13 ก.พ. 2021 เวลา 03:52 • ปรัชญา
เรื่อง “คัมภีร์เก้าบุปผา”
ตอนที่ 22
ความเดิมตอนที่แล้ว
เตี่ยเมี่ยง ได้กลับมาพบกับเซียวอี้อีกครั้งและในการพบกันครั้งนี้กับเป็นการพบกันครั้งสุดท้ายเนื่องจากเตี่ยเมี่ยงถูกพิษดอกไร้รัก กัดกินหัวใจ จนสิ้นใจตาย
ประมุขอึ้งพ่อของเซียวอี้จึงได้ใช้สัญญาณเรียกเหล่ายอดฝีมือทั้ง 4 ให้มารวมกัน ณเขาหัวซานเพื่อหาวิธีการและแนวทางในการช่วยเตี่ยเมี่ยงในครั้งนี้
เมื่อเหล่ายอดฝีมือทั้ง 4 เดินทางมาถึงประมุขอึ้งจึงได้เล่าถึงอาการของเตี่ยเมี่ยงให้กับเหล่ายอดฝีมือได้ฟัง
เมื่อเหล่ายอดฝีมือเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วคงเกี่ยง ไต้ซือจึงได้แนะให้เซียวอี้พานางไปอยู่ในที่ปลอดภัยเสียก่อน
เซียวอี้จึงได้สั่งการให้เหล่าลูกศิษย์ของพรรคสุริยันจันทราก่อตั้งกองกำลังบริเวณเขาหัวซานและเร่งสร้างที่พักอาศัยค่ายต่างๆ
ทางด้านปรมาจารย์ฟงหยวนจึงได้ใช้ยอดวิชาคัมภีร์เก้าอิมจินเอ็งแปรเปลี่ยนพลังลมปราณให้กลายเป็นพลังสายเย็นถ่ายทอดเข้าสู่ร่างของเตี่ยเมี่ยงเพื่อใช้พลังความเย็นทำไม่ให้ศพเน่าเปื่อย
หลังจากนั้นเหล่าห้ายอดฝีมือจึงได้เริ่มหารือกันประมุขอึ้งได้พูดขึ้นว่าข้ามีวิธีหนึ่งที่จะสามารถช่วยนางได้คือการเปลี่ยนถ่ายหัวใจ แต่ก็มิรู้ว่าจะไปหาหัวใจได้จากที่ไหนและก็ยังไม่รู้ว่า อาศัยพวกเราแค่ 5 คนจะสามารถถอดหัวใจของคนคนหนึ่งได้หรือไม่
จอมพนันกงซุนจึงกล่าวขึ้นว่า ไม่ลองแล้วจะรู้ได้อย่างไรพวกเราทั้ง 5 คนก็เป็นยอดคนมียอดวิชาติดตัวกันคนละอย่างพลังฝีมือก็ลึกล้ำอาศัยพลังสุดยอดของพวกเรา
รวมพลังกันแค่การถ่ายโอนหัวใจไหนหรือจะทำไม่ได้
เมื่อเหล่า 5 ยอดฝีมือมีความเห็นตรงกันแล้วจึงได้คิดที่จะเริ่มการถ่ายโอนหัวใจแต่ทว่าพวกเขาดันลืมคิดไปว่า แล้วจะเอาหัวใจมาจากที่ไหนล่ะ
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงดังเสียงหนึ่ง ที่ฟังแล้วรู้ได้ถึงความจริงใจและเต็มใจ เสียงนั้นพูดขึ้นว่า “ใช้หัวใจข้าสิ”
คนผู้นี้คือ กังปิ่นนั้นเอง นางกล่าวขึ้นว่าชั่วชีวิตของข้าไม่ได้เคยทำคุณให้ใครมาก่อนเลยพ่อแม่ ก็ต้องมาเสียชีวิตญาติพี่น้อง ก็ล้มหายตายจาก อยู่มาหลายสิบปีวันนี้จึงคิดอยากจะ ทำบุญกุศลครั้งใหญ่
แต่ในใจของนางนั้น สิ่งที่ทำนี้ไม่ได้เพื่อบุญกุศลแต่ทำเพื่อ “เซียวอี้”
นางรู้ดีว่า นางไม่มีสิทธิ์ที่จะได้ครอบครอง แต่นางก็อยากที่จะทำให้คนที่นางรักมีความสุข...
1
ปรมาจารย์ฟงหยวนจึงถามนางว่า เจ้าคิดดีแล้วใช่หรือไม่...
นางจึงตอบว่าอาจารย์ข้าคิดดีแล้ว
ปรมาจารย์ฟงหยวนจึงพูดขึ้นว่าเอาล่ะในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้วอาจารย์ก็จะไม่ห้ามเจ้า
ว่าแล้วปรมาจารย์ฟงหยวนจึงใช้ดรรชนีเอกสุริยัน จี้ไปที่เส้นประสาทของนางทำให้นางสลบไปหลังจากนั้นเหล่ายอดฝีมือทั้ง 5 คนจึงมานั่งรายล้อมกันโดยมีร่างของกันปิ่นอยู่ใจกลาง
เมื่อทุกอย่างพร้อมเหล่าห้ายอดฝีมือ
ปรมาจารย์ฟงหยวน คงเกี่ยง ไต้ซื่อ
นักพรตชงซี จอมพนัน กงซุนและประมุขอึ้ง
ทั้ง 5 คนจึงเริ่มเดินพลังภายใน ลมปราณทั้ง 5 สายค่อยๆ แสดงพลังอานุภาพ ทั้ง 5 คนต่างเร่งพลังภายในขึ้นอย่างรุนแรง
พลังลมปราณนั้นได้แผ่พุ่งไปทั่วบริเวณโดยรอบ ทั้ง 5 คนเดินพลังลมปราณจนถึงขีดสุด จึงปรากฏเป็น คลื่นแสงขนาดใหญ่สาดส่องไปทั่วบริเวณท้องฟ้า เกิดแรงสั่นไหว
ไปทั่วบริเวณแผ่นดินคล้ายกับจะสั่นสะเทือน ราวกลับว่าแผ่นดินจะพลิกก็มิปาน
พลังของทั้ง 5 ยอดฝีมือรวมกัน กลายเป็นก้อนพลังหยินหยางอันมหาศาลทันใดนั้นเองหัวใจของกังปิ่นก็ลอยออกมาจากหน้าอก
จึงเป็นเหตุให้ กังปิ่นเสียชีวิต ปรมาจารย์ฟงหยวนจึงได้นำศพของนาง ไปฝังไว้ยัง ใต้ หุบเขาหัวซาน พร้อมสลักป้ายชื่อให้ไว้ว่า “วีรสตรีหญิงกังปิ่น”
เมื่อได้หัวใจมาแล้ว เหล่ายอดฝีมือทั้ง 5 จึงรีบไปหาเซียวอี้ เซียวอี้จึงได้นำร่างของเตี่ยเมี่ยงออกมา 5 ยอดฝีมือจึงได้ใช้พลังภายในอันมหาศาลอีกครั้งหนึ่ง เพื่อทำการเปลี่ยนถ่ายหัวใจ
ผ่านไปราวครึ่งท่อนวัน จนในที่สุด ก็สามารถปลูกถ่ายเปลี่ยนหัวใจได้เป็นผลสำเร็จไม่นานนักเตี่ยเมี่ยงก็ฟื้นขึ้นมา
แต่ 5 ยอดฝีมือนั้นสูญเสียพลังภายในไปเป็นจำนวนมากจึงต้องพากันนั่งสมาธิเพื่อเดินพลังลมปราณโคจรพลังให้กลับมาคงที่
เซียวอี้และเตี่ยเมี่ยงจึงได้กราบขอบคุณ ไปยังห้ายอดฝีมือเป็นอย่างสูงพร้อมขอบคุณคนที่มอบหัวใจ ดวงนี้มาให้
เซียวอี้ถามต่อไปอีกว่ามิทราบว่า ผู้ที่มอบหัวใจให้เตี่ยเมี่ยงเป็นใครกันหรือ
ปรมาจารย์ฟงหยวนจึงตอบไปว่าเป็นคนที่ประเสริฐที่สุดและเป็นคนที่ห่วงใยคนอื่นมากที่สุดยังไงล่ะ ปรมาจารย์ฟงหยวน พูดไปพลางน้ำตาก็ไหลไปด้วย
เมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดีแล้ว เซียวอี้และเตี่ยเมี่ยงจึงได้ตกลงที่จะแต่งงานกัน...
งานแต่งถูกจัดขึ้นที่เขาหัวซานโดยฝั่ง
เจ้าบ่าวมีพ่อสื่อเป็น เจ้าอินทรีย์ปีกขาว
ส่วนฝั่งเจ้าสาวมีพ่อสื่อเป็นปรมาจารย์
ฟงหยวนทั้งนี้ 3 สำนักกระบี่ก็ได้เดินทางมาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย
บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความอบอุ่นและยินดีปรีดาเป็นอย่างยิ่งทุกคนต่างเฉลิมฉลองและอวยพรคู่บ่าวสาวกันอย่างมีความสุข
ในขณะนั้นนั่นเอง ก็ได้มีคนปรากฏตัวขึ้นคนผู้นั้นก็คือหลินหลินซึ่งนางมาพร้อมกับเด็กทารกคนหนึ่งซึ่งก็คือลูกของนางกับจางต้า
นั่นเอง
นางปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับอาการที่เสียสติพูดจาฟังไม่รู้เรื่อง พร้อมกับวิ่งเข้าไปทำร้ายผู้คนภายในงานเซียวอี้เห็นท่าไม่ดีกลัวเด็กจะได้รับอันตรายจึงได้กระโจนเข้าไปแล้วสกัดจุดนางเอาไว้เพื่อให้นางขยับไม่ได้หลังจากนั้นจึงหยิบเด็กทารกออกจากมือนาง
แต่นางเองก็พยายามขัดขืนหวังจะคลายจุดให้ได้ เซียวอี้จึงได้พูดเตือนนางไปว่า หลินหลินเจ้าอย่าได้ขัดขืนเลยวิชาสกัดจุดของข้านี้ร้ายกาจยิ่งนักไม่มีผู้ใดสามารถคลายได้...
แต่นางก็ยังคงมิฟังนางจึงรวบรวมลมปราณไว้ที่ จุดเดียว นั่นก็คือบริเวณหัวใจหลังจากนั้นนางจึงทำลายชีพจรตนเองเพื่อคลายจุด ผลปรากฏว่านางชีพจรขาดกระอักเลือด
ไม่นานนักด้วยชีพจรของนางที่ขาดนางจึงค่อยๆ สิ้นลมหายใจลง ณ ที่แห่งนั้น
เซียวอี้ด้วยความเวทนาจึงได้ฝังนางไว้อย่างดี พร้อมติดป้ายสลักอักษรไว้ว่า
“สตรีผู้หลงผิด”
เมื่องานแต่งงานจบลง เซียวอี้ ที่ได้นำลูกของหลินหลินมาจึงได้ ตั้งชื่อ ให้เด็กคนนี้ว่า
“จางหมิง” และได้มอบเด็กคนนี้ ไว้ให้กับ
ปรมาจารย์ฟงหยวน
เพื่อให้ปรมาจารย์ฟงหยวน ได้สั่งสอนเด็กคนนี้ให้เป็นคนดีมีความซื่อสัตย์และเป็นยอดจอมยุทธ์ผู้ผดุงคุณธรรม
5 จอมยุทธ จึงได้มีการปรึกษาหารือกัน ว่าพวกเขาทั้ง 5 คน ก็อายุปูนนี้กันแล้ว อีกไม่นานไม่ช้าก็คงไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้ดังนั้นเหล่ายอดวิชาทั้งหลายของพวกเราก็คงต้องสาบสูญเป็นแน่แท้ดังนั้น 5 จอมยุทธจึงได้ลงความเห็นกันว่าจะถ่ายทอดยอดวิชาทั้งหมดให้กับเซียวอี้
ในช่วงแรกนั้นเซียวอี้พยายามปฏิเสธ เพราะตนเองนั้นไม่ได้ต้องการมีวิชาเพิ่มอาศัยเพียงคัมภีร์เก้าบุปผา และยอดวิชาลมปราณตะวันจันทราก็สามารถขึ้นมาทัดเทียมกับเหล่ายอดฝีมืออันดับต้นๆได้แล้ว
แต่ด้วยการขยันขยอของเหล่า 5 ยอดฝีมือ เซียวอี้จึงต้องยอมเรียนวิชา แต่โดยดี
จบตอนที่ 22
โฆษณา