21 มี.ค. 2021 เวลา 06:20 • ความคิดเห็น
เคยสงสัยกันรึเปล่าค่ะว่า
วางเเผนเกษียณทำได้ตั้งแต่สาวๆ
ถ้าเราอายุเริ่มมากขึ้น เผลอแป่บเดียวกำลังจะเข้าสู่วัยเกษียณ รายได้ที่มีก็ไม่สามารถหาได้เหมือนเดิม นายจ้างก็เริ่มจะกดดันให้ลาออกจากงานทุกวัน แล้วเราจะเอาเงินที่ไหนกิน ที่ไหนใช้ ? หรือว่าเรารอเงินจากลูกหลานมาเลี้ยง ?
คำตอบคือ....
หากเพื่อนๆ ไม่มีการซื้อ
1
1. กองทุน RMF (Retirement Mutual Fund ) เป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพเก็บไว้ตั้งแต่สาวๆ แล้วเราจะสามารถถอนออกมาตอนอายุ 55 ปี ( กองทุนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเกษียณจริงๆ จึงมีการถือครองยาวเป็นพิเศษ )
2. ถ้าตลอดการทำงานไม่เคยมีการสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่มีนายจ้างร่วมจ่ายสมทบให้ ( ขึ้นอยู่กับบริษัทที่ทำงาน หากทำกับบริษัทที่มีจำนวนพนักงานเยอะๆ ทางบริษัทจะมีกองทุนตัวนี้ให้ หากเรายินยอมทางบริษัทจะหักออกจากเงินเดือนทุกเดือนเพื่อการเก็บออมเอาไว้บางส่วนและอีกส่วนนายจ้างจะจ่ายสมทบให้ เพื่อเป็นเงินออมให้เราได้ตอนในกรณีลาออก, เลิกจ้าง หรือ เกษียณอายุ )
3. หากเพื่อนๆ ไม่ได้ทำงานหรือได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการ ที่มี กบข. เป็นหน่วยงานการเก็บเงินและรอจ่ายเงินตอนวัยเกษียณแล้วให้กินบำนาญ
ก็น่าจะเหลือแค่สองข้อที่เป็น 'สวัสดิการ' ที่จะได้รับจาก 'รัฐบาล'
สวัสดิการจากรัฐบาลที่จะได้ในวัยเกษียณมีดังนี้
1. เงินบำนาญชราภาพ ( จากประกันสังคมหากมีการนำส่งไม่ถึง 15 ปีจะได้เป็นเงินบำเหน็จ แต่ถ้าหากจ่ายตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปจะได้เป็นบำนาญ )
*กรณีผู้อยู่ในมาตรา 33และ 39
* มาตรา 33 คือ ที่มีนายจ้างจ่ายสมทบให้ 5% ลูกจ้างจ่ายสมทบ 5 % และอีก 2.75 % รัฐบาลร่วมจ่ายสมทบ
*มาตรา 39 เป็นการประกันตนเองที่ต้องจ่ายต่อเดือนละ 432 บาท โดยไม่มีนายจ้างจ่ายสมทบให้
ต่อเดือนคร่าวๆ คิดจากฐานเงินเดือน 15,000 บาท ประมาณเฉลี่ยแล้ว 5,000 บาทต่อเดือน ( ไม่อยากจะคิดถึงเงินเฟ้อเลยค่ะ ตอนนั้นเราจะพอกินไหมกับเงินเดือน เดือนละ 5,000 บาท แต่ส่วนตัวคิดว่าถ้าใครมีลูกหลานเลี้ยง ไม่ต้องทำงาน พอค่ะ !! แต่ถ้าใครต้องมีภาระตอนแก่ ไม่มีเงินจากลูกจากหลาน บอกเลยค่ะไม่พอค่ะ)
2. เบี้ยผู้สูงอายุเดือน 600 บาท ย้ำ ! รายเดือนจ้า เงินสูงสุดที่จะได้รับอยู่ที่เดือนละ 1,000 บาท รัฐบาลจ่ายเป็นรายเดือนจนถึงเสียชีวิต โดยรัฐบาลได้แบ่งเป็นช่วงอายุ โดยจะให้เงินในจำนวนที่ต่างกันดังนี้
ช่วงอายุที่จะได้รับเงินชราภาพจากรัฐบาล
เพื่อนๆ คิดว่าถ้าเอาเงิน 2 ก้อนที่จะได้รับต่อเดือนจากรัฐบาลมารวมกันแล้วนั้น เราจะพอกินพอใช้รึเปล่า ?
สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้มีทรัพย์สินหรือ มรดก บอกเลยว่าไม่พอค่ะ !! อย่าลืมเด็ดขาดว่าอีก 10 - 20 ปี ข้างหน้าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มสูงมากขึ้นทุกปี สมัยนั้นเราคงจะได้กินบะหมี่หรือข้าวจานเป็นร้อยแน่ๆ ฉะนั้นเงินเกษียณรายเดือน เดือนละไม่ถึง 6,000 บาท เราต้องอดตายกันแน่ๆ
ดังนั้นแนะนำให้ซื้อกองทุน RMF เอาไว้ตั้งแต่วัยหนุ่มๆ สาวๆ กันไว้จะดีมากค่ะเน้นเป็นการเก็บไว้เพื่อเกษียณโดยเฉพาะ คล้ายๆ การลงทุนแบบ DCA ค่ะ ลงทุนเท่าๆกันทุกเดือน เน้นระยะยาว ( เน้นว่ายาวมาก เพราะต้องรอถึงตอนเกษียณอายุตอน 55 ปี ) ลงทุนในความเสี่ยงที่สูงขึ้น แน่นอนค่ะตอนเกษียณเราจะมีเงินเก็บ มีเงินใช้ ไม่ต้องลำบากลูกหลานต้องมานั่งเลี้ยงดูด้วย มากกว่าเงินที่ได้จากสวัสดิการรัฐบาลแน่นอน
ข้อสรุปของบทความนี้ :
เราจำเป็นอย่างมากที่ต้องมีการวางแผนเกษียณอายุตั้งแต่วัยหนุ่มสาว เรื่องเกษียณอายุไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวเลย อย่าคิดว่าเป็นเรื่องในอนาคต ให้คิดว่าเป็นเรื่องปัจจุบันที่ส่งผลต่ออนาคตจะดีกว่า เราจะได้มีแรงกระตุ้นในการวางแผนได้ทันท่วงที ยิ่งเป็นพนักงานเงินเดือนธรรมดา ไม่มีระบบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และ กบข. เรายิ่งต้องเห็นความสำคัญของคำว่า 'วางแผนเกษียณอายุ' เราจะไม่รอแค่เงินบำนาญประกันสังคมและเงินชราภาพจากรัฐบาลเพียงทางเดียว แน่นอน !! เพราะนั่นไม่พอกินจ้า
เอาไว้กอล์ฟจะมารีวิวการเลือกกองทุน RMF สำหรับพนักงานเงินเดือนมาฝากเพื่อนๆ ในรอบหน้าน่ะค่ะ จะบอกทุกขั้นตอนตั้งแต่การเลือกซื้อเลยค่ะ
โฆษณา