากกว่า Alibaba เจ้าแห่งอีคอมเมิร์ซในประเทศจีน
มากกว่า TSMC ผู้ผลิตชิปให้กับสมาร์ตโฟนทั่วโลก
และยังมากกว่าทั้ง Berkshire Hathaway, Visa, Walmart และ Disney
1
มันก็เริ่มทำให้กลุ่มนักลงทุน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม
กลุ่มแรก คือ "กลุ่มที่ยังเชื่ออยู่"
ก็จะบอกว่าศิลปะในการลงทุนหุ้นสมัยนี้
ใครมัวแต่มอง P/E ก็จะไม่มีวันได้หุ้นเมกะเทรนด์แห่งอนาคต
ซึ่ง Tesla มีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะเป็นหุ้นเมกะเทรนด์
ที่จะดิสรัปธุรกิจยานยนต์ทั้งวงการ
จากตัวเลขกำลังการผลิต และการส่งมอบที่ผ่านมา
มันจะยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีกในอนาคต
กลุ่มถัดมา คือ "กลุ่มที่บอกว่าราคานี้ไร้สาระไปแล้ว"
แม้ Tesla เป็นผู้บุกเบิก แต่เมื่อเป็นรถยนต์ทรงสี่เหลี่ยมเหมือนกัน
อีกหน่อย ก็จะเกิดการแข่งขันด้วยคอนเซ็ปต์ที่ว่าที่ไหนมีกำไรหอมหวาน
ที่นั่นย่อมมีคู่แข่ง
Apple เพิ่งประกาศลงทุนพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า
Google ก็มี Waymo
Amazon ก็เข้าไปลงทุนในสตาร์ตอัปรถไฟฟ้า
1
ท้ายที่สุดแล้ว ผู้บริโภคก็จะมีสิทธิ์ที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง
ซึ่ง Tesla ก็จะเป็นหนึ่งในตัวเลือก ไม่ได้เป็นผู้ชนะสิบทิศ..
ซึ่งนั่นก็ยังไม่ได้รวมเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ ที่นอกจากจะมีคู่แข่งเป็นบริษัทรถยนต์ด้วยกันเองแล้ว บริษัทเทคโนโลยีก็จะเข้ามาเล่นแบบไม่พลาดแน่นอน
มุมมองของนักลงทุนต่อ Tesla ฉันใด
มุมมองของนักลงทุนต่อ Bitcoin ฉันนั้น
Bitcoin เริ่มต้นจากการถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไรแบบสุดโต่ง
ซึ่งก็น่าจะหนักกว่า Tesla อีก เพราะมันเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีปันผล ไม่มีงบให้อ่าน
ประเมินมูลค่าไม่ได้ มีแค่หลักที่ว่าราคาจะไปต่อได้ "ต้องมีคนซื้อต่อจากเรา"
แต่ในวันนี้ Bitcoin ก็ได้สร้าง Network Effect ได้สำเร็จ และได้รับความเชื่อถือมากขึ้นแล้ว
จากทั้งสถาบันการเงินที่เริ่มออกมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้พร้อมสำหรับ Bitcoin และยังรวมไปถึงเอกชนหลายแห่งที่ได้เริ่มพิจารณาการซื้อบิตคอยน์เข้ามาในบริษัท
หนึ่งในไอเดียที่ผมคิดว่าน่าสนใจ
มาจาก ดร.นิเวศน์ ที่ได้มองว่า Bitcoin
กลายมาเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ต่างอะไรไปจาก "ทองคำดิจิทัล"
ที่สามารถกักเก็บความมั่งคั่งของเงินเราไว้ได้
และ Bitcoin ที่สามารถผลิตออกมาบนโลกได้เพียง 800 เหรียญต่อวัน
แถมมีจำนวนจำกัดที่ 21 ล้านเหรียญ
นั่นจึงทำให้ ยิ่งมีคนเชื่อ ความต้องการมากเท่าไร
มูลค่าของมันก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นไป เท่านั้น
ซึ่งอีกหน่อยมันก็อาจจะกลายเป็นเงินสำรองในระดับบริษัท หรือในระดับประเทศเลยในแบบฉบับที่ตำราเรียนการเงินในอดีตจะใช้ไม่ได้อีกต่อไป
1
ซึ่งคนที่จุดประเด็นสำหรับบทความนี้ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
เพราะคนที่ได้ "เร่ง" ให้หลายคนเชื่อแบบนั้น
ก็คือ Tesla เอง ที่ได้นำเงินสด 4.5 หมื่นล้านบาท
หรือราว 8% ของเงินสดทั้งหมดในบริษัท ไปซื้อบิตคอยน์
เพื่อเป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ ทางเลือกของบริษัท
1
ณ วันนี้ คนเกือบทั้งโลกก็น่าจะยอมรับใน Tesla และ Bitcoin มากขึ้น
และก็น่าจะพูดกันว่า 2 สิ่งนี้แหละ ที่จะเป็น " อนาคต" ของโลก
ซึ่งแน่นอนว่าถ้ามันยังเป็นแบบนี้ตอนไป
มูลค่า 49 ล้านล้าน อาจเป็นเพียง "จุดเริ่มต้น"
ที่ยังเพิ่มไปไกลกว่านี้ได้อีกมาก
แต่ก็น่าคิดเหมือนกันว่าหากวันใดวันหนึ่ง
กลุ่มนักลงทุนกลับไม่ได้คิดเช่นนั้นแล้ว
มันจะเป็นอย่างไร
เพราะในอดีตกาลที่ผ่านมา
การปรับตัวลงแรงของสินทรัพย์
ที่ทุกคนหมดศรัทธา
มักจะจบไม่สวยเสมอ..
แล้วคุณผู้อ่านคิดเห็นอย่างไรกับ Tesla และ Bitcoin
เชิญแสดงความคิดเห็นแบบสร้างสรรค์กันได้เลยครับ
Ref
-Bloomberg
-Tradingview
-วิดีโอสัมภาษณ์ของลงทุนแมน
โฆษณา