- ยอมรับว่าตอนดู La la land ในรอบแรกๆ เราได้ทำการตัดสินมีอาไปแล้วว่า มีอาเป็นคนที่มีนิสัยอยากให้คนรอบตัวมาสนใจตัวเองและชอบโดดไปหาผู้ชายคนนั้น คนนี้ เบื่อก็เลิกตามใจตัวเองตลอดเวลา(ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิด แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องดี ถ้าเราเป็นผู้ชายคนที่โดนเท จริงมั้ย?) ทำให้ส่วนตัวเราค่อนข้างจะออกตัวก่อนเลยว่าไม่ชอบผู้หญิงคนนี้
- "Did she loke jazz ?" คือคำถามแรกที่เซบฯถามพี่สาว เมื่อรู้ตัวว่าจะถูกคลุมถุงชนกับผู้หญิงที่ตัวเองไม่ได้เลือก "I hate jazz" คือสิ่งแรกๆที่มีอาเล่าเกี่ยวกับตัวเองให้เซบฯฟัง หลังจากนั้นเซบฯเลือกที่จะพามีอาไปรู้จักกับ Jazz และแสดงให้เห็นถึงแพนชั่นที่เซบฯมีต่อมันอย่างถึงที่สุด จนทำให้มีอาเริ่มจะชอบแจ๊สขึ้นมาบ้างและอาจจะหลงรักมันเสียด้วยซ้ำ ยิ่งไปกว่าการหลงรักแจ๊สคือ การที่มีอาชอบที่จะเห็นแพสชั่นที่เซบฯมีต่อแจ๊สเข้าขั้นบ้าคลั่ง และมีอามองว่ามันเป็นเสน่ห์อย่างนึงของเซบฯที่เป็นตุณสมบัติที่หาได้ยากในตัวคนๆหนึ่ง มีอารักการที่เซบรักแจ๊สและทำให้เธอรักเซบฯไปด้วย อีกทั้งยังพร้อมที่จะเปลี่ยนตัวเองโดยการนำแพสชั่นแบบเซบฯใส่ลงไปในงานแสดงของเธอบ้าง จนเธอได้เขียนบทละครขึ้นมาเล่นเอง
Mia " People will wan to go (ที่คลับที่เซบจะเปิด) because you are passionate about it,and people love what other people passionate about. You remind people of what they forgot" สังเกตได้เลยว่าท่อนนี้มีอาไม่ได้พูดถึงคนอื่น แต่เธอพูดถึงตัวเธอเองนั่นแหล่ะ แต่เซบฯกลับตอบมีอาออกมาว่า
Seb"Not in my experience" หรือประมาณ ชั้นไม่เคยเห็นมันเลย!
ประโยคนี้แเหมือนเอาฝ่ามือตบหน้ามีอาไปฉาด จนหน้าชา ทั้งๆที่ตัวเซบฯเองนั่นล่ะที่เป็นคนจุดประกายเธอจนเธอเริ่มมาเขียนบทเอง จัดแสดงละครเวทีด้วยบทที่เธอเขียนเองด้วยแพสชั่นที่ได้รับมาจากเซบฯที่มีต่อแจ๊ส แต่เซบฯไม่เคยสังเกตหรือใส่ใจสิ่งที่เธอทำเลย บวกกับยังลืมวันเปิดตัวละครเวทีของตัวเธอเองอีก เหตุผลแค่นี้ก็เพียงพอที่จะให้มันเป็นระเบิดลูกใหญ่ที่กระชากสองคนนี้ออกจากกันโดยสิ้นเชิง เซบฯที่หมดศรัทธาต่อแจ๊ส มีอาที่หมดศรัทธาต่อเซบฯ เหตุผลเหล่านี้คงเป็นเหตุผลที่จะแก้ต่างแทนที่คนอื่นๆ(รวมถึงตัวเรา)ที่ตราหน้าว่าตัวมีอาเอง พอไม่มีคนสนใจในตัวเธอก็มักจะกระโดดไปหาผู้ชายคนอื่นเสมอได้อย่างดี สุดท้ายนี้เราก็อยากจะบอกกับมีอาเหมือนกับที่บอกกับซัมเมอร์(500 days of summer)ว่า "เราขอโทษเธอนะ"