8 เรื่องที่คนวัย 35-60 ปี รู้สึกเสียใจและเสียดายที่สุด
.
.
คนเราล้วนมีเรื่องให้รู้สึกเสียดายหรือเสียใจกันอยู่บ่อยๆ แต่คงมีบางเรื่องที่ติดในใจ และนึกอยากย้อนเวลากลับไปเพื่อแก้ไขความผิดพลาดนั้น ในบทความเรื่อง “The Top 8 Regrets of Middle Age” Karen Nimmo ผู้เขียนได้ไปพูดคุยกับคนในช่วงอายุ 35-60 ปี จำนวน 50 คน ว่าพวกเขารู้สึกเสียดายหรือเสียใจกับเรื่องอะไรมากที่สุด จนรวบรวมมาได้ 8 เรื่องสำคัญที่เราแปลและเรียบเรียงมานี้
.
เราคิดว่า คนในทุกช่วงวัยก็มีเรื่องที่รู้สึกผิด เสียใจ หรือเสียดายไม่ต่างกัน ลองไปอ่านกันดูว่า คุณมีเรื่องไหนตรงกับในบทความนี้บ้าง
.
.
1. ไม่ได้ทำบางสิ่งก่อนใครบางคนจากไป
อาจเพราะช่วงวัย 35-60 ปี คือช่วงเวลาที่เราได้เห็นคนรอบตัวจากโลกนี้ไปราวใบไม้ร่วง และการได้ตระหนักว่าผู้เป็นที่รักเหล่านั้นจะไม่กลับมาอีกแล้ว จึงทำให้คนในวัยนี้รู้สึกเสียใจและเสียดายที่ไม่ได้ทำบางสิ่งกับคนที่จากไป ตั้งแต่การไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตเขา หรือการไม่ได้พยายามปกป้อง ห้ามปรามเขา จนสิ่งเหล่านั้นนำเขาไปสู่ความตาย
.
นอกจากนี้ หลายๆ คนยังปรารถนาที่จะย้อนเวลาเพื่อแก้ไขความสัมพันธ์ที่ผิดพลาดกับคนที่จากไปแล้ว หรืออยากให้มีเวลาที่จะอยู่ด้วยกันนานกว่านี้อีกด้วย
.
2. เสียเวลาไปกับความกลัว
ความหวาดกลัวอาจทำให้เราพลาดบางสิ่งบางอย่างไปอย่างน่าเสียดาย และหลายๆ คนในช่วงอายุดังกล่าว ก็กำลังรู้สึกผิดที่ไม่ได้ทำตามความต้องการของตัวเอง อย่างการเลือกเส้นทางชีวิตที่ฝัน ลองคบกันคนที่แอบชอบ เลือกทำงานในอาชีพที่ไม่เป็นที่นิยม หรือไม่ได้พูดความรู้สึกในใจที่แท้จริงให้ใครบางคนฟัง
.
3. ติดอยู่ในคอมฟอร์ตโซน
ในวัยที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง หลายๆ คนกลับขังตัวเองไว้ที่ “จุดเซฟ” ไม่ยอมก้าวไปไหน ไม่ขอออกไปเดินทาง ผจญภัย ลองผิดลองถูก เพราะไม่กล้ารับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น จนเมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาก็ยังติดอยู่ในคอมฟอร์ตโซนที่เดิม และยิ่งอายุมากขึ้น ก็ยิ่งหมดโอกาสจะออกผจญภัยตามใจคิด เพราะเมื่อหันหลังมา เราจะเจอลูก คู่ครอง พ่อแม่ที่แก่ชรา และหนี้สิน ซึ่งเป็นภาระหน้าที่ที่กักขังเราไว้อย่างสมบูรณ์
.
4. ทนอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่นานเกินไป
คนไม่น้อยนึกเสียใจที่ปล่อยให้ตัวเองทำงานที่ไม่ชอบมาเป็นสิบปียี่สิบปี หรือทนอยู่กับความสัมพันธ์แย่ๆ ที่บั่นทอนจิตใจมาตั้งแต่ยังหนุ่มสาว พวกเขาเหมือนเสียเวลาครึ่งหนึ่งของชีวิตไปกับความทุกข์ตรม และเมื่อเคยชิน เขาก็จะเริ่มนิ่งเฉย ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างนั้น เหมือนคนที่ไม่อนุญาตให้ตัวเองมีความสุขจนถึงวันนี้
.
5. ไม่ยอมใช้เงินอย่างระมัดระวัง
การใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายหรือใช้เงินไปกับสิ่งไร้สาระ ที่ไม่ได้สร้างทั้งประโยชน์และความสุข เป็นอีกเรื่องที่คนวัย 35-60 ปี รู้สึกเสียดายมากๆ การต้องเผชิญกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงแบบพลิกคว่ำ ยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกว่า ควรเก็บเงินในช่วงวัยรุ่นไว้ และใช้มันอย่างฉลาด รวมไปถึงเรื่องการซื้อสินทรัพย์และการลงทุนด้วย
.
6. ไม่เรียนรู้มากกว่านี้
ไม่ใช่ทุกคนที่จะตัดสินใจเลือกเรียนมหาวิทยาลัยในสาขาวิชาที่ชอบได้อย่างอิสระ บางคนต้องเรียนตามที่พ่อแม่ต้องการ บางคนต้องเรียนในคณะที่หางานง่าย บ้างก็ติดเรื่องทุนการศึกษา และมีอีกไม่น้อยที่รู้สึกว่า อยากเปลี่ยนสายที่เรียนมา เพราะไม่ตรงกับสายงานปัจจุบัน นอกจากนี้การไม่ได้เรียนรู้เพิ่มเติมในตอนที่ยังทำได้ ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คนวัย 35-60 ปีรู้สึกเสียดายอย่างมากเช่นกัน
.
7. พลาดโอกาสหรือทำลายโอกาสที่มี
ในบทความพูดถึงโอกาสที่ไม่อาจมี เช่น การมีลูก มีแฟน หรือการตัดสินใจแต่งงานเร็วเกินไป แต่เราคิดว่า การได้รับโอกาส แต่ไม่ใช้มันให้ดีพอนั้นก็ทำให้รู้สึกผิดหวังไม่แพ้กัน โดยเฉพาะโอกาสครั้งที่สอง ที่พวกเขารู้สึกว่า แม้จะเรียนรู้จากความผิดพลาดครั้งแรกแล้ว แต่ก็ยังทำโอกาสครั้งที่สองไม่ดีพอ
.
8. ทำในสิ่งที่งี่เง่าเกินทน
เราต่างเคยทำเรื่องงี่เง่า แต่บางเรื่องก็เกินจะทนจริงๆ แบบที่นึกย้อนไปทีไรก็เกลียดตัวเองที่เคยทำแบบนั้น เช่นการเป็นคนรักที่แย่ เป็นลูกที่เกเร เป็นพ่อแม่ที่ละเลยครอบครัว รวมถึงการติดยาเสพติด หรือทำร้ายร่างกายคนใกล้ตัว ยิ่งเป็นการกระทำที่เปลี่ยนชีวิตตนเองหรือคนคนนั้น ยิ่งรู้สึกผิดและเสียใจมากยิ่งขึ้น
.
ไม่ว่าคนในวัย 35-60 ปีหรือช่วงวัยไหนๆ ก็คงมีเรื่องที่รู้สึกเสียดายและเสียใจไม่ต่างกัน แต่ในเมื่อเราย้อนเวลาไม่ได้ ก็ขอให้ใช้ความรู้สึกเสียใจในวันนี้ เป็นเครื่องเตือนให้เราได้ทำหรือไม่ทำบางสิ่งบางอย่าง ด้วยการไตร่ตรองให้ดีที่สุด แบบที่วันต่อไปเราจะไม่รู้สึกเสียดายอะไรอีกแล้ว
.
แล้วคุณล่ะ มีเรื่องที่รู้สึกเสียดายหรือเสียใจที่สุดในชีวิตไหม?
.
.
แปลและเรียบเรียงจาก: https://bit.ly/3b3Zn2T
#MissionToTheMoonPodcast
- 636
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
