CHASE OUT ปรากฎการณ์ไล่ประธานสโมสร
โรเบิร์ต เชส (Robert Timothy Chase) นักธุรกิจก่อสร้างในเมืองนอริช ได้รับเชิญให้เข้ามาเป็นกรรมการของสโมสรในปี 1982 ก่อนที่จะได้รับตำแหน่งประธานบอร์ด แทนเซอร์ อาเธอร์ เซาท์ ประธานคนเดิมในปี 1985 หรืออีก 3 ปีต่อมา ในยุคที่วงการฟุตบอลอังกฤษ ยังไม่ได้เป็นธุรกิจฟุตบอลที่เฟื่องฟู จากรายได้การถ่ายทอดสดและส่วนแบ่งค่าโฆษณาอย่างมหาศาลในยุคพรีเมียร์ลีก โดยงานแรกของเขาคือการซ่อมแซมอัฒจันทร์ฝั่งที่ถูกไฟไหม้ ซึ่งแล้วเสร็จในปี 1987 และตั้งชื่อใหม่ว่า City Stand
ผู้จัดการทีมที่อยู่ในยุคของเชส เริ่มจากคนแรก เคน บราวน์ (1980 -Nov 87) เดฟ สตริงเจอร์ (Nov 87-May 92) ไมค์ วอล์คเกอร์ สมัยที่ 1 (June 92-Jan 94) จอห์น ดีฮาน (Jan 94-July 95) มาร์ติน โอนีล (Aug – Dec 95) และแกรี่ เม็กสัน (Dec 95 – June 96)
โรเบิร์ต เชส กับ ทีมชุด 93/94 ที่ประสบความสำเร็จสุดๆ ในยูฟ่าคัพ
เมื่อ เคน บราวน์ ซึ่งสร้างทีมด้วยนักเตะอย่าง มาร์ติน โอนีล เดฟ วัตสัน สตีฟ บรู๊ซ คริส วู้ดส์ คีธ เบิร์ตสชิน จอห์น ดีฮาน มิค แชนน่อน เอียน ครู้ก ไมค์ ฟีแลน ไบรอัน กันน์ ฯลฯ ได้อำลาทีมอย่างกะทันหัน ในเดือนพ.ย. 1987 หลังจากอยู่กับทีมมายาวนานถึงกว่า 7 ปี ทีมได้แต่งตั้ง เดฟ สตริงเจอร์ อดีตนักเตะกองหลังของทีมซึ่งแขวนสตั๊ดกับทีมเคมบริดจ์ ยูไนเต็ด ในปี 1980 ไม่มีประสบการณ์คุมทีมใดมาก่อน มารับหน้าที่แทน ประกอบกับ สไตล์การบริหารของเชส ทำให้แฟนบอลคาดกันว่าทีมจะถึง กาลตกต่ำเป็นแน่ แต่ผิดคาด หลังจากจบฤดูกาล 87/88 ด้วยอันดับ 14 ในดิวิชั่น 1 (ลีกสูงสุดเดิม) รอดพ้นการตกชั้นได้ แต่ทีมก็ต้องเสียกองหน้าฟอร์มเด่น เควิน ดริงเคิลล์ ที่ถูกกลาสโกว์ เรนเจอร์ส ซื้อตัวไปร่วมทีม
ในฤดูกาลถัดมา (1988/89) สตริงเจอร์ พาทีมชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในเดือนกันยายน 1988 ขึ้นครองตำแหน่งจ่าฝูงดิวิชั่น 1 ยาวๆ ไปจนถึงช่วงคริสต์มาส ก่อนจะฟอร์มแผ่ว ชนะเพียง 1 จาก 9 เกม แต่ก็ยังจบฤดูกาลที่อันดับ 4 ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์สโมสร ณ เวลานั้น ยิ่งไปกว่านั้นผลงานในเอฟเอคัพ ก็ยังมีลุ้น ก่อนจะพ่ายอีเวอร์ตัน (เรียกชื่อย้อนยุคซะหน่อย) ตกรอบรองชนะเลิศ
และหลังจากนั้น ทีมในชุดปี 1989 ก็เริ่มแตกในปีต่อมา และก็เกิดซ้ำๆ ต่อเนื่องเป็นเวลา 5-6 ปีหลังจากนั้น เช่น กัปตันทีม ไมค์ ฟีแลน ย้ายไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แอนดี้ ทาวน์เซนด์ ถูกขายไปแอสตัน วิลล่า แอนดี้ ลินิแกน เซนเตอร์จอมแกร่งก็ย้ายไปอาร์เซน่อล กองหน้าอย่างมัลคอล์ม อัลเลน ถูกมิลวอลล์ดึงตัวไป เทรเวอร์ พัทนี่ย์ ก็ย้ายไปมิดเดิลสโบรช์ เดล กอร์ดอน ย้ายไปกลาสโกว์ เรนเจอร์ส
เดล กอร์ดอน ปีกฝีเท้าจัด ย้ายไปกลาสโกว์ เรนเจอร์ส เมื่อ พ.ย. 1991 ค่าตัว 1.2 ล้านปอนด์
นอริชเข้าถึงรอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพ อีกครั้งในปี 1992 แต่ผลงานในลีกกลับสวนทาง ต้องดิ้นรนหนีการตกชั้น ทำให้เดฟ สตริงเจอร์ ต้องลาออกหลังจบฤดูกาล 1991/92 โดยในฤดูกาลถัดมา ซึ่งลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษเปลี่ยนจากดิวิชั่น 1 เป็นพรีเมียร์ ลีกเป็นปีแรก นอริชก็ได้ ไมค์ วอล์คเกอร์ เข้ามาคุมทีมสู้ศึกพรีเมียร์ลีกแทนสตริงเจอร์ โดยวอล์คเกอร์สมัยเป็นนักเตะเล่นเป็นผู้รักษาประตูให้วัตฟอร์ดและโคลเชสเตอร์ ก่อนจะได้มาคุมทีมโคลเชสเตอร์ในปี 1986-87 เป็นเวลาสั้นๆ เท่านั้น ทำให้ก่อนเปิดฤดูกาล นอริชโดนให้ราคาเป็นทีมเต็งต้นๆ ที่จะต้องตกชั้น แฟนบอลเริ่มมีกระแสความไม่พอใจบอร์ด
นอริชสร้างเซอร์ไพรส์ในนัดแรกของพรีเมียร์ ลีก ด้วยการชนะทีมเต็งอย่างอาร์เซน่อลถึงถิ่นไฮบิวรี่ 4-2 และก็โชว์ฟอร์มได้ดีต่อเนื่อง ยึดตำแหน่งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกได้ ทำให้กระแสความไม่พอใจของแฟนบอลจางหายไป ในช่วงต้นเดือนธันวาคมและหลังปีใหม่ มีช่วงที่ทีมไม่ชนะเลยถึง 6 เกม ทำให้แต้มที่เคยนำสูงสุดถึง 8 แต้มเริ่มลดลง ก่อนจะมาเร่งฟอร์มชนะติดๆ กันหลายนัดในเดือนมีนาคมทำให้กลับมามีลุ้นอีกครั้ง แต่ก็มาพ่ายแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคารัง 1-3 และในที่สุดก็โดนปีศาจแดงแซงหน้าคว้าแชมป์ไปได้ โดยนอริชจบฤดูกาลแรกของพรีเมียร์ลีกเพียงอันดับ 3 ซึ่งก็เป้นอันดับสูงสุดของสโมสรจนถึงปัจจุบัน และได้ไปเล่นฟุตบอลสโมสรยุโรปยูฟ่าคัพในปีต่อมา ซึ่งทีมก็สร้างประวัติศาสตร์ เอาชนะ ทีมยักษ์ใหญ่บุนเดสลีกาอย่างบาเยิร์น มิวนิคได้ถึงโอลิมปิกสเตเดี้ยม 2-1 ก่อนจะผ่านเข้ารอบ 3 ไปแพ้อินเตอร์ มิลานตกรอบอย่างยิ่งใหญ่
ความสัมพันธ์ของโรเบิร์ต เชส กับ วอล์คเกอร์ ไม่ดีเลยตั้งแต่ต้น เชสแทบไม่มีงบให้ซื้อนักเตะเสริมทีม วอล์คเกอร์ต้องอดทนมาโดยตลอด โดยเชสแอบตกลงขายกองหน้าดาวยิงร่างเล็ก โรเบิร์ต เฟล็ค ให้เชลซี เป็นรายแรกต้อนรับการมาของวอล์คเกอร์ตั้งแต่ก่อนเปิดฤดูกาล 1992/93 และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ขาดสะบั้น เมื่อไมค์ วอล์คเกอร์ตัดสินใจย้ายไปคุมเอฟเวอร์ตัน ในช่วงกลางฤดูกาล 1993/94
สีหน้าคริส ซัตตัน คงบอกบรรยากาศทีมในยุคนั้นได้
กุนซือที่ทีมแต่งตั้งแทนอย่างจอห์น ดีฮาน ประคองทีมให้เข้าป้ายที่กลางตารางอันดับ 12 ในฤดูกาล 93/94 ด้วยงบประมาณจำกัดจำเขี่ยเช่นเดิม ทีมต้องขายนักเตะฝีเท้าดีอย่างคริส ซัตตั้น ให้แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ด้วยเงินก้อนโตในยุคนั้น 5 ล้านปอนด์ และขายรูเอล ฟ็อกซ์ ให้นิวคาสเซิ่ล ค่าตัว 2.25 ล้านปอนด์ ในช่วงปิดฤดูกาล ในฤดูกาลถัดมา 1994/95 ช่วงต้นฤดูกาลทีมทำผลงานใช้ได้ อยู่อันดับ 7 ในช่วงคริสต์มาส ก่อนจะทำผลงานย่ำแย่ อันดับรูดมหาราช จนจอห์น ดีฮานต้องลาออก นอริชตั้งแกรี่ เม็กสัน หวังให้มากู้สถานการณ์แต่ไม่เป็นผล ทีมชนะเพียงแค่เกมเดียวจาก 20 เกม จนต้องตกชั้นเป็นครั้งแรกนับจากปี 1986 พร้อมกับต้องขายนักเตะแกนหลักออกจากทีม เช่น เอฟาน เอโกกู มาร์ค โรบิ้นส์ เอียน คัลเวอร์เฮ้าส์ และโคลิน วู้ดโธรป แม้จะได้ตัวดีๆ มาเสริมทดแทน เช่น แอชลี่ย์ วอร์ด จอน นิวซั่ม คาร์ล แบรดชอว์ และ ไมค์ ชีร่อน ก็ตาม โดยในฤดูกาลนี้กระแสความไม่พอใจของแฟนบอลมีมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นมีการประท้วงมีผู้บาดเจ็บในเกมที่แคร์โรว์ โร้ด พบลิเวอร์พูลในช่วงปลายฤดูกาล 94/95
มาร์ติน โอนีล กุนซือที่พาวีคอมบ์ วันเดอเรอร์เลื่อนชั้นจากนอกลีก ขึ้นมาดิวิชั่น 2 และเป็นอดีตนักเตะมิดฟิลด์ฝีเท้าดีของนอริชเอง ถูกดึงมาคุมทีมแทนดีฮานช่วงก่อนเปิดฤดูกาล 1995/96 โดยโอนีล อยากได้ตัว ดีน วินดาสส์ กองหน้าจากฮัลล์ ที่มีค่าตัว 750,000 ปอนด์มาเสริมทัพเพื่อลุ้นเลื่อนชั้นกลับสู่พรีเมียร์ลีก แต่ถูกเชสปฏิเสธ จนทำให้โอนีลตัดสินใจยื่นใบลาออก แม้จะถูกเชสยื้อไม่อนุมัติการลาออกอยู่เป็นเวลานาน โอนีลก็จากไปคุมทีมเลสเตอร์ ซิตี้ในเดือนธันวาคม 1995 และทีมก็ไปเข็นเอาแกรี่ เม็กสัน ที่พาทีมตกชั้นกลับมาคุมทีมอีกรอบ แต่ก็จบอันดับ 16 ไม่มีลุ้นเลื่อนชั้นใดๆ ต้องอยู่ในดิวิชั่น 1 ต่อไปอีกปี
โรเบิร์ต เชส จึงถูกแฟนบอลออกมาขับไล่ “CHASE OUT” ด้วยข้อหาขายนักเตะขวัญใจแฟนบอลทิ้งตลอด แถมไม่ให้งบประมาณเสริมทัพ ทำให้ทีมตกต่ำจนตกชั้น กุนซือดีๆ ก็อยู่ไม่ได้เพราะเชส ในเดือนกุมภาพันธ์ 1996 สมาคมแฟนบอลนอริชอิสระ หรือ the Norwich City Independent Supporters Association ได้ล่ารายชื่อแฟนบอล 1 หมื่นรายชื่อเพื่อยื่นเสนอปลดโรเบิร์ต เชส ออกจากตำแหน่ง ในเวลานั้น นอริชมีหนี้สินประมาณ 8 ล้านปอนด์ แม้จะมีรายได้จากการขายนักเตะเกือบ 10 ล้านปอนด์ในปีที่ผ่านมา
ในที่สุดโรเบิร์ต เชสทนกระแสกดดันของแฟนบอลและสื่อไม่ไหว ต้องลาออกในเดือนเมษายน 1996 และขายหุ้นของเขาให้กับเจฟฟรี่ย์ วัตลิ่ง อดีตประธานสโมสรที่อยู่กับทีมมายาวนานกว่า 40 ปี
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
