13 ก.พ. 2021 เวลา 01:20 • ประวัติศาสตร์
ณ ดินแดนอันห่างไกลที่เต็มไปด้วยภูเขาและลำธาร สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมสิ่งเหนือธรรมชาติ ต้นไม้ใหญ่ทั้ง 2 สายพันธุ์ คือต้นโอ๊ก และต้นลินเดนที่เติบโตงอกเงยมาจากลำต้นเดียวกันจากความรักของคนวัยชรา !!
ย้อนกลับไปเมื่อนานมาแล้วเทพแห่งท้องฟ้านาม “จูปิเตอร์” และเทพแห่งการสื่อสารนาม “เมอร์คิวรี” โปรดปรานการจำแลงกายเป็นมนุษย์ลงมาพบปะกับผู้คนยังดินแดนต่าง ๆ และวันนี้พวกเขาอยากจะรู้ว่าดินแดนที่ชื่อ “ฟริจิอา” จะต้อนรับพวกเขาที่เป็นชายแปลกหน้าอย่างไรบ้าง
แต่ผลที่ได้กลับน่าผิดหวังเป็นอย่างมาก ตลอดเส้นทางในดินแดนแห่งนี้คงไม่ต่างจากนิยามของคำว่า “ดินแดนแห่งคนแล้งน้ำใจ” เนื่องจากบ้านนับร้อยหลังที่พวกเขาเรียกขอที่พักพิงต่างตอบปฏิเสธพวกเขาอย่างไม่ใยดี ต่อให้เป็นคนรวยมีฐานะก็ไม่ต้องการต้อนรับพวกเขาอยู่ดี
คู่ตายายที่ต้อนรับเทพทั้งสองเข้ามาในบ้าน
หลังจากที่เทพทั้งสองต้องพบเจอกับความผิดหวังในตัวมนุษย์บ้านหลังสุดท้ายในดินแดนแห่งนี้กลับเปิดประตูต้อนรับพวกเขา บ้านที่ภายนอกดูโทรมและเล็กอย่างมาก เจ้าของบ้านเป็นตายาย 2 คนที่กำลังยิ้มต้อนรับพวกเขา ภายในบ้านช่างดูสะอาดอย่างเหลือเชื่อ คนยายชื่อ “บอซิส” กับคุณตา “ฟิเลมอน” ทั้งคู่จัดที่นั่งที่นอนต้อนรับเทพทั้งสองอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
คู่รักตายายนำอาหาร และเครื่องดื่มมาเลี้ยงพร้อมพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน คู่ชราคู่นี้ไม่ลังเลที่จะนำของกินดี ๆ มาให้คนแปลกหน้า คุณตาฟิเลมอนรินไวน์องุ่นแก้วแล้วแก้วเล่าแต่รินเท่าไหร่ก็ไม่หมดเสียที นั่นคือเวทมนตร์ของเทพจูปิเตอร์ จนคู่ตายายเริ่มเอะใจขึ้นมา
การต้อนรับอย่างดีจากตายาย
คุณตาฟิเลมอนรู้ดีว่าไวน์ของตนนั้นมีรสชาติไม่สู้ดีนัก เมื่อรู้ตัวว่าตนอาจพบเจอเทพเจ้าเข้าให้แล้วจึงเสนอจะจับห่านมาทำอาหารให้ทั้งสองเป็นการไถ่โทษ แต่ด้วยความชราของบอซิสและฟิเลมอนทำให้ไม่สามารถจับห่านได้ เทพทั้งสองนั่งมองด้วยความเอ็นดูก่อนจะเผยตัวตนที่แท้จริงและกล่าวชื่นชมคู่ตายายในความใจบุญต้อนรับพวกเขาที่แปลงกลายเป็นคนแปลกหน้าจากต่างดินแดน
1
จูปิเตอร์ทำการสาปทั้งดินแดนให้เกิดน้ำท่วมก่อนจะนำคู่รักวัยชราบินเหนือท้องฟ้าและเสกวิหารขนาดใหญ่ให้ทั้งสองได้อยู่อาศัย ตาและยายขอพรต่อจูปิเตอร์ว่าพวกเขาอยู่ด้วยกันมาทั้งชีวิต และเมื่อถึงวันตายพวกเขาต้องการตายพร้อมกันซึ่งจูปิเตอร์ก็ไม่ปฏิเสธ
ต้นไม้ที่เติบโตมาด้วยกันจากความรักของตายาย
หลังจากนั้นคู่ตายายก็ได้เป็นนักบวชประจำวิหารแห่งนั้นเมื่อถึงวาระสุดท้ายของชีวิต แทนที่พวกเขาจะตายไปเหมือนคนธรรมดา ร่างกายของพวกเขากลับค่อย ๆ กลายเป็นต้นไม้ต้นเดียวกันแต่ต่างสายพันธุ์คุณยายบอซิสกลายเป็นต้นลินเดน และคุณตาฟิเลมอนเป็นต้นโอ๊ก กาลเวลาผ่านไปเนิ่นนานสิ่งต่าง ๆ โดยรอบเปลี่ยนไปยกเว้นต้นไม้อันน่าอัศจรรย์ต้นนี้ที่นำพานักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมอย่างไม่ขาดสาย
“ความรักที่บริสุทธิ์ และมีเมตตาไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ส่องสว่างได้เสมอ”
อ่านตอนอื่น ๆ คลิก
ขอบคุณข้อมูลจาก
หนังสือ ปกรณัมปรัมปรา สำนักพิมพ์อมรินทร์ (2558) หน้า 160-163
โฆษณา