12 ก.พ. 2021 เวลา 14:17 • ธุรกิจ
ในช่วง 2-3 วันมานี้ มีการพูดถึง Application ใหม่อย่าง Clubhouse กันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆหนาหูมากเลยทีเดียว Clubhouse คืออะไร??
1
ทำไม ยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook และ Twitter ถึงออกมาเคลื่อนไหวต่อการมาครั้งนี้
Clubhouse เป็น Application ประเภท Social Media ที่เปิดตัวเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว โดยให้ผู้ใช้งานสื่อสารกันด้วยเสียง เปิดให้สมาชิกตั้งห้อง เพื่อสร้างหัวข้อสนทนาได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นการเมือง สังคม การค้า การลงทุน กีฬา หรืออื่นๆ
โดยผู้ใช้งานสามารถเข้าไปฟังการสนทนา การสัมภาษณ์ รวมถึงฟังเพลงของคนอื่นได้ในห้องต่างๆ โดยที่แต่ละห้อง จะมีประเด็นการพูดคุยเป็นของตัวเอง และมีโฮสต์ที่จะมาแลกเปลี่ยนประเด็นต่างๆ
ความน่าสนใจของ Clubhouse อยู่ตรงที่ ระบบสมาชิกต้องมาจากการเชิญ (Invite) ของสมาชิก Clubhouse เท่านั้น ไม่สามารถสมัครแล้วใช้งานได้เลย เหมือนแอปพลิเคชันทั่วไป
การจะเข้าใช้งาน Clubhouse ถือว่าไม่ง่ายนักแต่ก็ไม่ได้ยากมาก หากเรามีเพื่อนที่ใช้งาน Clubhouse อยู่ก่อนแล้ว แค่ขอให้เขาเชิญเราเข้าไปใช้งานเท่านั้นเอง
หลักการอย่างหนึ่งที่น่าสนใจของ Clubhouse อยู่ที่ ทางผู้พัฒนาได้ขอความร่วมมือ จากผู้ใช้งาน ให้ใช้ชื่อจริง นามสกุลจริง และภาพจริง ของผู้ใช้งาน ให้เป็นภาพโปรไฟล์ ขณะที่ใช้งาน
Clubhouse กำลังเริ่มได้รับความนิยม โดยตอนนี้ สามารถระดมเงินลงทุนได้ 100 ล้านดอลลาห์ และบริษัทก็มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านดอลลาห์สหรัฐแล้ว
ล่าสุด New York Time เปิดเผยว่า Facebook ก็สนใจที่จะพัฒนา platform การแชทด้วยเสียงใหม่นี้เช่นกัน โดยเมื่อสัปดาห์ก่อน Mark Zuckerberg และทีมของ Facebook ได้เข้าร่วมแชทใน Clubhouse ซึ่ง Mark เข้าไปพูดคุยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ VR ตัวใหม่ของบริษัท
รายงานระบุเพิ่มเติมว่า ทางทีม New Product Experimentation ของ Facebook กำลังวางแผน เริ่มสร้าง platform ที่คล้ายกัน โดยใช้ชื่อว่า Fireside ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาขั้นแรก ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนชื่อโปรเจ็กต์ภายหลัง
แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลว่า Facebook จะปล่อยฟีเจอร์การแชทด้วยเสียงนี้ ภายใต้ Application เดิม หรือเปิดตัวใหม่
ด้าน Twitter เองก็เคยประกาศฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Spaces ที่ให้ผู้ใช้สามารถสร้างห้องแชทพูดคุยกันด้วยเสียง เหมือน Clubhouse
ซึ่ง Spaces ยังอยู่ในระหว่างการทดสอบที่จำกัดให้ใช้แค่คนที่ได้รับเชิญเท่านั้น ในผู้ใช้บางกลุ่มประมาณ 3,000 คน และเปิดใช้งานใน 1,000 คน
ท้ายที่สุดแล้ว ใครจะยืนอยู่บน Top สุดของวงการที่ไม่หยุดนิ่งนี้ ก็คงไม่มีอะไรเป็นตัวการันตีแน่นอนได้ พราะสุดท้ายแล้ว โลกก็พัฒนาไปเรื่อยๆ ซึ่งก็อาจจะมี Application เกิดใหม่ ผุดขึ้นมาให้ได้ใช้งานกันอีก ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
โฆษณา