การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ : บทสรุปและเป้าหมายของการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
อ้างอิงภาพ https://www.wattpad.com/918690363-walpaper-aesthetic-walpaper
งานที่ต่างกันย่อมต้องการเวลาที่ต่างกัน ยิ่งเป็นงานที่ใหญ่เท่าใด เรายิ่งต้องใช้เวลาในการทำงานนั้นๆมากขึ้นเท่านั้น ถึงอย่างนั้น ในสังคมก็มีทั้งคนที่ใช้เวลาทั้งวันวุ่นวายกับงานจำนวนมหาศาล แม้กระทั่งต้องนำงานกลับมาทำที่บ้านจนไม่มีเวลาให้แก่ครอบครัว ทว่าอาชีพการงานของตนกลับไม่มีความคืบหน้ามากนัก และไม่สามารถสร้างมูลค่าได้เท่าเวลาที่เสียไป อีกมุมหนึ่งก็มีบุคคลที่ทำงานสำเร็จอย่างมหาศาลในเวลาที่เทียบเท่าหรือน้อย แถมยังมีเวลาให้แก่ครอบครัวและตนเอง
สิ่งที่คนกลุ่มหลังมีคือความสามารถในการทำงานและจัดการกับเวลาที่มีได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลักการง่ายเพื่อให้เราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น เรื่มการกำหนดลำดับของงานและวางแผนที่จะทำ เราสามารถใช้วิธีการต่างๆเข้ามาทำให้เราบริหารเวลาได้อย่างคุ้มค่า ยกตัวย่างเช่น กฏพาเรโต คำถาม 3 ข้อ หลักการ ABCDE หรือกฏทอง 3 ประการ ซึ่งกฏ 3 ข้อนี้สามารถใช้ได้ในเวลาไม่นานด้วยการถามตัวเองว่า หากเราต้องทำงานที่สำคัญที่สุดเพียงชิ้นเดียว ณ ตอนนี้ งานนั้นคืออะไร ตอบคำถามนี้ภายใน 30 วินาที เมื่อเราบังคับให้ต้องคิดภายในเวลาที่จำกัด สมองของเราจะสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าเราจะใช้เวลาคิด 30วินาที หรือ 30นาที ผลที่ได้นั้นไม่ต่างกันนัก ถามตัวเองให้ได้คำตอบทั้งหมด 3 ข้อ งานทั้ง 3 อย่างที่เราเลือกนี้จะสามารถสร้างประโยชน์ได้ถึง 90% ของมูลค่าที่เราสร้างได้ต่อวัน เมื่อได้คำตอบแล้ว งานอื่นที่เหลือเราควรนำมันไปให้คนอื่นทำ หรือไม่ก็โยนมันทิ้งไป การทำอย่างนี้จะช่วยให้เราได้ใช้เวลากับงานจริงๆของเรา และยังทำงานเราได้มี"เวลาว่าง"อีกด้วย นอกจากนี้กฏนี้ยังสามารถนำไปใช้กับด้านอื่นของชีวิตเราได้ ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพ ชีวิตส่วนตัว
เมื่อเรามีลำดับงานที่เราต้องทำพร้อมแล้ว ลำดับต่อมาคือการวางแผนงาน โดยเฉพาะเมื่องานนั้นเป็นชิ้นใหญ่ คุณอาจจะใช้วิธีแบ่งงานเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และจัดการไปเรื่อยๆ หรืออาจจะทำงานแล้วพักเป็นระยะ ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหนก็สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเราได้ไม่ต่างกันนัก ถ้าเป็นไปได้เราควรมี"ตารางเวลา"ของเรา แล้วจัดการใส่งานที่เราจะทำทั้งหมดลงไป จากนั้นเราจะเห็นว่ามีช่วงเวลาไหนบ้างที่เราสามารถรวบเวลาเพื่อทำงานอย่างต่อเนื่องบ้าง
สิ่งที่สำคัญอาจจะที่สุดคือการลงมือ ก่อนที่จะเริ่มการทำงาน เราควรเตรียมทุกอย่างให้พร้อมกับการทำงาน ปิดเครื่องมือสื่อสารและทุกอย่างที่จะทำให้เราไขว้เขวไปจากงาน หากมีเหตุจำเป็นเราอาจให้ช่องทางติดต่อแค่กับคนที่สำคัญ และใช้มันเมื่อจำเป็นจริงๆ หรือตั้งเกณฑ์ในการเช็คข้อมูลข่าวสารเป็นช่วง ตอนเช้าหนึ่งครั้ง และตอนบ่ายอีกหนึ่งครั้ง พยายามเอาตัวออกห่างจากเทคโนโลยี เพราะในวันนั้นๆ สิ่งสำคัญคือสิ่งแรกที่เราทำในยามเช้า หากเราเริ่มด้วยการเปิดโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเช็ค ทั้งวันเราจะจมอยู่กับความฟุ้งซ่านในจิตใจ มัวแต่พะว้าพะวงว่าจะมีการแจ้งเตือนใดๆรึเปล่า จนไม่มีสมาธิในการทำงาน เราไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องข่าวสาร เพราะหากมันเป็นสิ่งที่สำคัญจริงๆ ใครสักคนจะเป็นคนบอกกับเราเอง
เมื่อเราเริ่มทำงานแล้ว สิ่งสำคัญคือการทำมันจนจบโดยไม่วอกแวก ลองใช้เวลาทำงานสัก 90 นาที แล้วค่อยตรวจเช็คข้อความสัก 15 นาที จากนั้นทำงานต่ออีก 90 นาที การจดจ่อกับการทำงานจะสามารถย่นระยะเวลาที่เราใช้ได้อย่างมหาศาล กลับกันหากเรามัวแต่ไขว้เขวไปนู่นนี่ไปเรื่อย จะยืดระยะเวลางานและกิน"เวลาชีวิต"ของเรา หากมันเป็นงานชิ้นยักษ์ สิ่งที่เราจะต้องทำคือการแบ่งงานเป็นชิ้นๆ แล้วกินมันทีละคำ สิ่งที่เราต้องสนใจมีเพียงงาน ณ ตอนนี้ และงานถัดไป เมื่อเราทำงานย่อยสำเร็จ เราจะมีพลังขับเคลื่อน งานย่อยชิ้นต่อกลายเป็นสิ่งที่ง่ายขึ้น และกว่าจะรู้ตัวเราก็ทำงานนั้นเกือบจะเสร็จแล้ว สิ่งสำคัญคือการจดจ่อกับงานนั้นและสร้างวินัยในการทำงานให้เสร็จด้วยการชิงทำงานแต่เนิ่นๆ ยิ่งเราเริ่มทำมันเร็ว เราจะยิ่งทำมันเสร็จเร็ว และจะทำให้เราได้มี"เวลาของเรา"มากขึ้น เมื่อใดที่เราเริ่มละความสนใจจากงาน บอกกับตัวเองว่า "ทำงาน" และอย่าลืมสร้างช่วงเวลาขนาดใหญ่ในการทำงาน เพื่อที่จะจดจ่อกับงานนั้นๆ และมุ่งมั่นทำงานนั้นๆจนสำเร็จ
ทั้งนี้สาเหตุที่เราควรทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ บริหารเวลา ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาทักษะที่สำคัญ การจดจ่อกับงาน นั้นก็เพื่อให้เราได้มีเวลาให้แก่ตัวเองและครอบครัวมากขึ้น ชื่อเสียง เงินทองที่ได้มาจะไร้ค่า หากเราไม่มีเวลาได้ใช้มัน ถึงแม้จะมีบ้านหลังใหญ่ แต่ถ้าไม่มีความสุขอยู่ข้างใน มันคงไม่ใช่"บ้าน" สิ่งสำคัญคือการพยายามอยู่ ณ จุดสมดุล หรือ ทางสายกลาง ของทั้งสังคม ความรัก และงาน แต่ถึงเราจะเคยอยู่ตรงกลาง แต่สมดุลไม่ได้คงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเราจึงต้องพยายามอยู่เสมอให้เราอยู่ในความพอดี เพื่อให้เราได้สร้าง"ชีวิตที่มีความสุข" บนความสมดุล
บทความนี้อ้างอิงจากหนังสือ"กินกบตัวนั้นซะ!"
หากมีข้อเสนอติชม ทางผู้เขียนยินดีนำไปปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้บทความถัดไปดียิ่งขึ้น
ขอบคุณที่อ่านครับ
#กินกบตัวนั้นซะ!#Eat That Frog!#หมวดจิตวิทยา
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
