11 ก.พ. 2021 เวลา 23:00 • ไลฟ์สไตล์
รอไหวไหม!!! กว่าฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบทั้งโลก อาจกินเวลานาน ถึง 6 ปี
นพ. สันจายา เซนานายาเค ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อออสเตรเลีย ระบุในที่ประชุม National Press Club กล่าวว่า ใน 70 ประเทศยากจนที่สุดในโลก จะมีประชาชนเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น ที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน ภายในสิ้นปี 2021
เซนานายาเค ชี้ว่า ประเทศที่ฉีดวัคซีนไปแล้ว จะไม่เกิดประโยชน์ใดๆ จนกว่าจะมีการแบ่งวัคซีนให้ประเทศกำลังพัฒนาด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าเชื้อกลายพันธุ์ที่อันตรายกว่าจะไม่ผุดขึ้นอีก
เซนานายาเค ยังคาดการณ์ว่า การระบาดใหญ่ทั่วโลกครั้งต่อไป อาจจะเกิดขึ้นในอีกไม่ถึง 100 ปี ข้างหน้านี้ อ้างอิงจากสถิติโรคติดเชื้อใหม่ช่วง 50 ปี ที่ผ่านมา
สำนักข่าว Bloomberg เผยแพร่บทความ วิเคราะห์ผลคำนวณ ระยะเวลาสิ้นสุดการแพร่ระบาดโควิด-19 ทั่วโลก ซึ่งมีเป้าหมายสูงสุดคือ ทุกประเทศฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้ประชาชนเกิน 75%
อ้างอิงจากฐานข้อมูล ติดตามการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลก ของ Bloomberg ซึ่งเป็นฐานข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวบรวมข้อมูลการฉีดวัคซีนในแต่ละวัน จากสหรัฐฯ และอีก 67 ประเทศ ที่มีการฉีดวัคซีนไปแล้ว พบว่า มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วกว่า 119 ล้านโดส ทั่วโลก
ด้าน แอนโทนี เฟาซี ผอ.สถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐฯ ประเมินว่า การจะยุติการแพร่ระบาดและกลับสู่ภาวะปกตินั้น อาจจำเป็นต้องให้วัคซีน ครอบคลุมประชากร 70-85%
ถึงตอนนี้ มีบางประเทศ เช่น อิสราเอล ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูงที่สุดในโลก โดยใกล้จะครอบคลุมประชากร 75% แล้ว ภายในระยะเวลาแค่เพียง 2 เดือน
ขณะที่สหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงที่สุดในโลกกว่า 27.5 ล้านคน คาดว่าจะถึงเป้าหมายในช่วงต้นปี 2022
แต่การที่บรรดาประเทศร่ำรวย ได้ฉีดวัคซีนเร็วกว่าประเทศอื่นนั้น ทำให้คาดว่า กว่าที่ทั่วโลกจะได้รับการฉีดวัคซีนถึง 75% อาจต้องกินเวลายาวนานกว่า 6 ปี
หลังได้รับการฉีดวัคซีน จะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ในระยะเวลา 2-3 สัปดาห์ แต่หากในชุมชน มีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนเพียงไม่กี่คน เชื้อไวรัสโควิด-19 ก็จะยังแพร่ระบาดต่อไป
ยิ่งคนในชุมชน ได้รับวัคซีนมากขึ้น ก็จะเริ่มเกิดภูมิคุ้มกัน จนสร้างแนวป้องกันการติดเชื้อ และทำให้การติดเชื้อค่อยๆ ลดลง แนวทางนี้เรียกว่าภาวะภูมิคุ้มกันหมู่
วัคซีนในปัจจุบัน ต้องใช้ 2 โดส หรือ 2 เข็ม ในการฉีดเต็มรูปแบบ ซึ่งการคำนวณของ Bloomberg อ้างอิงจาก การฉีดวัคซีน คนละ 2 โดส แต่ไม่ได้แยกความแตกต่างระหว่าง การฉีดโดสแรก หรือโดสที่สอง ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้อาจบิดเบือนอัตราการฉีดวัคซีนประจำวัน
ภาพจาก The Standard
ขณะที่ผลทดลองวัคซีนของ Johnson & Johnson แสดงให้เห็นผลลัพธ์ที่ดี แม้จะใช้เพียงโดสเดียว ในการทดลองทางคลินิก หรือการทดลองในอาสาสมัครจำนวนมาก หากวัคซีนได้รับการอนุมัติ ทาง Bloomberg จะต้องปรับจำนวนโดสให้เหมาะกับสัดส่วนวัคซีนในแต่ละประเทศ
อย่างไรก็ตาม การคำนวณไม่นับรวมถึง ระดับของภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ ที่อาจเป็นผลจากการฟื้นตัวจากโรคโควิด-19 และเป็นไปได้ว่า สถานที่ ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากการแพร่ระบาด อาจต้องการการฉีดวัคซีนในระดับที่ต่ำกว่า
แม้ว่าจะมีหลักฐานว่า ผู้ที่หายป่วยจากโควิด-19 จะมีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่า ภูมิคุ้มกันนั้น จะป้องกันเชื้อได้มากน้อยเพียงใด และจะอยู่ได้นานแค่ไหน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญยังคงแนะนำ ให้ฉีดวัคซีน แก่ผู้ที่หายป่วยจากโควิด-19 อยู่ดี
Credit จาก:
โฆษณา