Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
จีนจับใจ
•
ติดตาม
16 ก.พ. 2021 เวลา 10:08 • ประวัติศาสตร์
พระราชวังต้องห้ามสีม่วง (กู้กง) ๕.
1
ภูเขาจิ่งซาน หมุดเส้นมังกร และวันสุดท้ายของราชวงศ์หมิง
ศาลาว่านโซ่วถิง บนภูเขาจิ่งซาน มีประวัติการสร้างตั้งแต่สมัยจักรพรรดิเฉียนหลง ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปที่งดงาม
วาระสุดท้ายของจักรพรรดิหมิงซือจง-จูโหยวเจี่ยน 明思宗-朱由检 ฮ่องเต้องค์ที่ ๑๖ ของราชวงศ์หมิง ที่เกี่ยวพระราชวังต้องห้ามสีม่วง –จื่อจิ้นเฉิง 紫禁城 (หรือพระราชวังกู้กง 故宫) และสวนจิ่งซาน 景山 ซึ่งปัจจุบันเป็นจุดชมทัศนียภาพของพระราชวังกู้กงที่งดงามอลังการที่สุด
ป้ายศิลาจารึกตำแหน่งที่จักรพรรดิหมิงซือจง (องค์ที่ ๑๖) ทรงสละชีพเพื่อชาติ 明思宗殉国处 โดยปลงพระชนม์พระองค์ โดยแขวนพระศอที่ต้นไม้รูปทรงคดโค้งที่เชื่อกันว่าคือต้นด้านหลังแผ่นศิลาจารึกที่แสดงตำแหน่งที่แขวนพระศอนี้ ให้พ้นจากเงื้อมมือของกบฎชาวนาหลี่จื้อเฉิงที่สามารถยึดพระราชวังต้องห้ามสีม่วงไว้ได้ ในวาระสุดท้ายของราชวงศ์หมิง
และใต้ภูเขาแห่งนี้มีป้ายศิลาจารึกแสดงถึงตำแหน่งที่จักรพรรดิหมิงซือจงทรงสละพระชนม์ชีพเพื่อชาติ แขวนพระศอสิ้นพระชนม์ในครั้งกองทัพกบฎชาวนาบุกเข้ายึดพระนครปักกิ่งในปีค.ศ.๑๖๔๔ ในเดือนมกราคม ค.ศ.๑๖๔๔ หลังจากกองทัพชาวนาของหลี่จื้อเฉิงได้ยึดเมืองเซียงหยาง จิ้งโจว เต๋ออาน ฯลฯ ได้
จากนั้นในอีก ๓ เดือนต่อมา ก็สามารถข้ามแม่น้ำหวงเหอ (เหลือง) ยึดเมืองไท่หยวน ต้าถง ได้อย่างรวดเร็ว กองทัพทหารหมิงส่วนใหญ่สู้แบบไม่มีจิตใจสู้รบ ถอยร่นจนเข้าเขตชานพระนครปักกิ่งอย่างรวดเร็ว ข่าวการเคลื่อนทัพของกองทัพชาวนามาถึงพระเนตรพระกรรณน้อยมาก และจักรพรรดิหมิงซือจงพร้อมด้วยเหล่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่ ต่างมิคิดว่า หลี่จื้อเฉิงจะเคลื่อนพลยกทัพได้อย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้
พระบรมสาทิสลักษณ์จักรพรรดิฉงเจิน (หมิงซือจง) องค์สุดท้ายของราชวงศ์หมิง
ในเวลาเดียวกัน พระองค์ได้มีพระบรมราชโองการให้แม่ทัพอู๋ซานกุ้ย 吴三桂 จากด่านซานไห่กวน-ปราการสำคัญทางภาคอีสานที่ต้านยันทัพแมนจูอยู่ ให้เคลื่อนทัพลงมาช่วย แต่ดูเหมือนอู๋ซานกุ้ยจะไม่อนาทรต่อคำสั่งดังกล่าวเท่าใดนัก
วันที่ ๑๗ มีนาคม ค.ศ.๑๖๔๔ กองทัพทหารชาวนาปิดล้อมชานพระนครปักกิ่งไว้ทุกด้าน และในคืนวันที่ ๑๘ นั้นเอง จักรพรรดิหมิงซือจงพร้อมด้วยขันทีผู้ใกล้ชิดขึ้นบนภูเขาเหมยซาน 煤山 (หรือ ว่านโซ่วซาน –万寿山 ปัจจุบันคือ จิ่งซาน)
หลังพระราชวังกู้กง ทอดพระเนตรเห็นเปลวเพลิงที่กำลังลุกโชนจากชานพระนคร กับเสียงกรีดร้องของเหล่าอาณาประชาราษฎร์ที่ฟังไม่ได้ศัพท์มาแต่ไกล เมื่อสดับแล้ว ก็ทรงสลดพระทัยยิ่ง แล้วตรัสต่อขันทีผู้ใกล้ชิดว่า
“ประชาชนของฉันประสบทุกข์ยิ่งนักแล้ว!” จากนั้น พระองค์โปรดให้ขันทีผู้ใกล้ชิดและนายทหารชั้นผู้ใหญ่ส่งพระโอรส พระธิดาของพระมเหสีและบรรดาพระสนมเอกออกจากพระราชวังไปยังบ้านของพระญาติผู้ใหญ่ที่ทรงไว้วางพระทัย แล้วตรัสให้เชิญพระมเหสี พระสนมเอกเข้ามายังพระราชวัง พระองค์ทรงพระกรรแสงต่อพระมเหสีโจว แล้วตรัสว่า
1
จักรพรรดิฉงเจินในโลกภาพยนตร์จอแก้ว
“เธอคือมารดาของประเทศ ขอได้โปรดจงคิดเสียสละเพื่อชาติด้วยเถิด” พระมเหสีโจว 周皇后 พระกรรเสงแล้วตรัสตอบพร้อมน้ำพระเนตรนองพระพักตร์ว่า
“หม่อมฉันรับใช้พระองค์มา 18 ปี ฝ่า พระบาทยังไม่เคยร้องขอสิ่งใดกับหม่อมฉัน วันนี้พระองค์ทรงมีพระบัญชามายังหม่อมฉัน มีหรือที่หม่อมฉันจะเกรงกลัวต่อความตาย”
พอกล่าวจบ พระมเหสีโจวก็ปลิดชีพพระองค์ จากนั้น พระองค์จึงตรัสต่อพระสนมเอกหยวน 袁贵妃 ว่า
“เธอตามพระมเหสีไปด้วยเถิด” พระสนมเอกหยวนกราบบังคมลาแล้วปลิดชีพตามไป
จากนั้น พระองค์ทรงให้เหล่านางสนมทั้งหลายอีกหลายสิบนางสังหารตนเอง เพื่อจะได้ไม่ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของเหล่าทหารชาวนา (ภายหลังพบว่า มีเหล่าขันทีและนางสนมชั้นในต่างปลดชีพตนเองกว่า ๔๐๐ คน ทหารเฝ้าพระราชวังถูกสังหารกว่า ๑,๐๐๐ นาย)
อรุณรุ่งของวันที่ ๑๙ กองทัพหลี่จื้อเฉิงเคลื่อนเข้าประตูจางอี้เหมิน 彰义门 เขตชั้นในของกรุงปักกิ่ง จักรพรรดิหมิงซือจงพร้อมด้วยขันทีผู้ใกล้ชิดสิบคนทรงควบม้าเพื่อจะหนีจากเขตพระราชวัง แต่ประตูเมืองทุกด้านถูกปิดลง ทุกคนตื่นหนีออกจากเขตพระราชฐานไปทางประตูทิศใต้เสียสิ้น
ย่ำค่ำวันนั้น พระเพลิงได้โหมรุกไหม้ แดงฉานสว่างโร่คล้ายดังเวลากลางวัน พระองค์ทรงหนีจากพระราชวังกู้กงไปยังประตูด้านหลัง เสด็จไปยังเชิงเขาจิ่งซาน แล้วตรัสประโยคสุดท้ายว่า...
“หม่อมฉันบริหารราชการผิดพลาด เหล่าขุนนางอำมาตย์ล้วนประสบภัย สองร้อยเจ็ดสิบหกปีแห่งราชวงศ์หมิงได้ถึงกาลอวสานสิ้นสุดลงในวันนี้ หม่อมฉันมิอาจไปพบหน้าเหล่าบุรพกษัตริย์บนสัมปรายภพแล้ว”
จากนั้น จักรพรรดิหมิงซือจงในวัย ๓๓ พระชันษา ทรงปีนขึ้นแขวนพระศอของพระองค์ที่ต้นไม้รูปทรงคดโค้ง ในขณะที่พระบาทซ้ายเปลือยเปล่า พระบาทขวาสวมรองเท้าสีแดง ด้านข้างของพระองค์มีขันทีหวางคอยปรนนิบัติพระองค์ตราบสิ้นพระทัยในวาระสุดท้ายของพระองค์และราชวงศ์หมิง
1
ภาพวาดวาระสุดท้ายของราชวงศ์หมิง จักรพรรดิฉงเจินแขวนพระศอสิ้นพระชนม์ที่เชิงเขาจิ่งซาน ท่ามกลางไฟลุกโชนในพระราชวังกู้กง ด้วยฝีมือกบฎชาวนาหลี่จื้อเฉิง
หลังจากนั้นอีก ๓ วันพระศพของพระองค์และพระมเหสีโจวได้ถูกนำออกพระราชวังกู้กง ประชาชนต่างร่ำไห้โศกาอาดูร ภายหลังพระศพของทั้งสองพระองค์ถูกนำไปฝังรวมที่สุสานของพระสนมเอกเถียน พร้อมด้วยเหล่าพระสนมเอกและนางสนมต่าง ๆ เรียกหมิงซือหลิง 明思陵 นับเป็นสุสานที่มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดาสุสาน ๑๓ กษัตริย์ ราชวงศ์หมิง –หมิงสือซานหลิง 明十三陵 ที่ตั้งอยู่ชานกรุงปักกิ่ง และเป็นสุสานเดียวที่พระศพขององค์จักรพรรดิฝังรวมกับพระมเหสีและเหล่าพระสนม ด้านข้างมีสุสานของหวางเฉิงเอิน-ขันทีคู่กายของพระองค์
สุสานหมิงซือหลิง 明思陵 สถานที่ฝังพระศพจักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์หมิง ที่สุสานสิบสามกษัตริย์ราชวงศ์หมิง กรุงปักกิ่ง
ทุกวันนี้ ผู้มาเยือนพิพิธภัณฑ์พระราชกู้กงเมื่อเดินออกประตูทางทิศเหนือเสินอู่เหมิน 神武门 (เดิมเรียกเสวียนหวู่เหมิน 玄武门 ได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็นเสินหวู่เหมินในสมัยจักรพรรดิคังซี เพราะคำว่าเสวียน ตรงกับพระนามของพระองค์ว่าเสวียนเย่ 玄烨) ก็จะเห็นยอดเขาจิ่งซานที่สูง ๔๓ เมตร เดิมเรียกชิงซาน 青山
ต่อมา เมื่อมีการสร้างพระราชวังกู้กงในสมัยจักรพรรดิหย่งเล่อ (องค์ที่ ๓ ของราชวงศ์หมิง) ใช้เป็นที่เก็บกองถ่านหินที่ใช้ในพระราชวัง จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็น "เหมยซาน" ต่อมา ได้มีการบูรณะปรับปรุง เรียก "ว่านโซ่วซาน" หรือ ภูเขาหมื่นปี
เนินเขาขนาดหย่อมนี้ได้รับการเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น "จิ่งซาน" ในสมัยต้นราชวงศ์ชิง เพราะใช้เป็นที่ทอดพระเนตรทัศนียภาพของพระราชวังกู้กง ครั้นในสมัยจักรพรรดิเฉียนหลง ปีค.ศ.๑๗๕๐ ได้สร้างศาลาขึ้น ๕ หลัง กล่าวกันว่า พระองค์ใช้ทอดพระเนตรความเคลื่อนไหวของตำหนักต่าง ๆ ในราชสำนักต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
ทัศนียภาพของพระราชวังต้องห้ามสีม่วง (กู้กง) เมื่อเดินจากอู่เหมินทางทิศเหนือ ตามแนวเส้นตรงจะมาออกที่ประตูเสินอู่เหมินทางทิศเหนือ โดยมีภูเขาจิ่งซานเป็นฉากหลังเสริมฮวงจุ้ยให้พระราชวังแห่งนี้ และยังใช้เป็นสถานที่ชมทัศนียภาพของพระราชวังกู้กงอย่างตระกาตาอีกด้วย
บริเวณยอดเขาจิ่งซาน ด้านหลังศาลาว่านโซ่วถิง มีหมุดเส้นมังกรเหนือใต้ใจกลางกรุงปักกิ่งปรากฎอยู่
หมุดเส้นมังกรเหนือใต้ใจกลางกรุงปักกิ่ง จากประตูเทียนอานเหมิน ผ่านอู่เหมินทางทิศใต้ ลากตรงผ่านพระที่นั่งไท่เหอเตี้ยนและหมู่ที่พระนั่ง ออกสู่ประตูเสินอู่เหมินทางทิศเหนือ ตรงแนวกับศาลาว่านโซ่วถิงบนภูเขาจิ่งซาน หมุดเส้นมังกรนี้ปักอยู่ด้านหลังของศาลาว่านโซ่วถิงบนภูเขาจิ่งซาน
เพื่อเสริมให้เห็นถึงรูปแบบการวางผังสถาปัตยกรรมขั้นสุดยอดของพระราชวังหลวงสถานทีว่าราชการจักรพรรดิมังกรผู้เป็นโอรสแห่งสวรรค์ ๒๔ พระองค์ และเป็นเมืองหลวงของประเทศจีนมาตราบจนถึงปัจจุบัน...
อ่านแล้วชอบ กรุณากดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม เพื่อให้กำลังใจผู้เขียนสร้างสรรค์งานต่อไปครับ
4 บันทึก
7
2
4
4
7
2
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย