Blockdit Logo (Mobile)
Directo : Movie & History
•
16 ก.พ. 2021 เวลา 04:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
The Secret Life of Walter Mitty
(2013)
The Secret Life of Walter Mitty
" อะไรคือความหมายของชีวิต? "
เบื่อไหมกับชีวิตประจำวัน?
ตื่นเช้า ไปทำงาน กลับบ้าน นอน และวนใหม่ไม่รู้จบ ทุกๆวันเฝ้ารอคอยแต่ วันหยุดเสาร์ อาทิตย์
แต่พอถึงวันหยุด ก็หมดแรงไม่อยากจะทำอะไร​แล้ว​ จนหลายๆคนเริ่มรู้สึกหมด passion ในการทำงานหรือใช้ชีวิตไปเลย
" ตูไม่ไหวละเว้ย! อยากลาออก! "
วันนี้ผมขอนำเสนอ สุดยอดหนังสร้างแรงบันดาลใจเรื่องหนึ่ง
" The Secret Life of Walter Mitty "
และเชื่อผมเถอะ ถ้าคุณดูหนังเรื่องนี้จบ มุมมองการใช้ชีวิตคุณอาจจะเปลี่ยนไปเลยก็ได้..
เรื่องราวกล่าวถึง Walter Mitty (แสดงโดย Ben Stiller) พนักงานบริษัทของนิตยสารสิ่งพิมพ์ชื่อดังอย่าง ' L.I.F.E. ' วอลเตอร์นั้นเป็นคนช่างฝัน เขาชอบจินตนาการถึงเหตุการณ์เว่อร์ๆหลายอย่างๆ อาทิเช่น เขาจินตนาการว่าตึกจะระเบิด เขาจึงพุ่งเข้าไปในตึกเพื่อช่วยหมาออกมา และหันหลังให้ระเบิดแบบเท่ๆ (เหมือนที่ในหนัง Hollywood ชอบทำ)
Walter Mitty (วอลเตอร์ มิตตี้)
ตัวของWalterนั้นมีหน้าที่ดูแลฟิลม์รูปถ่ายของช่างถ่ายภาพเพื่อนำมาประกอบในนิตยสารแต่ละฉบับ เขาต้องทำงานร่วมกับช่างภาพชื่อดังอย่าง 'ฌอน โอ คอนเนล' แม้ว่าทั้งคู่จะไม่เคยเจอหน้ากันเลยก็ตาม
ณอน โอ คอนแนล (คนละณอนกับที่ไปปลูกป่านะ)
วันหนึ่งนิตยสารที่วอลเตอร์ทำงานอยู่นั้น เกิดการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในบริษัท โดยจะเปลี่ยนจากนิตยสารแบบ'สิ่งพิมพ์'มาเป็นแบบ'ออนไลน์' และแน่นอนมันนำมาซึ่งการเลิกจ้างพนักงานส่วนหนึ่งด้วย บริษัทจึงจะทำการตีพิมพ์นิตยสารเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบ
ช่างภาพอย่าง'ฌอน'นั้นก็ทราบถึงเรื่องนี้ด้วย เขาจึงทำการส่งฟิลม์รูปถ่ายมาให้วอลเตอร์ เพื่อใช้เป็นรูปประกอบในนิตยสารฉบับสุดท้าย โดยตัวของฌอนนั้นฝากข้อความถึงวอลเตอร์ว่าให้ใช้ 'รูปที่ 25' ขึ้นปก เพราะนี่เป็นรูปที่สื่อความหมายของ 'ชีวิต' ได้ดีที่สุดสำหรับเขา
แต่ไม่รู้ว่าเป็นเวรกรรมอะไรของวอลเตอร์เพราะเมื่อล้างฟิลม์รูปถ่ายทั้งหมดเสร็จ 'รูปที่ 25' นั้นมันหายไป! เขาพยายามหาทั้งออฟฟิศก็ไม่เจอ ซึ่งตัวเขาเองก็มั่นใจว่าไม่ได้ทำหายเองแน่นอน! เขาจึงตัดสินใจที่จะออกตามหาตัวของช่างภาพลึกลับผู้นี้และภาพที่หายไป
เรื่องราวการผจญภัยของเขาจึงเริ่มจาก ณ จุดนี้..
ฟิลม์ที่ล้างเสร็จ มีรูปหายไปหนึ่งรูป (รูปที่ 25)
หนังเรื่องนี้แฝงไปด้วยข้อคิดการใช้ชีวิตมากมาย นี่เป็นหนังที่ดูแล้วเกิดความรู้สึกอยากออกไปท่องโลกมาก
" โลกใบนี้มีอะไรให้น่าค้นหาอีกเยอะ "
การตัดสินใจออกไปผจญภัยเพื่อตามหาตัวณอนของวอลเตอร์นั้น นำพาเขาไปสู่โลกกว้าง โลกที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน การข้ามทะเล กระโดดจากเฮลิคอปเตอร์ลงกลางมหาสมุทร เอาตัวรอดจากฝูงฉลาม ได้เล่นสเก็ตบอร์ดท่ามกลางทิวทัศน์ภูเขาที่ไอซ์แลนด์ หนีภูเขาไฟระเบิด ปีนภูเขาหิมาลัย ทั้งหมดนี้นำพาเขาไปเจอโลกอีกใบ โลกที่เขาไม่มีโอกาสได้เจอแน่ๆในชีวิตปกติ
กระโดดลงจากเฮลิคอปเตอร์กลางมหาสมุทร
ไถสเก็ตบอร์ด ณ ไอซ์แลนด์
ฉากหนึ่งที่เราชอบมากๆ คือฉากที่วอลเตอร์นั้นได้นั่งคุยกับณอนในขณะที่ณอนกำลังถ่ายรูปเสือดาวหิมะ แล้วอยู่ดีๆณอนก็หยุดถ่ายและนั่งดูเสือเฉยๆ
"เพราะรูปถ่ายสามารถบันทึกได้แค่สิ่งที่ตาเราเห็น แต่มันไม่สามารถบันทึกความรู้สึก ณ ขณะนั้นได้"
ณอณจึงหยุดถ่ายรูปและจดจำช่วงเวลาที่เขาชอบไว้ในความทรงจำ
มันทำให้เราย้อนนึกถึงตัวเอง ใช่อยู่ว่าเราก็เป็นคนที่ชอบถ่ายอะไรๆเก็บไว้ แต่ในบางครั้งเราแค่อยาก " Live in a moment " ได้ใช้'ชีวิต'ไปในช่วงเวลานั้นๆมากกว่า
3
วอลเตอร์ และ ณอน
ถึงแม้สุดท้ายแล้ววอลเตอร์จะสามารถตามหาสิ่งที่เขาต้องการเจอ 'รูปใบที่ 25' แต่เขาก็เลือกที่จะไม่สนใจมันในตอนแรก ไม่แม้แต่จะชายตามองว่ามันคือรูปอะไร เพราะในตอนนี้เขาได้พบเจอสิ่งที่มีค่ากว่ารูปใบนั้นแล้ว นั่นคือความหมายของ'ชีวิต'สำหรับเขา
" เพราะจุดหมายปลายทาง ไม่สำคัญเท่าการเดินทาง.. "
แต่สุดท้ายวอลเตอร์ก็ได้เห็นมันอยู่ดี และนั่นคือรูปที่แทนคำขอบคุณทั้งหมดจากหัวใจของช่างภาพอย่างณอน
" อุทิศแก่ผู้คน ที่สร้างมัน.. "
หนังเรื่องนี้สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดูมาก่อน นี่เป็นหนังที่ผมต้องขอบอกว่า "ชีวิตนี้คุณควรจะดูหนังเรื่องนี้ซักครั้ง" นี่เป็นหนังสร้างแรงบันดาลใจชั้นยอดที่สุดเรื่องหนึ่งเลยครับ (หรือดูแล้วดูอีกก็ได้นะ)
Highly Recommend!
Movie Trailer
โฆษณา