14 ก.พ. 2021 เวลา 13:29 • การศึกษา
"อยากเป็นครูต้องทำนาเป็น"
ภาพประกอบจาก ธนานันท์
ในปัจจุบันที่เป็นกระแสสังคมบ้านเมืองเกี่ยวข้องกับ"การปฏิรูปการศึกษา"หลากหลายประเด็นร้อนทางสังคมที่ครูในปัจจุบันไม่สามารถให้คำตอบกับเด็กบางกลุ่มที่ตั้งคำถามขึ้นมา อาทิ ทำไมต้องตัดผมสั้น ทำไมต้องใส่ชุดนักเรียน หรือทำไมต้องเข้าแถวเคารพธงชาติ ในฐานะครูควรต้องทำยังไง เราจะปล่อยให้คำถามที่ผุดขึ้นมาสูญหายไปกับกาลเวลา หรือจะหาเหตุผลที่แท้จริงมาอธิบายให้เขาได้รู้ หรือหาข้อสรุปร่วมกันว่าในเรื่องนั้นๆว่ามันยังสำคัญมันยังใช้ได้และสมเหตุสมผลกับยุคปัจจุบันหรือเปล่า??
ปัจจุบัน ในประเทศและสังคมโลกที่มีการพัฒนาก้าวไกล ไม่ว่าจะเป็นด้านความเจริญทางเทคโนโลยี การคมนาคม หรือการขนส่งต่างๆล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยเกื้อหนุนทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในสังคมมนุษย์ได้ แม้กระทั่งการศึกษาในยุคปัจจุบันก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคตามสมัยอยู่ตลอดเวลา ในระบบการศึกษาก็เช่นกันสิ่งที่เป็นอยู่ปัจจุบันไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดและก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุด "หมดยุค" กับคำว่า แม่พิมพ์ของชาติ ปัจจุบันมันไม่ใช่แบบนั้นและในอดีตก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นด้วย ครูคือเพื่อน เพื่อนคือครู ครูไม่ใช่แม่พิมพ์ของชาติ "ครูคือชาวนา" ผมว่าคำนี้เหมาะสมที่สุด
ภาพประกอบจาก ธนานันท์
"ชาวนา" ทุกคนรู้จักชาวนาไหมครับ รู้หรือเปล่าว่าชาวนาทำนาเพื่ออะไร?? แน่นอนว่าทุกคนต้องตอบว่า "ก็ต้องเอาข้าวสิ" ผมขอบอกเลยว่า ไม่ใช่!! ชาวนาทุกคนทำนาเพื่อชีวิต ผืนนาคือชีวิตไม่ว่าจะเป็นตัวเองพ่อแม่ลูกหลานบ้านเมืองล้วนรังสรรค์ขึ้นมาจากจอบเสียม ชาวนาไม่ได้ทำนาเอาแค่ข้าวตลอดฤดูกาลแต่ละปีนั้นมีทั้งฝนแล้งน้ำท่วมเป็นอุปสรรคในการทำนาทั้งสิ้น ชาวนาจึงต้องดูแลคอยระมัดระวังอยู่ตลอด
"ครู"อย่างที่กล่าวในข้างต้นว่า ครูไม่ใช่แม่พิมพ์ของชาติ ครูคือเพื่อนเพื่อนคือครูครูคือชาวนา มันเป็นอย่างนั้นจริงครับในความเป็นครูเราต้องการให้ศิษย์เป็นคนดีของสังคมชาติและสังคมโลก ครูจึงพร่ำสอนประสบการณ์หลายๆสิ่งให้เด็กด้วยความหวังดี แต่ความหวังดีนั้้นอาจทำร้ายลูกศิษย์ตัวน้อยๆของเราก็ได้ เพราะสิ่งที่ครูประสบในยุคนั้นมันอาจไม่ใช่สิ่งที่ผิดในสมัยนี้เสมอไป
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
ฉะนั้นครูต้องเป็นชาวนาที่รักทะนุถนอมต้นข้าว เข้าใจเห็นใจดูแลสอดส่องไม่ให้ต้นข้าวเกิดโรคหาทางแก้ไขช่วยเหลือข้าวให้ถึงฤดูเก็บเกี่ยว เพราะในความเป็นจริงชาวนาไม่ได้ทำนาได้แค่ข้าว ยังมีกุ้ง หอย ปู ปลา กบ เขียด อาศัยอยู่ในนาผืนนั้นกับต้นข้าว เปรียบเสมือนเป็นห้องเรียนของครูที่มีเด็กพื้นฐานต่างกัน ครูต้องเข้าใจเขาเหมือนชาวนาที่ต้องรู้จักสิ่งมีชีวิตในนาตัวเองให้ดีที่สุดและควรจัดการยังไง จุดเด่นจุดด้อยแบบไหน บางคนเป็นปู เป็นปลา เป็นหอย มีบ้างที่พวกเขาทำร้ายกันเอง แต่ชาวนารู้วิธีจัดการไม่ให้ปูกัดต้นข้าวและก็ไม่ได้กำจัดปูทิ้ง ฉะนั้นครูต้องเป็นนักเกษตรมือฉมังที่รู้จักนาผืนนี้ดีที่สุด
เด็กโตขึ้นไม่ได้เป็นหมอทุกคน ไม่ได้เป็นทหารตำรวจรับราชการดีเด่นอะไร มีบ้างเป็นแม่ค้ายาจกวณิพกร่อนเร่หลากหลายอาชีพ ครูจึงควรสร้างแรงบันดาลใจ สร้างความเชื่อมั่นในตัวเองให้เด็ก กล้าคิด กล้าทำ กล้างแสดงออก ใส่ปุ๋ยกำลังใจ สร้างระบบนิเวศน์ชีวิตให้ดี นี่คือสิ่งที่ครูทุกคนต้องทำไม่ว่าอดีต ปัจจุบัน อนาคต มันก็ควรเป็นแบบนี้ ไม่ใช่ท่องตามตำรา ฉันพูดอะไรออกมาถูกต้อมหมด มันไม่ใช่
ผมจึงอยากฝากแนวคิดนี้ให้กับหลายๆคนได้อ่าน เพื่ออนาคตเขาลูกหลานเราข้างหน้าเรารังสรรค์ให้ดีได้ ขอแค่เราเข้าใจ "อย่าปิดกั้นพรสวรรค์เขาเพียงเพราะความผิดพลาดเราในอดีต" ขอบคุณครับที่รับฟัง
โฆษณา