16 ก.พ. 2021 เวลา 04:00
คุณเคยรู้สึกกลัวลูกของคุณไหม?
ถ้าผมจะบอกว่า “ผมกลัว…” คุณจะเชื่อไหมครับ?
ฝากเลี้ยง
“งั้นเดี๋ยวไว้โทรคุยกันนะ”
“โอเค”
ผมวางสายกับ หมิว-อดีตภรรยาเสร็จก็วางมือถือไว้บนโต๊ะ ก่อนจะหันมาแก้ไขคลิปวิดีโอในคอมต่อ พลางหันไปดู มีมี่-ลูกสาววัย3ขวบเศษเป็นระยะ ซึ่งหมิวเอามาฝากให้ผมช่วยเลี้ยงดู3-4วัน แม้เราจะเลิกกันไปแล้วด้วยดี ต่างคนต่างอยู่ก็เถอะ แต่เราก็ยินดีช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
“ปะป๊า ดู!”
“ไหนครับ” ผมหันไปตามเสียงเล็กๆเรียกให้ดูตุ๊กตาที่เจ้าตัวกำลังยิ้มกอดอยู่ “เก่งมากครับ เดี๋ยวป๊าขอทำงานแปปนะลูก”
ผมทำงานเป็นฟรีแลนส์ งานหลักๆ ก็พวกตัดต่อคลิปวิดีโอให้ลูกค้า ใส่ซับ ใส่เสียง ใส่เอฟเฟกต์ต่างๆ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีงานเข้ามามากนัก จึงหันมาเอาจริงเอาจังกับการเป็นยูทูบเบอร์ โดยใช้ประโยชน์จากสกิลส์ตัดคลิปที่ผมมีนั่นเอง
เมื่อส่งลูกเข้านอนจนหลับไป ก็พิมพ์ไลน์รายงานหมิว ซึ่งเธอก็อ่านไม่ตอบตามสไตล์
เนื่องจากผมอาศัยอยู่ในคอนโดจึงไม่มีห้องว่างสำรองให้มีมี่ มีเพียงเตียงขนาด5ฟุต พอให้เรานอนร่วมกันได้ชั่วคราว
ระหว่างที่ผมกำลังฟังเสียงอัดของตัวเองสำหรับคลิปใหม่นั้น ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับไฟล์เสียง ซึ่งมันแปลกมาก เพราะที่ผ่านมาผมไม่เคยมีปัญหากับการอัดเสียงเลย
มันมีสัญญาณคลื่นแทรกเบาๆ ในคลิปเกิดขึ้นเป็นช่วงๆ
ถ้าฟังผ่านๆ ก็คงจะไม่ทันได้สังเกตเท่าไหร่ แต่ผมค่อนข้างไม่สบายใจหากต้องอัปโหลดคลิปวิดีโอที่ไร้คุณภาพเช่นนี้ลงโซเชียลมีเดีย
เอาเป็นว่า
พรุ่งนี้ผมจะลองอัดเสียงใหม่ดูอีกรอบแล้วกัน
คืนต่อมา เมื่อมีมี่เข้านอนแล้ว ทุกอย่างเงียบสงัด
มีเพียงเสียงของผมที่พูดใส่ไมค์อยู่เท่านั้น
เมื่อผมลองฟังดูอีกครั้ง ปรากฎว่ามีเสียงแทรกเกิดขึ้นจริงๆ มันโผล่มาเป็นช่วงๆเหมือนเมื่อวาน แต่ดังกว่ามาก
ผมเร่งเสียงจนสุดเพื่อตั้งใจฟัง จนค่อนข้างมั่นใจได้ว่ามันเป็น’เสียงคนกำลังพึมพำอะไรบางอย่าง’ แต่ฟังไม่ออกจริงๆว่าพูดว่าอะไร
ผมคิดว่า ไมค์ของผมอาจจะมีปัญหาก็ได้ เลยตัดสินใจลองอัดอีกรอบหนึ่งโดยใช้ไมค์ตัวเก่าที่ยังสภาพการใช้งานดีอยู่
ปรากฎว่าคราวนี้ได้ยินเสียงแทรกชัดเจนจนน่าตกใจ
เสียงนั้นพูดกระซิบว่า
“เกลียด กูเกลียดมัน”
ถึงจะแอบกลัว แต่ด้วยความอยากรู้ว่ามันคือเสียงของใครกันแน่ แล้วมันเกิดขึ้นได้อย่างไร จึงทำให้ผมพยายามฟังต่อ...
“กูเกลียดอีหมิว”
ผมสะดุ้งโหยง ปิดจอคอมทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น
แล้วหันไปมองที่เตียงนอนด้านหลังผม
ก็นั่นมัน…
‘เสียงของลูกสาวผม’ …ไม่ใช่หรอ?
ผมพยายามไลน์ไปหาหมิว แต่เค้าไม่ตอบอะไรเลย จนกระทั่งวันรุ่งขึ้น ผมเตรียมอาหารเช้าให้มีมี่ ซึ่งลูกดูร่าเริงเป็นปกติมาก
“ปะป๊ามองอะไร”
“ครับ?”
ผมหลุดจากภวังค์เมื่อมีมี่เอ่ยถาม เดินลากตุ๊กตาเข้ามาหาผมอย่างไร้เดียงสา
แต่ผม ไม่อาจลืมเสียงที่ได้ยินเมื่อคืนได้เลย
ไม่ใช่ความฝันแน่ๆ เพราะหลักฐานก็ยังอยู่ให้เห็นตำตาคามือ
ผมตัดสินใจปลีกตัวออกมานอกระเบียงห้องในจังหวะที่มีมี่สนใจทีวีอยู่ เพื่อโทรหาหมิว
“มีอะไรผิดปกติกับลูกรึเปล่า?”
“…”
“หมิว? ตอบหน่อย”
“หมิวยุ่งอยู่ แค่นี้ก่อนนะ”
เค้าตัดสายผมแถมยังปิดเครื่องหนีอีกต่างหาก ยิ่งตอกย้ำเลยว่ามีปัญหาบางอย่างกับลูกของเราแน่นอน
เพื่อต้องการจะพิสูจน์ความจริง คืนนี้ผมจึงอัดเสียงอีกรอบหลังจากที่มีมี่นอนหลับสนิทแล้ว
แต่คราวนี้ต่างออกไป
ผมหันไมค์ไปทางเตียงนอน ในขณะที่ตัวผมเองก็นั่งพูดตามสคริปต์ในกระดาษอยู่หลังไมค์
ผมจ้องมองมีมี่ ที่นอนหลับสนิท นิ่งไม่ขยับ
ไม่ขยับแม้กระทั่งปากของตัวเอง
แต่ไมค์นั้นได้บันทึกเสียงทั้งหมดเอาไว้แล้ว
05:12 - “กูเกลียดมึง”
05:19 - “อีหมิว อีแก่”
05:30 - “ตาย”
นั่นคือสิ่งที่ผมจดได้จากการฟังคลิปเสียงในช่วง5นาทีแรกเท่านั้น ซึ่งยืนยันได้เลยว่าคือเสียงกระซิบของมีมี่ ที่ชัดเจนจนไม่รู้จะพูดว่ายังไงแล้วครับ
ทั้งๆที่นอนหลับและไม่ได้ขยับปาก แต่ทำไมถึงมีเสียงออกมาจากตัวเธอ
น้ำเสียงเคียดแค้น เอ่ยคำพูดหยาบช้าเกินกว่าเด็กวัยนี้จะรู้จัก ยิ่งทำให้ผมกลัว ไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปนอนอยู่ข้างๆ เด็กคนนั้น
ผมนั่งสัปหงกอยู่บนเก้าอี้ทำงานยันเช้า ซึ่งเป็นวันที่หมิวจะมารับมีมี่กลับไป
มีมี่ดูตื่นเต้นที่จะได้เจอหมิว ยิ้มแย้มรีบสะพายกระเป๋า เอาแต่พูดว่าคิดถึงตลอดทางที่ลงลิฟต์ไปด้วยกัน
และเมื่อเจอหมิวที่ล็อบบี้ มีมี่ก็วิ่งโผเข้ากอดแม่ของเธออย่างแนบแน่น
ผมไม่เข้าใจ
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ผมมองหน้าหมิวอย่างต้องการคำอธิบาย
รอยยิ้มเจื่อนไร้คำพูดที่เธอส่งมายิ่งทำให้ผมสับสน
เธอหันหลังเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรซักคำ
ผมยืนมองแผ่นหลังของหมิวที่เดินห่างออกไป
มือซ้ายจูงมีมี่
ส่วนมือขวาก็พิมพ์มือถือ
และเป็นเวลาเดียวกันกับที่มือถือในมือผมสั่น
มันเป็นข้อความจากหมิว
ส่งมาว่า..
‘ช่วยด้วย’
.
- The End | ฝากเลี้ยง -
โฆษณา