Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สุดแท้แล้วแต่จะเล่า
•
ติดตาม
14 ก.พ. 2021 เวลา 13:00 • หนังสือ
อาร์ทีมิส-เอนดิเมียน แอบจุ๊บ... ให้รู้ว่ารัก
สวัสดีวันแห่งความรักนะคะผู้อ่านทุกท่าน
เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันแห่งความรัก ผู้เขียนจึงจะขอนำทุกท่านมาสนุกกับเรื่องราวความรักที่ลึกซึ้งกินใจในตำนานเทพปกรณัมกรีกให้ทุกท่านได้เพลิดเพลินกัน
จะเป็นอย่างไรนั้น...ก็ขอเชิญทุกท่านดื่มด่ำกับเรื่องราวนี้ไปพร้อม ๆ กันได้เลยค่ะ
ต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดนั้นก็คงจะไม่ใช่ใครอื่นไกล... นอกจากอาร์ทีมิส เทพีแห่งจันทราที่มอบแสงสว่างให้กับผืนโลกในยามรัตติกาลนั่นเองค่ะ
หากใครเคยได้ยินเรื่องราวของเทพีองค์นี้ ก็คงจะรู้ดีว่าในตำนานเทพปกรณัมกรีก พระนางเป็น 1 ใน 3 เทพีผู้ทรงพรหมจรรย์ ผู้ปฏิญาณว่าชั่วชีวิตจะไม่ยอมครองเรือนกับชายใดอีกเลย
แต่ถึงแม้จะได้ชื่อว่าเป็นเทพีพรหมจารีย์ แต่ก็ใช่ว่าพระนางจะไร้ซึ่งจิตพิศวาสต่อชายใดเลยนะคะ
เพราะบางคราความเสน่หาในเหล่าชายหนุ่มของพระนางก็เกือบจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อตัวพระนางมาในภายหลัง
โดยหนึ่งในมนุษย์หนุ่มที่เทพีอาร์ทีมิสเคยมีจิตปฏิพัทธิ์นั่นก็คือ 'เอนดิเมียน' พระเอกของเรื่องราวในวันนี้ที่เราจะนำมาเล่าให้ฟังนั่นเองค่ะ
ซึ่งเรื่องราวนั้นมีอยู่ว่า...
ในคืนหนึ่งที่เงียบสงัด ผืนฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นสีนิลแซมด้วยแสงวิบวับจากกลุ่มดาวน้อยใหญ่
ทุกสรรพสิ่งล้วนหลับไหลอย่างสบายใจเมื่อต้องสายลมยามราตรีที่พัดโบกมาอย่างเอื่อยเฉื่อย
เช่นเดียวกับเอนดิเมียน ชายหนุ่มรูปงามผู้เป็นเจ้าของฝูงแกะนับร้อยที่ในเวลานี้เขากำลังเอนกายลงบนโขดหินอย่างสบายอารมณ์หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการต้อนฝูงแกะน้อยใหญ่มาตลอดทั้งวัน
เขามองหมู่ดาวน้อยใหญ่ที่ส่องประกายระยิบระยับอย่างเพลิดเพลินก่อนที่ดวงตาของเขาจะค่อย ๆ ปิดลงและเข้าสู่ห้วงภวังค์แห่งความฝันดังเช่นทุกคืน
Credit: twitter.com/troycap/
เป็นเวลาเดียวกับที่เทพีอาร์ทีมิส เทพีแห่งดวงจันทร์กำลังเคลื่อนราชรถเทียมกวางขาวสีนวลผ่องมาบนผืนฟ้าสีหม่นดังเช่นทุกค่ำคืนเป็นประจำ
เทพีสาวใช้สองหัตถ์จับบังเหียนให้รถเทียมคันโตเคลื่อนไปอย่างนุ่มนวล ในขณะที่ดวงดาคู่งามทอประกายระยับดังเช่นแสงดาวในรัตติกาลก็ชื่นชมความงดงามของสรรพสิ่งบนผืนโลกอย่างเพลิดเพลิน
แต่แล้วหัวใจของเทพีผู้ครองพรหมจรรย์ไว้ยิ่งชีพก็ต้องสั่นไหวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เมื่อแสงสีขาวนวลอ่อนละมุนของดวงจันทร์ส่องกระทบไปถูกใบหน้าอันหล่อเหลาของชายหนุ่มผู้หนึ่งที่ยังคงหลับไหลอยู่บนพื้นโลกเบื้องล่าง
ใช่... ชายหนุ่มผู้นั้นคือเอนดิเมียน เจ้าของฝูงแกะนับร้อยเหล่านั้นนั่นเอง
เทพีแห่งจันทราไม่อาจทนพิษแห่งความเสน่หาได้ พระนางจึงค่อย ๆ เคลื่อนกายลงมาหาเจ้าหนุ่มที่ยังหลับไหล จ้องมองใบหน้าอันงดงามที่ยังคงหลับไหลของชายหนุ่มอย่างอ้อยอิ่งด้วยแววตาที่เปี่ยมล้นไปด้วยความรักที่เกินจะต้านทาน
"เจ้าช่างงดงาม อ่อนละมุน แลดูมีชีวิตชีวา ไม่เหมือนดั่งเหล่าเทพเทวาที่ข้าเคยพบเห็น... ผู้เป็นอมตะหากแต่ไร้ซึ่งความนุ่มนวล"
เรียวหัตถ์ของเทพีแสนงามลูบไล้ใบหน้าของชายหนุ่มตรงหน้าอย่างแสนรัก
ก่อนที่พระนางจะโน้มใบหน้าไปจูบที่ริมฝีปากบางสวยสีแดงระเรื่อของเจ้าหนุ่มที่ยังอยู่ในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่นอย่างแผ่วเบาด้วยแสนสิเน่หา แล้วลอยกลับขึ้นไปยังผืนฟ้าสีนิลดังเดิม
Credit:sites.google.com/site/postititpost/
เอนดิเมียนค่อย ๆ ลืมตาขึ้นจากภวังค์ฝันอันหอมหวานอย่างเชื่องช้าเมื่อภาพของเทพธิดาที่เขาพบเจอยังคงตราตรึงอยู่ในใจของชายหนุ่มอย่างไม่มีวันลืมเลือน
"โอ้ เทพธิดาผู้นั้นคือใครกันหนอ... แล้วรอยจูบนั้นเป็นความฝันหรือความจริงกันแน่"
เขารำพึงพลางหวนนึกถึงรสจูบอันอ่อนหวานที่ได้รับเมื่อครู่
Credit:Photo by Candace McDaniel from StockSnap
"ยอดรักของข้า ไม่ว่าท่านจะอยู่แห่งหนใด ข้าก็จะตามหาท่านให้พบ ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตของข้าก็ตาม"
เขาตั้งปฏิญาณไว้กับตน ก่อนจะออกเดินทางเพื่อตามหาเทพธิดาที่เขาพบเจอในฝันให้พบดังที่หวังเอาไว้
เอนดิเมียนออกเดินทางตามหานางในฝันของเขาไปตามป่าเขา ลำธาร หรือแม้แต่ยอดเขาสูงชัน แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะพบเทพธิดาแสนงามที่เฝ้าตามหาเลยแม้แต่น้อย
แต่แล้วความลับทั้งหมดก็ถูกเปิดเผย เมื่อเรื่องราวของเทพีพรหมจารีย์อย่างอาร์ทีมิส ที่ลงไปมอบจุมพิตแห่งรักให้กับเอนดิเมียนนั้นได้ถูกเปิดเผยจนล่วงรู้ไปถึงซุส จอมเทพแห่งโอลิมปัสผู้เกรียงไกร
พระองค์เองก็ไม่อยากที่จะให้เทพีแห่งดวงจันทร์ต้องเสื่อมเสียเกียรติจากการละเมิดซึ่งคำปฏิญาณในการรักษาพรหมจรรย์ของตัวพระนางเอง
Credit:www.ancient-literature.com
มหาเทพจึงเสด็จลงมาหาเอนดิเมียนผู้เป็นสาเหตุของเรื่องราวอันน่าสับสนเหล่านี้
"ข้าคือมหาเทพซุส จอมเทพแห่งโอลิมปัส ข้ามาหาเจ้าเพื่อปกป้องไม่ให้ข้าและเหล่าทวยเทพต้องมัวหมองด้วยมลทิน" มหาเทพผู้เกรียงไกรเอ่ยกับชายหนุ่ม
"ข้าแต่จอมเทพ ที่ท่านตรัสออกมาแก่ข้าพเจ้านั้น หมายความว่าเช่นไรฤาพระเจ้าข้า"
เอนดิเมียนเอ่ยตอบด้วยความสงสัยอยู่ในที
"เจ้าหนุ่มเอ๋ย เจ้ารู้หรือไม่ว่าเทพธิดาที่เจ้าตามหานั้นคือองค์เทพีอาร์ทีมิส ผู้มอบความสว่างไสวในยามค่ำคืนเช่นไรเล่า"
จบคำของมหาเทพ แววตาของชายหนุ่มผู้เปี่ยมด้วยความรักอย่างเต็มหัวใจก็พลันทอประกายความยินดีเมื่อรู้ว่าหญิงที่ตนตามหามาแสนนานคือเทพีแห่งจันทรา
"ที่แท้เทพธิดาองค์นั้นคืออาร์ทีมิส นี่ข้าไม่ได้ฝันไปจริง ๆ ด้วย"
ชายหนุ่มรำพึงกับตนด้วยแสนปิติสุข
แต่แล้วแสงแห่งความยินดีของเอนดิเมียนนั้นก็ต้องมอดลง เมื่อได้ยินถ้อยพาทีอันเป็นเรื่องจริงจากโอษฐ์แห่งจอมเทพแห่งโอลิมปัส
"แต่อาร์ทีมิสเคยปฏิญาณเอาไว้ว่าจะตั้งมั่นอยู่ในพรหมจรรย์ และจะไม่ข้องเกี่ยวกับความรักกับชายใดในเชิงชู้สาวอีกต่อไป"
มหาเทพเอ่ยขึ้นด้วยสุรเสียงแน่นหนัก ทั้งที่ยังรู้สึกสงสารมนุษย์หนุ่มตรงหน้าอย่างจับใจ
"และที่นางกระทำเช่นนี้ก็ถือว่านางกำลังจะละเมิดซึ่งสัจจะที่นางเคยกล่าวเอาไว้ด้วย"
จบถ้อยแห่งองค์มหาเทพ เอนดิเมียนก็แทบทรุดลงกับไปกับพื้นด้วยหัวใจทั้งดวงที่แหลกสลายไปสิ้น
Credit: unsplash.com
"โอ้ ข้าผู้น้อยนี้มีความผิด ตัวข้านั้นรักองค์เทพีอย่างสุดหัวใจ แต่ไยข้าไม่รู้เลย ว่าข้าพลั้งเผลอให้เทพีผู้สูงศักดิ์ที่ข้ารักยิ่งต้องแปดเปื้อนมลทินอย่างน่าอับอายเช่นนี้"
เอนดิเมียนได้แต่คร่ำครวญแล้วกล่าวโทษตนเองซ้ำไปซ้ำมา
จอมเทพได้แต่นิ่งเงียบ รอฟังคำอ้อนวอนจากมนุษย์หนุ่มผู้อยู่เบื้องหน้าตน
"ได้โปรดเถิดจอมเทพ ข้ายอมทำทุกอย่าง ขอเพียงอย่าให้นางที่ข้ารักยิ่งปานดวงใจต้องเสื่อมเสียเกียรติเพราะตัวข้าเลย" เจ้าหนุ่มอ้อนวอน อ้าแขนเพื่อขอรับความเมตตาจากองค์มหาเทพ ณ เบื้องหน้า
"เจ้าแน่ใจหรือ ว่าจะยอมทำได้ทุกอย่าง!?" มหาเทพทวนคำพูดของชายผู้เปี่ยมรักเบื้องหน้า
"พระเจ้าข้า ข้าผู้น้อยยอมทำทุกสิ่ง แม้ต้องแลกด้วยชีวิตก็ยอม"
เอนดิเมียนยังคงยืนยันด้วยเสียงหนักแน่น
Credit:www.sothebys.com
องค์เทพผู้เกรียงไกรแห่งโอลิมปัสยืนนิ่ง คิดใคร่ครวญกับตนเองอยู่ไม่กี่อึดใจ ก่อนจะยื่นข้อเสนอบางอย่างให้กับชายหนุ่มผู้พร้อมจะเสียสละเพื่อความรักผู้นี้
"เช่นนั้นเจ้าก็จงเลือกมาเถิด ว่าเจ้าจะยอมจบชีวิตอย่างไร้ซึ่งความเจ็บปวดด้วยน้ำมือข้า..."
มหาเทพนิ่งไปสักพักก่อนกล่าวข้อเสนอข้อที่สอง
"หรือเจ้าจะยอมหลับไหลไปตลอดกาล และเจ้าจะเป็นอมตะ ไม่แก่เฒ่าไปจนตราบนิรันดร์"
เอนดิเมียนไม่รอช้า เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นอย่างสุดหัวใจ
"ข้าขอหลับไหลไปชั่วนิรันดร์ เพื่อที่จะได้พบกับเทพีแห่งจันทราที่ข้ารักยิ่งในห้วงแห่งนิมิตฝันทุก ๆ ราตรี"
มหาเทพยกยิ้ม แล้วประทานพรตามที่ชายตรงหน้าวอนขอ
"เจ้าจะได้สิ่งนั้นที่เจ้าปรารถนา"
จบคำ ร่างของมหาเทพก็พลันเลือนหายไป...
พร้อมกับร่างของเอนดิเมียนที่เข้าสู่ภวังค์แห่งฝันโดยฉับพลัน
ร่างที่หลับไหลของชายหนุ่มถูกนำมาวางไว้ในถ้ำแห่งยอดเขาแลตมุสที่เงียบสงัด
มีเพียงสายลมหนาวยามราตรีที่คอยพัดโชยหวีดหวิวมาต้องร่างชายหนุ่มเพื่อคลายความเหงาจากการรอคอยเทพีแห่งจันทราผู้เป็นยอดดวงใจ
และทุกครั้งที่เทพีแห่งจันทราผู้งดงามมาหา พระนางจะเข้ามาแล้วจูบร่างอันหลับไหลของชายหนุ่มที่นางรักอย่างแสนเสน่หาก่อนจะจากไป
ปล่อยให้เอนดิเมียนได้ดื่มด่ำกับความฝันอันหอมหวานและรสจูบอันนุ่มละมุนจากเทพีแสนงามอย่างเป็นสุขไปชั่วนิจนิรันดร์
แล้วเรื่องราวความรักของเทพีแห่งจันทรากับมนุษย์หนุ่มผู้หลับไหลก็จบลงเพียงเท่านี้
สุดท้ายนี้ผู้เขียนก็ขอให้อวยพรให้ผู้อ่านทุก ๆ ท่านสมหวังในความรัก และขอให้ผู้อ่านทุกท่านมีความสุขกับคนที่รักไปอย่างยาวนานเลยนะคะ
ตำนานหรือนิทานเรื่องหน้านั้นจะเป็นเรื่องอะไร ก็คงต้องรอติดตามกันต่อไปนะคะ
สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อน
สวัสดีค่ะ 😊
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย