EP.3 เรื่องราวของหญิงสาวที่อยู่ใต้น้ำเป็นเวลา 3 ปี
ทะเลสาบเครสเซนต์ ทะเลสาบที่ถือได้ว่าเป็นความฝันของคนรักธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติโอลิมปิก รัฐวอชิงตัน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของรัฐวอชิงตันไป
27 กิโลเมตร มีระดับความลึกสูงสุดที่ 180 เมตร ถือว่าลึกทีเดียว ทะเลสาปแห่งนี้มีน้ำที่ใสมาก และมียอดเขาหิมะที่สะท้อนลงในทะเลสาบ เป็นธรรมชาติที่ดีมากๆ
ทะเลสาปเครสเซนต์
และในวันที่ 6 กรกฎาคม 1940 น้ำของทะเลสาบแห่งนี้ก็ยังคงเงียบสงบเหมือน
ทุกวัน ช่วงเวลาบ่ายๆขณะที่อากาศและท้องฟ้ากำลังเป็นใจ พี่น้อง หลุยส์และพี่ชายของเขาได้มาที่ทะเลสาบแห่งนี้เพื่อออกเรือตกปลาในทะเลสาปแห่งนี้ ในขณะกำลังลอยเรือตกปลาอยู่นั้น พวกเขาได้ล่องไปเห็นบางสิ่งบางอย่างลอยอยู่ใกล้กับชายฝั่งไม่ไกลจากที่เรือพวกเขาอยู่
พวกเขาทั้งสองเลยตัดสินใจ พายเรือเข้าไปใกล้สิ่งนั้น พอพวกเขาได้เห็นมันถึงกับ
ก็ตกใจเมื่อพบว่าเป็นร่างคน แต่มองเผินๆก็คล้ายสัตว์ พวกเขาจึงรีบขึ้นฝั่งไปที่ท่าเรือของโรงฟักปลาเทราต์ที่อยู่แถวนั้นเพื่อบอกสิ่งที่พวกเขาเห็นกับผู้จัดการโรงฟักปลาเทราต์
เธอสวมชุดสีเขียวและห่อด้วยผ้าห่มลายทางสีเทาสองผืน
ทีแรกผู้จัดการไม่เชื่อพวกเขาและถามพวกเขาว่า “มันเป็นกวางรึป่าว”
แต่พี่น้องบอกว่า เธอสวมชุดสีเขียวและห่อด้วยผ้าห่มลายทางสีเทาสองผืน
สภาพตอนนำศพขึ้นมาทะเลสาป
จากได้ฟังที่พี่น้องบอกผู้จัดการก็ตามทั้งคู่ไปยังที่เกิดเหตุ จึงพบว่าสิ่งที่ทั้งสองคนพูดนั้นเป็นความจริง ผู้จัดการรีบติดต่อเจ้าหน้าที่ทันที ซึ่งไม่นานเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบทั้งหมดได้ช่วยกันดึงร่างของผู้หญิงคนนั้นขึ้นมาจากทะเลสาป และเจ้าหน้าเก็บหลักฐานแล้วนำศพไปชันสูตร
ร่างของเธอขาวซีดราวกับหินอ่อน สันนิษฐานว่าเธอน่าจะอายุประมาณ 30 ปี ใบหน้าส่วนบน ริมฝีปากด้านบนและจมูกเละ จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบยากขึ้นส่วนร่างกายของเธออยู่ในสภาพดีไม่มีกลิ่นและไม่มีร่องรอยการย่อยสลาย เนื่องจากน้ำในทะเลสาปเย็น ที่น่าแปลกคือด้วยปฎิกิริยาทางเคมี ทำให้ร่างกายของเธอกลายสภาพเป็นสารคล้ายสบู่ แต่ส่วนมือของเธอถูกย่อยสลายไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบว่าเธอเป็นใครจากลายนิ้วมือได้และไม่สามารถดูจากใบหน้าได้เช่นกัน
Hallie Latham Illingworth
จากการชันสูตรได้ข้อสรุปว่าผู้หญิงคนนั้นถูกทุบตีและถูกรัดคอจนตาย
หลังจากที่เธอเสียชีวิตแล้ว เธอถูกมัดด้วยเชือกอีกด้านผูกกับก้อนหิน และโดนโยนลงไปในทะเลสาปแห่งนี้เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า เชือกก็เริ่มเปื่อยและขาด ร่างของเธอก็ลอยขึ้นมาสู่ผิวน้ำ นักพยาธิวิทยาได้ตรวจสอบและคาดว่าเธอน่าจะถูกถ่วงน้ำอยู่ในทะเลสาปแห่งนี้เป็นเวลา 3 ปี และเนื่องจากเธอเป็นคนแรกที่เสียชีวิตในทะเลสาปแห่งนี้ เธอจึงได้ถูกขนานนามว่า “The Lady of the Lake”
ข่าวการพบศพ
การสืบสวนเริ่มต้นขึ้น ตำรวจทำงานอย่างหนักเพื่อสืบหาว่าเธอคนนี้คือใครโดยใช้เวลาทั้งหมด 14 เดือนเลยทีเดียว จากการตรวจสอบฟันของเธอพบว่ามีฟันที่ทำจากทองอยู่ ซึ่งค่อนข้างมีลักษณะเด่น ตำรวจจึงได้ส่งรูปฟันอันนี้ออกไปยังหมอฟันกว่า 5000 คน เพื่อสำรวจว่ามีใครสามารถให้ข้อมูลฟันแบบนี้ได้
หมอฟันใน ฟอล์คตัน รัฐเซาท์ดาโกตาร์ รีบติดต่อมาทันที และให้ข้อมูลว่า ผู้ที่มีประวัติฟันตรงกับภาพที่ตำรวจส่งมา เป็นเด็กเสิร์ฟอายุ 38 ปี ชื่อ “ ฮอลลี่ อิลลิงเวิร์ท “ที่ทำงานอยู่ในโรงแรมเล็กๆเเถวทะเลสาปเครสเซนต์
ตำรวจจึงได้ติดต่อไปหาเพื่อนของฮอลลี่ ซึ่งเพื่อนของเธอไปถึงก็ยืนยันว่าเสื้อผ้าที่ศพใส่นั้นเป็นของฮอลลี่
ฮอลลี่เกิดเมื่อวันที่ 8 มกราคม 1901 เธอหย่ามาแล้วสองครั้งและย้ายถิ่นฐานไปมาจนมาทำงานที่โรงแรมแถวทะเลสาปเครสเซนต์ ซึ่งทำให้เธอได้พบกับ “ มอนตี้ อิลลิงเวิร์ท ”และแต่งงานกันเป็นสามีคนที่สาม ในวันที่ 16 มิถุนายน 1936 ก่อนที่ภายหลังจะหย่ากันในปี 1937
มีรายงานว่าฮอลลี่ ถูกพบครั้งสุดท้ายในวันที่ 22 ธันวาคม 1937 ตอนเธอกำลังกลับอพาทเมนต์ไปรอสามีใหม่ของเธอที่กำลังไปปาร์ตี้อยู่ที่ พอร์ท ทาวเซนต์
Monty Illingworth with mother (left), Flossie Illingworth, and current wife (right), Elinor Illingworth
มอนตี้ทำงานเป็นคนขับรถขนเบียร์และเป็นคนที่เวลาเมาแล้วค่อนข้างเป็นบุคคลอารมณ์ฉุนเฉียวอารมณ์ร้าย หึงหวง ตำรวจเลยสงสัยว่ามอนตี้เป็นผู้สงสัยในคดีฆาตกรรมภรรยาของเขา ตำรวจตามหามอนตี้และพบว่าเขาอาศัยอยู่กับผู้หญิงอีกคนหนึ่งในลองบีช รัฐแคลิฟอเนีย ตำรวจเลยทำการเข้าจับกุม “ มอนตี้ อิลลิงเวิร์ท ”
ตอนที่ยังคบหากัน พวกเขาทั้งคู่ทะเลาะกันเรื่องการดื่มสุราและเรื่องชู้สาวบ่อยครั้ง ในระหว่างการทะเลาะวิวาทกันครั้งหนึ่ง ตำรวจถูกเรียกมาและพบว่าฮอลลี่มาแจ้งความด้วยแผลฟกช้ำตามตัวมากมาย อีกทั้งฮอลลี่ยังเคยไปทำงานที่ร้านอาหารในโรงแรมด้วยหน้าตาและเเขนที่เขียวช้ำ เเถมยังมีรอยช้ำที่เบ้าตาของเธออีกด้วย
คำให้การของ Monty บอกว่าผู้หญิงที่ตายไปนั่นไม่ใช่ ฮอลลี่ และเขาสาบานว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ เขาเห็นเธอครั้งสุดท้ายเมื่อไม่กี่วันนี้เอง แต่ทันตแพทย์จากเซาท์ดาโคตาเป็นพยานที่น่าเชื่อถือและเขายืนยันว่าแผ่นฟันที่พบในหญิงสาวที่ถูกฆาตกรรมนั้นเป็นของฮัลลี ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อน ๆ ของเธอระบุว่าเสื้อผ้าที่หญิงตายสวมใส่เป็นของ ฮอลลี่ หลักฐานสำคัญคือเชือกที่ใช้มัดตัว ฮอลลี่ ก่อนที่เธอจะถูกทิ้งลงใน Lake Crescent
อีนอส ผู้จัดการบริษัท Port Angelles Distributing ได้ระบุว่ามอนตี้เขาได้มายืมเชือกที่ยาว 15 เมตรเส้นนี้ไป และมอนตี้ก็ไม่ได้เอามาคืนเขา
ในระหว่างการพิจารณาคดีฆาตกรรม สุดท้ายมอนตี้รับสารภาพต่อหลักฐาน
อ้างว่าเขากับ ฮอลลี่ได้มีปากเสียงกันและต่อสู้กันมอนตี้ได้ทำการพลั้งมือบีบคอและทุบตีจนฮอลลี่เสียชีวิต เขาจึงนำศพห่อผ้าปูที่นอนใช้เชือกมัดและนำไปอำพรางที่ทะเลสาปเครสเซนต์
คณะลูกขุนใช้เวลาสี่ชั่วโมงกว่าจะมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2485 คณะลูกขุนพบว่า “ มอนตี้ อิลลิงเวิร์ท ” มีความผิดจริงฐานฆาตกรรมโดยไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน เขาถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตที่เรือนจำรัฐวอชิงตันในวัลลาวัลลา เขารับโทษถูกคุมขัง ต่อมาเขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2517
💫 อ่านจบแล้วอย่างลืมกด Like กดติดตามเพื่อเป็นกำลังในการสร้างงานต่อไป
ข้อมูลต่างๆที่เรานำมาเสนอได้โปรดใช้วิจารณญาน ข้อมูลส่วนไหนผิดพลาดประการใด ทางเราขออภัยมา ณ ที่นี้ ทางเราไม่มีเจตนาใส่ร้ายป้ายสีหรือว่าร้ายใครใดๆทั้งสิ้น สามารถเพิ่มเติมข้อมูลใหม่ๆของเรื่องนี้ได้ที่ Comment ครับ
อ่านให้สนุกนะครับ ❤️
Reference. ✨
- 16
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
