15 ก.พ. 2021 เวลา 12:37 • การ์ตูน
“ เมื่อ Snow White ในเวอร์ชั่นแรก ไม่ได้ใสเหมือนที่เราเคยรู้จัก "
1
หลาย ๆ คนคงเคยดู หรือเคยอ่าน "สโนไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด" ของค่าย Walt Disney กันนะคะ เนื้อเรื่องก็จะประมาณว่า "แม่เลี้ยงใจร้ายพยายามจะฆ่าสโนไวท์เพราะอิจฉาในความงามของนาง จึงสั่งให้นายพรานไปฆ่าสโนไวท์และนำหัวใจมาให้เพื่อยืนยันว่าสโนไวท์ตายแล้ว แต่นายพรานดันเกิดความสงสารจึงปล่อยสโนไวท์ไปให้หนีเข้าป่า แล้วก็เจอกับเหล่าคนแคระทั้งเจ็ด คนแคระก็สงสารจึงให้นางอาศัยอยู่ด้วย พอแม่เลี้ยงรู้ว่าสโนไวท์ยังมีชีวิตอยู่จึงปลอมตัวเป็นหญิงแก่นำแอปเปิ้ลอาบยาพิษไปหลอกล่อให้สโนไวท์กิน สโนไวท์กินเข้าไปจึงตาย เมื่อคนแคระมาพบว่าสโนไวท์ตายจึงรีบตามตัวแม่เลี้ยง แม่เลี้ยงก็ดันพลาดตกหน้าผาลงมาตายเอง คนแคระกลับมาจัดงานศพให้สโนไวท์และทำโลงแก้วให้สโนไวท์ ทันใดนั้นเจ้าชายผ่านมาและพบสโนว์ไวท์นอนอยู่ในโลงแก้วรู้สึกตกหลุมรักจึงจุมพิตนาง แล้วนางก็ฟื้นขึ้นมา จากนั้นก็แต่งงานกับเจ้าชายและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข"
สโนไวท์กับเจ้าชาย
ซึ่งแน่นอนนี่คือเนื้อเรื่องที่เราเคยดูและรู้กันอยู่แล้ว แต่วันนี้เรื่องสโนไวท์ที่เราจะหยิบมาเล่า เป็นเวอร์ชั่นของพี่น้องตระกูลกริมส์ "Wilhelm Grimm" และ "Jacob Grimm" จากหนังสือ "Grimms' Fairy Tales" ซึ่งนิทานหลาย ๆ เรื่องในเวอร์ชั่นเดิมที่พี่น้องกริมม์แต่งเอาไว้จะมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะต่อเยาวชน เด็กและสตรี เพราะมีแต่ความรุนแรง โหดร้าย บางเรื่องมีความทารุณทางเพศ ว่ากันว่าตอนที่กริมม์แต่งนิทานแต่ละเรื่องขึ้นมา ไม่ได้มีจุดประสงค์จะให้เป็นนิทานสำหรับเด็กเหมือนอย่างปัจจุบันนี้ ทางสำนักพิมพ์จึงให้เอาไปแต่งใหม่ ก่อนที่จะถูกดัดแปลงให้สะอาดและทอนเนื้อหาที่รุนแรงโหดร้ายลง จนกลายเป็นเนื้อเรื่องแบบที่เราได้รับรู้กันในทุกวันนี้ค่ะ
1
Wilhelm Grimm และ Jacob Grimm
สโนไวท์ เป็นนิทานพื้นบ้านที่มีแรงบรรดาลใจจากเค้าโครงเรื่องจริงของรัสเซีย พูดถึงเด็กสาวรูปงาม ผิวขาว ปากแดง ผมดำตามแบบสาวรัสเซีย สูงยาว เข่าดี ตาฟ้า เนื้อเรื่องเวอร์ชั่นนี้มีอยู่ว่า
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีราชินีองค์นึงกำลังนั่งปักผ้าอยู่ที่ริมหน้าต่างที่ทำจากไม้มะเกลือสีดำสนิท วิวด้านนอกมีหิมะสีขาวตกโปรยปรายลงมา จนทำให้ข้างนอกมีแต่สีขาวโพลน ด้วยความที่ราชินีมัวแต่เหม่อมองไปที่นอกหน้าต่าง (ซึ่งในความจริงแล้วก็ควรจะโฟกัสอยู่กับการปักผ้า) ทำให้เข็มตำไปที่นิ้วของราชินี จนเลือดไหลและหยดลงไปที่ขอบหน้าต่างที่มีหิมะปกคลุมอยู่ หลังจากนั้นก็ทำให้ราชินีคิดว่า เลือดที่หยดลงบนหิมะมันช่างสวยงามเหลือเกิน ตนปรารถนาจะมีลูกสาวที่มีผิวขาวผุดผ่องราวกับหิมะ มีผมสีดำเข้มดั่งไม้มะเกลือ และมีปากสีแดงสดราวกับเลือดของนางที่หยดออกมา
6
หลังจากนั้นราชินีก็ได้ตั้งท้องขึ้นมาจริง ๆ และให้กำเนิดลูกสาวขึ้น และก็มีรูปร่างหน้าตาอย่างที่นางได้ปรารถนาเอาไว้ นางก็ได้ตั้งชื่อลูกของนางว่า "สโนไวท์" เจ้าหญิงที่ขาวดุจหิมะ แต่นางก็ได้สิ้นพระชนม์ลงในวันที่ให้กำเนิดสโนว์ไวท์ขึ้นมาเลย
Snowwhite
วันเวลาผ่านเลยไปเจ้าหญิงสโนไวท์ก็ได้อาศัยอยู่กับพระราชบิดาต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งพระราชาได้มีพระราชินีองค์ใหม่มาเป็นแม่เลี้ยงให้กับสโนไวท์ ทำให้เธอเก็บกดมาก เนื่องจากแม่เลี้ยงใจร้ายแย่งความรักจากพ่อไปหมด แถมตัวเองก็กลายมาเป็นคนใช้ในวังแทนที่เธอจะมีสิทธิ์ครองราชย์ต่อจากพระบิดา
พระราชินีองค์ใหม่เป็นคนที่มีรูปร่าง หน้าตาสวยมาก และหลงไหลในความสวยของตัวเองที่สุด พระนางมีกระจกวิเศษอยู่บานนึง บ่อยครั้งที่พระนางชอบถามคำถามกับกระจกวิเศษว่า "กระจกวิเศษ จงบอกข้าเถิด ใครงามเลิศที่สุดในปฐพี" และทุกครั้งกระจกวิเศษก็จะตอบว่า "พระนางนี่แหละ พระราชินีของข้า ท่านคือผู้ที่งดงามที่สุดในปฐพีนี้" แล้วพระราชินีก็จะอารมณ์ดี และใช้ชีวิตต่อมาเรื่อย ๆ
เมื่อเวลาผ่านเลยมาเรื่อย ๆ จนเจ้าหญิงสโนไวท์อายุได้ 7 ขวบ พระราชินีก็ยังใช้ชีวิตแบบเดิมในทุกวัน และก็ยังเช็คเรทติ้งของตัวเองด้วยการถามกระจกวิเศษด้วยคำถามเดิม ๆ ว่า "กระจกวิเศษ จงบอกข้าเถิด ใครงามเลิศที่สุดในปฐพี" แต่ครั้งนี้กระจกวิเศษดันเห็นสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไป นั่นก็คือ สโนไวท์ที่กำลังเริ่มเติบโตขึ้นมา ดังนั้นกระจกวิเศษจึงตอบกลับไปว่า "พระราชินี ใบหน้าของท่านก็ยังคงงดงามเหมือนเดิม แต่ท่านไม่ใช่ผู้ที่งดงามที่สุดในปฐพีแล้ว เพราะสโนไวท์ที่กำลังเติบโตขึ้นมานั้น มีใบหน้าที่งดงามเกินกว่าท่านแล้ว" เมื่อพระราชินีได้ยินแบบนั้นจึงโกรธมาก และเริ่มเกลียดสโนไวท์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
5
ราชินี
วันและคืนผ่านไป ราชินีเอาแต่หมกมุ่น และคิดว่าสโนไวท์สวยกว่าตน นางจะต้องโตขึ้นมาสวยกว่าตนแน่นอน ในที่สุดราชินีก็ทนไม่ได้กับการที่สโนไวท์สวยกว่า นางจึงคิดจะกำจัดสโนไวท์ และได้จ้างนายพรานคนนึงให้ไปฆ่าสโนไวท์ และควักหัวใจของสโนไวท์ออกมา เพื่อยืนยันว่าสโนไวท์ตายแล้ว นายพรานรับคำสั่งราชินีและเดินไปหาสโนไวท์
ซึ่งสโนไวท์กำลังนั่งเล่นอยู่โดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย เมื่อสโนไวท์เงยขึ้นมาเห็นว่าเป็นนายพราน จึงอ้อนวอนร้องขอชีวิต ด้วยความที่สโนไวท์อายุเพียงแค่ 7 ขวบ และหน้าตาน่ารัก นายพรานจึงสงสาร ฆ่าสโนไวท์ไม่ลง แล้วบอกให้สโนไวท์หนีไปและอย่ากลับมาอีก (ซึ่งในตอนนี้บางเล่มบอกว่า สโนไวท์รอดมาได้เพราะนายพรานสงสารบวกกับความสวยของนาง นายพรานจึงเสนอขอมีเซ็กส์กับนางแลกเปลี่ยนกัน เพื่อให้สโนว์ไวท์รอดตาย โดยที่สโนไวท์ต้องสัญญาว่าจะหนีเข้าป่าไปและไม่กลับมาในเมืองอีก มีความดาร์กขึ้นไปอีกค่ะ)
4
สโนไวท์ กับ นายพราน
เมื่อสโนไวท์หนีเข้าไปในป่า นายพรานจึงเดินกลับมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งเจอกับหมูป่าที่วิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามาแบบไม่รู้เรื่อง ดังนั้นนายพรานจึงจัดการฆ่าหมูป่า และชำแหละเอาหัวใจของหมูป่ากลับมา เพื่อจะเอาไปหลอกราชินี เมื่อพระราชินีได้หัวใจของหมูป่าไปที่เข้าใจว่าเป็นหัวในของสโนไวท์ จึงรู้สึกสะใจมาก แล้วก็เอาหัวใจไปหมักเกลือ ปรุงเป็นอาหาร และกินเข้าไปจนหมด
3
สโนไวท์วิ่งหนีเข้าไปในป่าเรื่อย ๆ จนหมดแรง ในที่สุดนางก็เจอกระท่อมเล็ก ๆ อยู่กลางป่า นางจึงเข้าไปในกระท่อมนั้น แต่เมื่อเข้าไปนางก็พบกับจาน ชาม ช้อน ส้อมขนาดเล็กไปหมด และมีอาหารวางอยู่บนโต๊ะทั้งหมด 7 ชุด ด้วยความหิวมาก สโนไวท์จึงจัดการกินอาหารบนโต๊ะจนหมด หลังจากนั้นนางจึงเดินสำรวจในบ้านต่อจนมาเจอห้องนอนที่มีเตียงเล็ก ๆ ทั้งหมด 7 เตียง นางจึงทดลองนอนเตียงนั้น เตียงนี้ แต่ก็ไม่พอดีและไม่ถูกใจนางสักที จนกระทั่งมาเจอกันเตียง ๆ นึง ซึ่งพอดีกับนาง นางจึงเผลอหลับไป
2
เวลาผ่านไปไม่นานเจ้าของบ้านก็กลับมา ในเวอร์ชั่นกริมม์บอกว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านของ พวกพ่อค้าคาราวานชาวจีน (พวกนี้จะตัวเตี้ย ตัวเล็ก ไม่เหมือนคนรัสเซีย) ที่ขุดแร่ในเหมือง เมื่อกลับมาถึงบ้านด้วยสัญชาติญาณของเจ้าของบ้านก็ต้องรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ ทั้งอาหารหายไป ของย้ายที่วาง น้ำมีรอยดื่ม จนขึ้นมาถึงห้องนอนก็พบว่ามีเด็กผู้หญิงหน้าตาสวยมาก ๆ นอนอยู่ เมื่อเหล่าคนแคระเห็นจึงรู้สึกเอ็นดูและปล่อยให้เธอหลับต่อไป (ถึงในหนังสือจะบอกว่า เป็นชาวจีนตัวจึงเล็ก ไม่ใช่คนแคระ แต่เราจะขอเรียกว่าคนแคระแล้วกันนะคะ เวลาอ่านจะได้ไม่รู้สึกขัด) และเมื่อถึงเวลาเช้าวันรุ่งขึ้น สโนไวท์ก็ตื่นขึ้นมา เหล่าคนแคระจึงถามสโนไวท์ว่า เป็นใคร มาจากไหน แล้วทำไมถึงมานอนอยู่ที่นี่ สโนไวท์จึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟัง
คนแคระรู้สึกสงสารอย่างมาก จึงยอมให้สโนไวท์อาศัยอยู่ด้วย แต่มีข้อแม้ว่าในทุก ๆ วันเหล่าคนแคระจะต้องออกไปทำงานที่เหมือง สโนไวท์จะต้องช่วยทำกับข้าว กวาดบ้าน ทำความสะอาดให้ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน สโนไวท์ตกลง จึงอาศัยอยู่กับคนแคระต่อมาเรื่อย ๆ (ซึ่งในตอนนี้ในนิทานกริมม์บางเล่มก็บอกว่า สโนว์ไวท์อาจจะโดนข่มขืนจากเหล่าคนจีนพวกนี้ที่มาช่วยด้วย แต่เป็นเพราะความสมัครใจและความหวาดกลัวที่จะโดนตามฆ่าเลยต้องเอาตัวรอด)
สโนไวท์ กับ คนแคระทั้งเจ็ด
คนแคระทั้งเจ็ดกลัวว่าตอนที่พวกตนไม่อยู่ ราชินีใจร้ายอาจจะมาตามฆ่าสโนไว์ได้ จึงได้สั่งกับสโนไวท์ว่า "ถ้ามีคนแปลกหน้ามา อย่าเปิดประตูให้เข้ามาเด็ดขาด เพราะอาจจะเป็นราชินีก็ได้" สโนไวท์รับปาก เหล่าคนแคระจึงออกไปทำงานตามปกติ
1
ทางด้านราชินีเมื่อหลงคิดว่าจัดการกับสโนไวท์ได้แล้ว จึงกลับไปเช็คเรทติ้งตัวเองกับกระจกวิเศษอีกครั้ง เพราะอยากได้ยินคำชมว่าตนนั้นสวยที่สุดจากกระจกวิเศษ "กระจกวิเศษ จงบอกข้าเถิด ใครงามเลิศที่สุดในปฐพี" ปรากฎว่ากระจกวิเศษดันตอบกลับมาว่า "ราชินีของข้า ท่านก็ยังงดงามเหมือนเดิม แต่ท่านไม่ใช่ผู้ที่งดงามที่สุดในปฐพี คนที่งดงามที่สุดในปฐพีก็คือ สโนไวท์ ที่อาศัยอยู่กับคนแคระในกระท่อมเล็ก ๆ กลางป่า" (ไม่รู้ว่าเป็นกระจกวิเศษหรือ GPS กันแน่ บอกซะละเอียด) ราชินีได้ยินแบบนั้นจึงโกรธมาก และคิดจะลงมือฆ่าสโนไวท์ด้วยตัวเอง ว่าแล้วราชินีก็ปลอมตัวเป็นชาวบ้านธรรมดา พร้อมกับหยิบของใส่ตะกร้ามาเยอะ ๆ และออกเดินทางเข้าไปในป่าเพื่อตามหาสโนไวท์
จนกระทั่งถึงบ้านของคนแคระทั้งเจ็ด ราชินีจึงเดินผ่านบ้านคนแคระโฉบไป โฉบมา จนรู้ว่าสโนไวท์อยู่บ้านคนเดียว ราชินีจึงตะโกนเข้าไปในบ้านว่า "มีใครอยู่ไหมจ้ะ มีของเก่ามาขายจ้า" สโนไวท์ก็รู้สึกสนใจมาก จึงเปิดประตูออกมาแล้วถามว่า "มีอะไรขายบ้างจ้ะ" ราชินีดึงความสนใจจากสโนไวท์ทันที"ข้ามีของเก่ามาขาย อันนี้เหมาะกับเจ้าดีนะ" ราชินีพูดพร้อมกับหยิบผ้าออกมาให้ดูแล้วบอกว่า "นี่เป็นผ้าลูกไม้สวยงาม เหมาะกับเจ้ามาก ๆ เลย สนใจไหมจ้ะ" สโนไวท์เห็นผ้าผืนนั้นแล้วรู้สึกว่าสวยมากจนอยากได้ ราชินีเมื่อได้โอกาสจึงใช้อุบายหลอกสโนไวท์ว่าจะวัดขนาดตัวของสโนไวท์ให้ แล้วเรียกสโนไวท์ออกมาเพื่อที่จะวัดตัว สโนไวท์จึงออกไปหาราชินี ราชินีก็เอาผ้าพันไปที่ตัวของสโนไวท์ แทนที่จะวัดตัวให้ แต่ราชินีก็พันผ้าจนแน่นแล้วดึงเอาไว้ จนสโนไวท์ขาดอากาศหายใจและล้มลงไปกับพื้นทั้งที่ยังอยู่ในม้วนผ้า เมื่อราชินีเห็นสโนไวท์ล้มลงก็คิดว่าสโนไวท์ตายแล้ว ราชินีจึงรีบกลับไป
2
ทางด้านคนแคระทั้งเจ็ด เมื่อถึงเวลาเลิกงานก็เดินทางกลับบ้าน แต่เมื่อถึงบ้านก็เจอกับสโนไวท์ที่อยู่ในม้วนผ้าและนอนนิ่งอยู่ที่พื้น คนแคระจึงช่วยกันลงมือใช้กรรไกรตัดเอาม้วนผ้าออก เพื่อให้สโนไวท์มีอากาศหายใจ สโนไวท์จึงฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง แล้วเหล่าคนแคระจึงดุว่าสโนไวท์ว่าทำไมถึงเปิดประตูให้คนแปลกหน้า คนที่มาทำกับสโนไวท์แบบนี้ต้องเป็นราชินีแน่ ๆ สโนไว์โดนต่อว่าจึงรับปากอีกครั้งว่าจะไม่เปิดประตูให้คนแปลกหน้าอีกแล้ว
เมื่อราชินีกลับไปถึงปราสาทของตน ก็กลับไปถามกระจกวิเศษทันทีว่า "กระจกวิเศษ จงบอกข้าเถิด ใครงามเลิศที่สุดในปฐพี" แต่ทำตอบของกระจกวิเศษก็ทำให้แม่เลี้ยงใจร้ายกรีดร้องขึ้นมาอีกครั้ง "โถ ราชินีของข้า ท่านก็ยังสวยเหมือนเดิม แต่สโนไวท์ที่ยังมีชีวิตอยู่ และอาศัยอยู่กับคนแคระทั้งเจ็ดต่างหากที่สวยที่สุดในปฐพี" ราชินีทนไม่ได้จึงวางแผนฆ่าสโนไวท์อีกครั้ง คราวนี้ราชินีนำหวีไปชุบกับยาพิษ เป็นหวีที่มีสวยงาม มีลวดลายงดงาม
วันรุ่งขึ้นราชินีก็เดินทางไปที่บ้านคนแคระอีกครั้ง พอไปถึงก็พบว่าสโนไวท์อยู่บ้านคนเดียวเช่นเคย ราชินีจึงตะโกนเข้าไปว่า "สวัสดีจ้า มีหวีมาขาย มีของสวย ๆ งาม ๆ มาขายจ้า" สโนไวท์โดนยิง ads เหมือนเดิมค่ะ ถูกล่อซื้อง่ายมาก แต่ยังมีความยับยั้งชั่งใจอยู่ ด้วยความซื่อจึงตะโกนกลับออกไปว่า "ก็น่าสนใจดีนะคะ แต่คนแคระสั่งไว้ว่าห้ามเปิดประตูให้กับคนแปลกหน้า" (นี่คือซื่อหรือโง่ก่อน) ฝั่งราชินีก็ไม่ยอม สกิลการตลาดมาเต็ม จึงตอบกลับไปว่า "ไม่ต้องออกจากบ้านก็ได้จ้า คนแคระสั่งว่าห้ามออกจากบ้าน แต่ก็ไม่ได้สั่งว่าห้ามดูนี่ ลองดูหวีอันนี้ก่อนไหมจ้ะ ผมของเจ้าดูเป็นสังกะตัง ถ้าได้ลองใช้หวีอันนี้ไปสางผม ผมของเจ้าก็จะดูสละสลวยนะจ้ะ" สโนไวท์ตกเป็นทาสการตลาดอีกครั้ง และเริ่มสนใจหวีอันนั้นท"ลองสางดูก่อนไหมจ้ะ ไม่ต้องออกมาจากบ้านหรอก แค่ยื่นหัวของเจ้าออกมาก็พอ เดี๋ยวข้าจะลองสางให้" เมื่อสโนไวท์ยื่นหัวออกไป ราชินีก็ใช้หวีอาบยาพิษ หวีไปที่ผมของสโนไวท์ จึงทำให้ยาพิษที่เคลือบอยู่กับหวีติดอยู่ที่ผมของสโนไวท์ และสโนไวท์ก็หมดสติไปอีกรอบ ราชินีเห็นสโนไวท์ล้มลงจึงดีใจ และรีบกลับไปยังปราสาทของตนเอง
2
ฝั่งสโนไวท์นอนขาดอากาศออกซิเจนอยู่เป็นระยะเวลา 2 วัน จนกระทั่งคนแคระทั้งเจ็ดกลับมาถึงบ้าน และเห็นสโนไวท์นอนสลบอยู่ ก็เลยสำรวจตามร่างกายของสโนไวท์และพบหวีปักอยู่บนหัวของสโนไวท์ คนแคระจึงดึงหวีออกจากหัวของสโนไวท์ แล้วสโนไวท์ก็ฟื้นขึ้นมา (วิทยาศาสตร์ใช้ไม่ได้กับนิทานเรื่องนี้เลยนะคะ ใช้หวีอาบยาพิษหวีผมแล้วสลบ แต่นิทานก็คือนิทานค่ะ) อย่างไรก็ตามเมื่อสโนไวท์ฟื้นขึ้นมา คนแคระก็กำชับอีกรอบว่า อย่าเปิดประตูให้คนแปลกหน้าเด็ดขาด
และแล้วราชินีก็กลับไปที่ปราสาท และถามคำถามเดิมกับกระจกวิเศษอีกครั้ง "กระจกวิเศษ จงบอกข้าเถิด ใครงามเลิศที่สุดในปฐพี" แทนที่กระจกวิเศษจะตอบว่าเป็นราชินี แต่ดันตอบกลับมาว่า "โถ ราชินีของข้า ท่านก็ยังสวยเหมือนเดิม แต่สโนไวท์ที่ยังมีชีวิตอยู่ และอาศัยอยู่กับคนแคระทั้งเจ็ดเป็นผู้ที่สวยที่สุดในปฐพี" ราชินีโกรธมาก ๆ และกรีดร้องอีกครั้ง
ครั้งนี้นางได้ปฏิญาณกับตนเองไว้ว่าจะฆ่าสโนไวท์ให้สำเร็จให้ได้ นางจึงวางแผนใหม่อีกครั้ง โดยเข้าไปที่ห้องลับของปราสาท แล้วผสมยาพิษขึ้นมาด้วยตนเอง และใช้แอปเปิ้ลชุบลงไปในยาพิษ (ในที่สุดแอปเปิ้ลก็มาสักทีนะคะ) และปลอมตัวเป็นสาวชาวไร่ จากนั้นก็เดินทางไปหาสโนไวท์ทันที (ในเวอร์ชั่นกริมม์ ราชินีไม่ได้ปลอมตัวเป็นหญิงแก่หน้าตาอัปลักษณ์เหมือนในการ์ตูนนะคะ)
เมื่อราชินีมาถึงก็ตะโกนเข้าไปในบ้านอีกเช่นเคย "แอปเปิ้ลไหมจ้ะ มีแอปเปิ้ลมาขายสด ๆ ใหม่ ๆ จ้า" สโนไวท์จึงตอบกลับไปว่า "ข้าอยากกิน แต่ข้าเปิดประตูให้ไม่ได้ นี่เป็นคำสั่งของคนแคระจ้ะ" ราชินีเห็นสโนไวท์ไม่หลงกลง่าย ๆ จึงพยายามยัดเยียดแอปเปิ้ลให้ "ช่างน่าสงสารจริง ๆ งั้นลูกนี้ข้าให้เจ้าเลย เจ้าไปต้องซื้อ รับไปสิจ้ะ" สโนไวท์ตอบกลับไปว่า "ข้ากินไม่ได้ ข้ารับของจากคนแปลกหน้าไว้ไม่ได้จริง ๆ" ครั้งนี้ราชินีวางแผนเอาไว้เพื่อเป็นอุบายให้กับสโนไวท์ โดยที่แอปเปิ้ลลูกนี้ จะมีลักษณะคือ ครึ่งนึงเป็นสีแดง อีกครึ่งนึงเป็นสีขาว ซึ่งราชินีเคลือบยาพิษเอาไว้เฉพาะทางฝั่งสีแดง นางจึงพูดกับสโนไวท์ว่า "เอาอย่างนี้ไหมจ้ะ เรากัดกันคนละฝั่ง ข้ากินฝั่งสีขาว ส่วนเจ้ากินฝั่งสีแดง" ว่าแล้วราชินีก็กัดแอปเปิ้ลฝั่งสีขาวและกินเข้าไป แต่ไม่มีอันตรายใด ๆ เกิดขึ้น ทำให้สโนไวท์ตายใจแล้วคิดว่า สาวชาวไร่กัดให้ดูขนาดนี้แล้ว ต้องเป็นแอปเปิ้ลที่ปลอดภัยแน่นอน สโนไวท์จึงรับแอปเปิ้ลจากราชินีและกัดเข้าไป ทำให้แอปเปิ้ลพิษเข้าสู่ปากสโนไวท์ สโนไวท์จึงล้มลงสิ้นใจต่อหน้าราชินีทันที
1
ราชินีเห็นสโนไวท์ล้มลงก็ดีใจมาก และรีบกลับปราสาท เมื่อถึงปราสาทแล้วราชินีก็ถามกระจกวิเศษอีกเช่นเคย "กระจกวิเศษ จงบอกข้าเถิด ใครงามเลิศที่สุดในปฐพี" และครั้งนี้กระจกวิเศษตอบกลับไปว่า "พระนางนี่แหละ พระราชินีของข้า ท่านคือผู้ที่งดงามที่สุดในปฐพีนี้"
เมื่อคนแคระกลับมาถึงบ้านก็พบสโนไวท์นอนนิ่งอยู่ที่พื้น เหล่าคนแคระจึงช่วยกับสำรวจที่ตัวสโนไวท์มามีอะไรผิดปกติที่ทำให้สโนไวท์สลบไปแบบนี้เหมือนทุกครั้งไหม แต่สุดท้ายเหล่าคนแคระก็ไม่เจออะไร จึงพากันร้องไห้เสียใจเป็นอย่างมาก และไม่คิดว่าสโนไวท์จะตายแล้วจริง ๆ ซึ่งในตอนแรกเหล่าคนแคระตั้งใจจะฝังสโนไวท์ แต่ว่าร่างของสโนไวท์ดูสวยเกินไป จนคนแคระทำใจไม่ได้ จึงช่วยกันต่อโลงศพแก้วขึ้นมา แล้วนำร่างของสโนไวท์ใส่ลงไปในโลง และทำป้ายทองสลักเป็นชื่อสโนไวท์เอาไว้ แล้วเอาไปวางไว้กลางป่า คนแคระทั้งเจ็ดก็ผลัดเวรกันเฝ้าโลงศพของสโนว์ไวท์
เวลาผ่านไปนาน ก็มีเจ้าชายองค์หนึ่งผ่านมาแถวนี้ แล้วพบกับโลงศพของสโนไวท์เข้า และสะดุดกับใบหน้างดงามของสโนไวท์ที่ดูไม่เหมือนคนตายแล้ว เพียงแต่เหมือนกับคนที่แค่หลับไป เจ้าชายตกหลุมรักสโนไวท์ และขอซื้อโลงศพพร้อมกับศพสโนไวท์จากคนแคระ ซึ่งในตัวแรกคนแคระทั้งเจ็ดไม่ยอมขาย แต่ด้วยความที่ยอมแพ้ในรักแท้ของเจ้าชายที่มีต่อสโนไวท์ เหล่าคนแคระจึงยอมและอนุญาตให้เจ้าชายนำศพสโนไวท์กลับเมืองไป
ระหว่างที่คนงานกำลังแบกศพของสโนไวท์ขึ้นมา ก็เกิดการกระเทือนไปมา จนทำให้ชิ้นแอปเปิ้ลที่ติดคอสโนไวท์อยู่นั้นหลุดออกมา และสโนไวท์ก็ฟื้นขึ้นมาเฉยเลย ทำให้เจ้าชายดีใจมาก และขอสโนไวท์แต่งงาน และกลับไปที่เมืองของตนเอง พร้อมกับจัดงานแต่งงานขึ้น (ตรงนี้เราไม่แน่ใจว่าระยะเวลาผ่านไปนานขนาดไหน เพราะในนิทานกริมม์ไม่ได้บอกเอาไว้ แต่เวลาก็ไม่น่าจะผ่านไปนานอะไรมาก ซึ่งสโนไวท์ในตอนนั้นก็น่าจะอายุประมาณ 7-9 ขวบเท่านั้นค่ะ)
แต่เรื่องไม่ได้จบแค่นี้ สโนไวท์โดนราชินีหลอกฆ่าถึง 3 ครั้ง จึงคิดที่จะเอาคืนราชินี โดนเจ้าชายเห็นด้วยกับสโนไวท์ ทั้งสองจึงส่งบัตรเชิญไปให้ราชินีด้วย เมื่อราชินีได้รับก็สงสัยว่าเป็นใคร ไม่ได้รู้จักมักจี่กัน จะมาเชิญนางไปทำไม ราชินีไม่ได้สนใจในตอนแรก จนกระทั่งราชินีกลับไปเช็คเรทติ้งตัวเองกับกระจกวิเศษอีกครั้ง "กระจกวิเศษ จงบอกข้าเถิด ใครงามเลิศที่สุดในปฐพี" แต่กระจกวิเศษกลับตอบราชินีกลับมาว่า “ท่านราชินีของข้า ท่านยังสวยงดงามเหมือนเดิม แต่เจ้าสาวคนใหม่ที่กำลังจะแต่งงานนั้น สวยกว่าท่านหลายเท่า” ทำให้ราชินีโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาอีกครั้ง เกิดความสงสัยว่าเจ้าสาวคนใหม่ที่สวยกว่านางนั้นเป็นใคร จึงจะไปให้เห็นกับตา และเปลี่ยนใจจะไปร่วมงานแต่งตามบัตรเชิญที่ได้ส่งมา
เมื่อถึงวันงาน ราชินีไปถึงก็ต้องตกใจเป็นอย่างมาก เพราะเจ้าสาวคนนั้นก็คือ สโนไวท์ และในตอนนี้นิทานกริมม์แต่ละเล่มเล่าออกมาไม่เหมือนกันค่ะ บางเล่มระบุไว้ว่า ราชินีต้องถูกสโนไวท์และเจ้าชายลงโทษ ด้วยการให้ใส่รองเท้าเหล็กที่เผาไฟจนร้อน และเต้นรำอยู่ในงานเลี้ยงงานแต่งของสโนไวท์ จนขาดใจตาย แต่บางเล่มก็บอกว่า สโนไวท์สั่งให้กองทัพทหาร (ของสามี) บุกตีเมืองของราชินี หลังจากนั้นสโนว์ไวท์สั่งให้จับราชินีเผาทั้งเป็น โดยอ้างว่าราชินีเป็นแม่มด มีคาถา อาคม และเวทย์มนต์
จบไปแล้วนะคะ ยาวมาก ๆ สำหรับสโนไวท์เวอร์ชั่นนิทานกริมม์ เรียกได้ว่าสโนไวท์นั้นไม่ได้ใส และไม่ได้บริสุทธิ์เหมือนสโนไวท์ที่เราเคยรู้จักเลยนะคะ หวังว่าทุกคนจะชอบกันนะคะ ครั้งต่อไปเราจะหยิบเรื่องอะไรมาเล่าอีก รอติดตามกันได้เลยนะคะ หรือใครอยากให้เล่าเรื่องนิทานกริมม์เรื่องไหน หรือจะเป็นเรื่องอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เจ้าหญิงดิสนีย์ก็คอมเม้นมาบอกกันได้นะคะ
1
-Lynn Yi Wu-
#เรื่องมีอยู่ว่า #สโนไวท์ #snowwhite #disney #cartoon #grimm
แหล่งอ่างอิง : Grimms' Fairy Tales
1
โฆษณา