13 ก.พ. 2021 เวลา 10:01 • ไลฟ์สไตล์
blogger ตัวร้ายกับ FAKE LIFE COACH
blogger ตัวร้ายกับ FAKE LIFE COACH
**คำเตือน**
บทความนี้เต็มไปด้วยภาษาพ่อขุนรามคำแหง
และความเกรี้ยวกราดของผู้เขียน
มีทั้งสาระและไม่มีสาระในเวลาเดียวกัน
กรุณาสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนอ่าน
และท่องนโม 3 จบ ก่อนที่จะพึงระลึกว่า
มันไม่ได้มีความหมายอะไรเป็นพิเศษ
เด่นชัยทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศธรรมดาๆคนนึง
เด่นชัยทำงานนี้มามากกว่า 5 ปี
แต่ไม่มีวี่แววที่เด่นชัยจะได้เลื่อนขั้นไปเป็นหัวหน้าเลย
พลอยใส หญิงสาวที่เด่นชัยคบกันมานานกว่า 3 ปี
ก็บอกเลิกกับเด่นชัย
ด้วยเหตุผลที่ว่าเค้าไม่รู้จักพัฒนาตัวเอง
การใช้ชีวิตนั้นถูกคนทั่วไปเรียกว่า Loser
เนื่องจากเขาเป็นคนที่ชอบโยนความผิดให้กับทุกอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเลวร้ายอะไรที่เกิดขึ้นในชีวิต
เด่นชัยมักจะบอกว่านั้นเป็นความผิดคนอื่นไม่ใช่เค้า
แต่จากที่หลายๆ คนมองเห็นก็บอกได้เลยว่า
ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะความผิดของเค้าเอง….
เด่นชัยจากตอนแรกที่ไม่เชื่อว่าตัวเองเป็นพวก Loser
พอฟังนานๆ ไปก็เริ่มที่จะรู้สึกว่าตัวเองเป็นแบบที่คนเค้าว่าจริงๆ
เด่นชัยจึงคิดว่า ไม่ได้การแล้วเขาจะต้องเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง
เพื่อทำให้ตัวเองมีอนาคตที่ดีกว่าที่เคยเป็น
เด่นชัยเริ่มจากหาข้อมูลการพัฒนาตัวเองต่างๆ ในอินเทอร์เน็ต
จากคำแนะนำของสมศักดิ์คนที่เป็นหัวหน้างานของเขา
รวมถึงอ่านหนังสือและฟัง Podcast ดีๆ อยู่เป็นประจำ
เพื่อหวังว่าแรงบันดาลใจดีๆ เหล่านั้น จะช่วยเปลี่ยนแปลงเขาได้
ในตอนแรกเด่นชัยฟังพวก Podcast หรืออ่านบทความแล้วไม่อินเท่าไหร่
แต่ดูเหมือนว่าสุดท้ายแล้วหัวใจที่หยาบกระด้างของเขา
ก็ได้เหมือนกับมีน้ำบริสุทธิ์เข้ามาหล่อเลี้ยงจิตใจจนได้
1
เด่นชัยเริ่มซาบซึ้งเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ของคนดังๆ ทั้งหลาย
โดยเฉพาะ Podcast ของ Blogger ตัวร้ายที่เป็นไลฟ์โค้ชพัฒนาตัวเอง
เด่นชัยตั้งใจและพยายามที่จะพัฒนาตัวเองให้ได้อย่างที่โค้ชบอก
เด่นชัยไม่เพียงแค่ลงมือทำแบบครึ่งๆ กลาง
เขานั้นใช้ปากกาและสมุดจดบันทึกถึงรายการสิ่งที่ต้องทำ
รวมทั้งจับเวลาในการทำงานของเขาอย่างละเอียด
ใช้เวลาในการอ่านหนังสือทั้งหมด 28 นาที 10 วินาที
ใช้เวลาในการเก็บหนังสืออีก 0.25 วินาที
ใช้เวลาในการสรุปว่าตัวเองได้อะไรจากหนังสืออีก 5 นาที 48 วินาที
1
ทั้งหมดนั้นเหนื่อยและแสนยุ่งยาก
แต่เด่นชัยก็ยังตั้งใจที่จะพัฒนาตัวเองแบบนี้ต่อไป
ถึงแม้ว่าในบางครั้งแล้ว
เด่นชัยจะถูกหัวเราะเยาะจากคนรอบข้าง
เด่นชัยนึกถึงคำคมของ Blogger ตัวร้ายที่เคยพูดเอาไว้
“อย่าให้ใครมาหยุดยั้งความสำเร็จของคุณ”
ถ้อยคำอันเกรี้ยวกราดของไลฟ์โค้ช Blogger ตัวร้าย
ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนให้กับตัวเขาอยู่เสมอ
ไม่ว่าตอนนั้นจะมีอุปสรรคอะไรขึ้นมา
เด่นชัยก็จะนึกถึงสิ่งที่ตัวเองเรียนรู้มาจากหนังสือ
และคำคมทั้งหลายที่เห็นตามหน้า social media
2
เมื่อเจออุปสรรคและปัญหาในการทำงาน
“จงเรียนรู้จากความผิดพลาด แล้วพัฒนาตัวเองต่อไปข้างหน้า”
2
เมื่อเจอปัญหาในที่ทำงานจากเพื่อนร่วมงาน
“เราไม่มีทางเปลี่ยนคนอื่นได้ สิ่งที่เราต้องทำคือเรียนรู้และเปลี่ยนตัวเอง”
1
เมื่อเจอปัญหาในเรื่องของแบ่งเวลาใช้ชีวิต
“งานไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต แบ่งเวลาให้กับตัวเองบ้าง”
1
ไม่นานมากนักอาจเพราะว่าเด่นชัยหัวไว
หรือไม่ก็ไลฟ์โค้ชที่เด่นชัยเป็นคนเก่งมีความสามารถ
เด่นชัยจึงค่อยๆ เปลี่ยนตัวเองจาก Loser
ขึ้นมาอยู่ในฝั่งของ Winner ได้บ้าง
สมศักดิ์สัญญากับเด่นชัยว่า
สิ้นเดือนนี้จะลองเสนอของเพิ่มเงินเดือนให้กับเด่นชัย
เพราะว่ามีการพัฒนาที่ออกมาในแง่บวกเป็นอย่างมาก
เด่นชัยรู้สึกดีใจที่ตัวเองได้พัฒนาตัวเองมาถึงจังหวะนี้
เขามีแผนที่จะลงเรียนคอสพัฒนาตัวเองจาก Blogger ตัวร้าย
ที่มีราคาแพงมากแบบไม่มีเหตุผล แต่เขาก็อยากจะเรียน
สุดท้ายแล้วเด่นชัยก็เสียเงินมากกว่า 1 แสนบาท จากการลงเรียน
1
เด่นชัยไม่มีเงินมากขนาดนั้นหรอก
เงินเก็บของเขารวมๆ กันแล้วไม่ถึง 5 หมื่นด้วยซ้ำ
เด่นชัยหาเงินที่เหลือโดยการขอยืมเงินคนอื่นมา
1
หลายๆ คนอาจมองว่าเป็นเพียงแค่เรื่องโง่ๆ ที่ทำแบบนั้น
แต่เด่นชัยเชื่อในคำสอนของไลฟ์โค้ช Blogger ตัวร้าย
ว่าความรู้นั้นมีค่ามากมายกว่าเงินทองมากนัก
ถ้าไม่มีเงินจ่ายก็สามารถผ่อนได้ที่เดือนละ 5 พันบาท
เด่นชัยเตือนเต้นมากกับการเรียนคอสสอนในครั้งนี้
นี่มันเป็นครั้งแรกที่เขาได้เข้าร่วมงานสัมมนาอะไรใหญ่ๆ แบบนี้
และทำให้เข้าได้พบกับไอดอลที่เขาอยากจะเจอมาตลอด
Blogger ตัวร้าย ออกมาพร้อมกับพูดสร้างแรงบันดาลใจ
ว่าจากคนตกงานเร่ร่อน ไม่มีเงินแม้แต่จะซื้อข้าวกิน
กลายเป็นคนที่ทำสามารถทำรายได้มากกว่า 1 ล้านบาทต่อเดือน
โดยยังย้ำกับทุกคนอีกว่า ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้เหมือนตนนั่นเอง
เด่นชัยรู้สึกปลาบปลื้มกับงานสัมมนาในครั้งนี้มาก
จึงทำการซื้อคอสครั้งต่อไปในราคาพิเศษเพียงแค่ 50 เปอร์เซ็นต์
จากราคาเต็มที่ 2 แสนบาท ลดเหลือเพียงแค่ 1 แสนบาท
เด่นชัยหายืมเงินจากคนรอบตัวอีกครั้ง
คราวนี้ไม่มีใครให้เงินเด่นชัย
แน่นอนว่าเด่นชัยจึงไปกู้เงินธนาคาร
และแน่นอนว่าธนาคารไม่อนุมัติเพราะว่าไร้เหตุผลเกินไป
เด่นชัยรู้สึกหัวเสียกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
ทำไมถึงต้องห้ามไม่ให้พัฒนาตัวเองกันด้วย
การพัฒนาตัวเองเป็นทั้งชีวิตและจิตใจของเขา
การทำแบบนี้มันคือการขัดขวางอนาคตของเขา
ค่าเรียนมันแพงก็เพราะว่าคลาสสอนมันดี
ถ้าไปเรียนแล้วเด่นชัยมั่นใจอย่างยิ่งเลยว่า
จะต้องหาเงินมาคืนได้ภายในเวลาไม่กี่เดือนแน่นอน
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรธนาคารก็คงไม่อนุมัติให้คนเอาเงินไปเรียนคอสแน่ๆ
เด่นชัยจึงออกมาในสภาพของคนหัวเสีย
ไม่ได้ละ ต้องนึกถึงคำคมเท่ๆ ที่เคยได้ยินมา เพื่อที่จะได้ใจเย็นลง
“ความผิดพลาดทุกอย่าง เป็นอุปสรรคที่ทำให้เราได้พัฒนาตัวเอง”
1
อืม เข้าใจแล้ว เราคงต้องพยายามหาทางอื่นสินะ
เด่นชัยคิดแบบนั้นกับตัวเอง
วิธีการที่เด่นชัยใช้คือการเอารถส่วนตัวของตัวเองไปขาย
แล้วใช้วิธีการเดินทางไปทำงานคือเดินเป็นหลัก
วิธีการนี้ทำให้เด่นชัยจากเดิมที่ใช้เวลา 1 ชั่วโมง
ในการเดินทางไปทำงานแต่ละวัน
เหลือเพียงแค่ 30 นาที เนื่องจากไม่ต้องทนจากรถติด
เด่นชัยคิดว่าวิธีการแบบนี้ช่วยเพิ่มอิสระให้กับเค้าบ้าง
แถมยังได้เวลาทักทายกับร้านค้าต่างๆ และผู้คนที่เดินผ่านไปมาด้วย
เด่นชัยได้ไปลองคอสเรียนสมใจอย่างที่ตัวเองต้องการ
ในวันต่อมาที่เด่นชัยกำลังจะเดินทางไปเรียนคอส
ทำให้เด่นชัยต้องใช้เส้นทางการเดินที่ไม่ปรกติต่างจากเดิม
เส้นทางนั้นมีความแตกต่างจากเส้นทางเดิมๆ ของเด่นชัยมาก
มันทั้งแคบ สกปรก เต็มไปด้วยชนะและงานอาร์ตที่หาความสวยงามไม่ได้
แถมระหว่างทางยังดูอันตรายจนเหมือนจะถูกกระชากไปขายตูดได้ทุกเมื่อ
1
เด่นชัยพยายามเร่งฝีเท้าเพื่อให้เดินผ่านเส้นทางเหล่านี้ได้ไวมากที่สุด
พรวด
เด่นชัยเดินหยิบกระเบื้องกับระเบิด ที่เวลาเหยียบแล้วจะมีน้ำสกปรกกระเด็นออกมา
ขากางเกงตัวโปรดของเด่นชัยมูลค่ามากกว่า 5 พันบาท เปื้อนสกปรกเป็นอย่างมาก
เด่นชัยอยากจะเดินกลับหอไปเปลี่ยนกางเกง แต่คิดว่าเดินมาไกลมากแล้ว
จึงเลือกที่จะเดินต่อไปและหาวิธีจัดการปัญหาข้างหน้า
ดังคำกล่าวที่ว่า
“เราไม่รู้ว่าข้างหน้าจะมีปัญหาอะไรบ้าง เพราะฉะนั้นจงมั่นใจและเดินต่อไปเถอะ”
1
เด่นชัยยังเดินตรงต่อไป ด้วยทัศนคติที่เป็นแง่บวก
1
พรวด!!
เด่นชัยเหยียบกับระเบิดอีก 1 อัน
เค้าโทษว่าเป็นความผิดของตัวเอง ที่ไม่ระวังและเดินไม่ดุให้ดีซะก่อน
แต่เนื่องจากกระเบื้องมันเหมือนกันหมด
เพราะอย่างนั้นเด่นชัยจึงเสียเวลาอย่างมาก
ในการใช้เวลาที่จะเดินทางมาถึงสถานที่
1
เด่นชัยแอบคิดว่าน่าจะขึ้นรถไฟฟ้า BTS หรือไม่ก็เรียก Taxi จบๆ ไปซะ
แต่กางเกงของเขาเหม็นเกินกว่าจะขึ้นรถไฟฟ้า
เพราะอาจสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นได้
และระยะทางที่เหลืออีกไม่มากเท่าไหร่ พร้อมกับที่หากเรียกขึ้นรถแล้วนั้น
อาจต้องยูเทริน์เป็นระยะทางที่ไกล ซึ่งอาจต้องเสียเงินมากเกินไป
ถึงเค้าจะหัวเสียแต่ก็ยอมรับว่าตัวเองพลาดเอง
เด่นชัยเดินทางไปถึงยังสถานที่จัดงานจนได้
ในงานเต็มไปด้วยเหล่านักธุรกิจ
ใส่เสื้อผ้าที่ดูดีแล้วก็แพงมากกว่าครั้งที่แล้วมากนัก
อาจเพราะราคาค่าเรียนของคอสนั้น
ช่วยคัดกรองคุณภาพคนได้อย่างดี
ต้องแบบนี้ละ ที่เราจะได้มีโอกาสขยายคอนเน็คชั่น
เพื่อเพิ่มโอกาสและยกระดับสังคมของเรา
เด่นชัยเดินเข้าไปทักทายตามรูปแบบที่ไลฟ์โค้ชเคยสอนเอาไว้
แต่ดูจากสภาพของเด่นชัยทั้งหมด
ขากางเกงเปื้อนน้ำเน่า สภาพเหงื่อที่ท่วมเต็มด้วย
จากสภาพอากาศที่โคตรร้อนของประเทศไทย
1
และด้วยท่าทางบ้านนอก
จึงทำให้ไม่ค่อยมีใครอยากคุยเท่าไหร่
ตอนนี้เด่นชัยรู้สึกเฟลหนักขึ้นไปอีก
รู้งี้น่าจะกลับไปเปลี่ยนชุดก่อนออกมาดีกว่า
ถึงอย่างไรก็ตามเด่นชัยมาถึงตรงนี้แล้ว
ก็ต้องเลยตามเลยไปก่อนก็แล้วกัน
จนถึงตอนนั้นสายตาของเด่นชัยไปสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง
ผู้หญิงรูปร่างที่คุ้นเคย เสื้อผ้าท่าทางที่คุณเคย
พลอยใสแฟนเก่าของเด่นชัย
เธอมาที่นี่ด้วย?
เด่นชัยคิดในใจ
แต่ปัญหาก็คือพลอยใสเดินอยู่ข้างๆ กับสมศักดิ์
ชายผู้ที่เป็นหัวหน้าและกำลังคุยอยู่กับไลฟ์โค้ช
Blogger ตัวร้าย ที่เขาตั้งใจฟังคอสสอนอย่างดี
ทั้ง 3 คน มายืนทำอะไรอยู่พร้อมกัน
ใจจริงเด่นชัยอยากเดินเข้าไปพูดคุยกับเธอ
แต่เนื่องจากสภาพของตัวเองแล้วนั้น
จึงทำให้ไม่กล้าออกไปพูดเท่าไหร่
เด่นชัยจึงแอบฟังอยู่ไกลๆ
เด่นชัยได้ยินพลอยใสพูดคุยกับสมศักดิ์อย่างออกรส
บทสนทนาแสนหวานชวนฝัน
เหมือนกับที่เคยคุยกับเขา
ทั้งสองคนนั่นกำลังคบกันอยู่!
ทำไม ทำไมทั้งสองคนถึงทำกับเขาแบบนี้
ระหว่างที่ความสงสัยกำลังเกิดขึ้นในใจของเขา
เขาก็ได้ยินบทสนทนาบางอย่างของสมศักดิ์กับไลฟ์โค้ช
“ลูกน้องกู คนที่แนะนำมาวันนั้น แม่งลงทุนขายรถมาเรียนกับมึงเลยนะ กูละไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามีคนจ่ายเงินแสนบาทเพื่อมาฟังคนที่เรียนไม่จบอย่างมึงสอนในเรื่องที่พวกมันรู้อยู่แล้วแต่ไม่ยอมทำด้วย”
“กูก็ว่า แต่ไอ่งานนี้เงินดีมากเลยนะมึง กูขึ้นเวทีวันเดียวได้เงินมาหลายล้านเลย”
“แฟนเก่าหนูมันโง่ค่ะพี่ หนูก็เลยเปลี่ยนมาคบพี่สมศักดิ์แทน ไม่งั้นชาติหน้าไงก็ไม่มีอนาคตแน่นอน”
“ไอ่โง่นั้นมันโง่ขนาดนี้เลยหรอวะ เอาเถอะถ้าไม่โง่ขนาดนี้คงไม่ยอมขายรถมาซื้อคอสเรียนโง่ๆ นี่แหละ”
1
เด่นชัยได้ฟังแล้วรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก
คำคมทุกอย่างที่อยู่ในหัวปลิวหายหมด
เขาเดินตรงไปยังบุคคลทั้ง 3
ก่อนที่จะสวมวิญญาณวัวขาวชกใส่เข้าเต็มหน้าของสมศักดิ์
และเตะก้านคอใส่ไลฟ์โค้ช Blogger ตัวร้ายอีกที
หลังจากนั้นจึงกระดดดขึ้นคร่อมสมศักดิ์
คนที่แย่งแฟนของเขาไปแล้วกระหน่ำต่อยใส่ไม่ยั้ง
1
พลอยใสได้แต่ยืนตกใจจนไม่กล้าทำอะไร
ยืนมองทั้งสองคนที่โดนเด่นชัยกระทืบลงตรงนั้น
เด่นชัยต่อยจนเหนื่อย
เขาค่อยลุกขึ้นมามองหน้าพลอยใส
ก่อนที่จะเริ่มต้นพูดอะไรบางอย่างออกมา
“คนบางคนไม่มีค่าแม้แต่จะให้เสียใจด้วย..”
1
เด่นชัยเช็ดมือก่อนจะเดินออกมาจากงาน
ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่มองมาอย่างตกตะลึง
ในตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่เด่นชัย
ได้รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็น winner อย่างแท้จริง..
โฆษณา