16 ก.พ. 2021 เวลา 10:22 • ครอบครัว & เด็ก
ผมไม่อยากพูดเรื่องแนวนี้เท่าไหร่นะ มันหดหู่ และมันไปเกี่ยวกับการเมืองด้วย
โครงการเราชนะ หรือโครงการโปรยทาน แจกเงิน คือ วันนี้มีรุ่นน้องที่พิการ โทรหาผม ผมคงไม่เอ่ยชื่อน้องเขาและแม่เขา เนื่องจากน้องเขาไม่มีสมาร์ทโฟน แม่น้องเขาก็ด้วย เห็นว่าไปรอนั่งตากแดดแต่เช้า เมื่อวานเพื่อลงทะเบียนไทยชนะ เพื่อที่จะได้เงินมาใช้ในครอบครัว ซึ่งไม่ไปเองก็ไม่ได้ และน้องเขาก็เกรงใจไม่กล้าบอกผม ถ้าไม่งั้นผมวิ่งไปแล้ว ไปรอตั้งแต่เช้า ที่ธนาคาร กว่าจะเสร็จเรื่องเกือบเที่ยง เพราะเห็นว่าคนเยอะ ก็ครับ ย้อนแย้งดีไหม? กับนโยบายที่บอกว่าป้องกันโควิท อย่าให้คนมาแออัดกัน แต่เห็นว่าเป็นร้อยๆ คนที่ไปรอกัน ผมเองไม่ได้ไปสนใจเรื่องลงทะเบียน เพราะผมถือว่าผมยังพอดิ้นรนหาเงินได้ ต่างจากน้องเขา ลงทะเบียนจากสมาร์ทโฟนไม่ได้เพราะไม่มีกันจริงๆ ทีวีบ้านน้องเขายังไม่มี ผมเองก็ถามว่าสรุปแล้วลงได้ไหม? เพราะเห็นว่าเหมารถไปเพราะน้องเดินไม่ได้ น้องก็ตอบว่าไม่รู้เหมือนกัน เพราะเจ้าหน้าที่บอกต้องรอยืนยันไปก่อน เท่าที่คุยกันทางโทรศัพท์ คือ น้องเขาบอกว่าเจ้าหน้าที่บอกว่าค่อยมาใหม่อีกครั้งก็คงไม่ไป เพราะค่ารถที่เหมาไปเนี่ยแพง และน้องเขาต้องไปนั่งรอบนรถเข็นด้านนอกตากแดด เพราะติดบรรไดขึ้นไปไม่ได้ ต้องตากแดดรออยู่ข้างนอก กับเหนื่อยกับการที่ต้องนั่งร้อนตากแดด ก็เข้าใจครับ ผมน่ะฟังแล้ว ผมเองก็ไม่เข้าใจ อย่างน้องเขาพิการ มีเงินโอนให้อยู่แล้ว แต่ไม่มีสมาร์ทโฟน จึงต้องเดินทาง ทั้งที่ตัวน้องเขาเองเสี่ยงกว่าคนอื่น เรื่องภาวะแทรกซ้อน เนื่องจากแผลกดทับของน้องเขา มีสิทธิ์เรื่องภาวะแทรกซ้อนสูงแต่ถ้าไม่ไป เงินก็ไม่ได้อีก เพราะต้องไปยืนยันตัวตนเอง ที่น้องเขายอมไปเพราะเพื่อลดภาระในครอบครัวบ้าง
แต่ก็ครับในเมื่อจ่ายให้คนพิการ ที่คุณมองว่าไร้ค่า เดือน 800 บาทก็พอ แต่ทำไมล่ะ ไม่ต้องลงทะเบียนได้ไหม? ในเมื่อมีการโอนเงินเข้าตลอดทุกเดือนอยู่แล้ว ให้มามากพอใช้เหลือเกิน ทำไมยังต้องไปลงทะเบียนอีก เข้าบัญชีโดยตรงเลยไม่ได้หรือไงกันครับ น้องเขาได้นอนพักที่บ้าน คนเดินทางได้มีแค่แม่เขา ได้คล่องตัวหน่อย เห็นว่าส่วนมากที่เห็นคนแก่ แต่ต่อคิวยาวออกพ้นตึกมายืนกลางแดดกันเยอะแยะ คือยิ่งคนแก่ ก็ได้เบี้ยสูงอายุ คุณก็โอนเงินเข้าบัญชีให้เขาเช่นกัน ทำไมต้องให้ไปลงทะเบียนโน่นนี่กันอยู่ ทำไมหรือ? โอนให้โดยตรงไม่ได้ เจ้าตัวต้องไปเองอีก จะทั้งผู้สูงอายุ หรือผู้พิการ เห็นเพื่อนผมที่อยู่ต่างประเทศ เขายิงเข้าบัญชีโดยตรงเลยจบ ไม่ต้องมาต่อคิวรอ ไหนว่าให้อยู่ห่างกันห้ามอยู่ใกล้กันเพื่อป้องกันเชื้อโควิทไงครับ นี่ไปกองอยู่ ถ้าจะมาอ้างว่าต้องยืนยันเพื่อป้องกันการสวมรอย ครับคนพิการนี่คนที่ดูแล หรือผู้ที่พิการเองต้องไปแจ้งทุกปี ว่ายังมีชีวิตอยู่ มันไม่ใช่ครับ ถ้าคิดจะช่วยเหลือกันจริงๆ คุณแค่เพิ่มวงเงิน แล้วยิงเข้าบัญชีโดยตรงก็จบแล้ว อีกอย่างคนพิการหรือผู้สูงอายุ เขาบังคับให้เปิดใช้บัญชีของ กรุงไทยอยู่แล้ว ทำไมยังต้องมีการไปยืนยันตัวตนอีก
แล้วในเคสที่ผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุที่ไปไหนลำบากล่ะ มีหรือจะบริการถึงบ้าน เอาแค่อยากขอรถวีลแชร์สักคัน ยังต้องดิ้นรนไปกันเอง ต่างประเทศเขามาหาถึงบ้าน มีเจ้าหน้าที่อนามัยมาดูแลทุกหกเดือน ก็ครับบ้านเรา บางครั้งอนามัยใกล้บ้าน ยังปิดเลย ทำไมรึครับ เพียงแค่ไม่มีสมาร์ทโฟน ต้องลำบากกันขนาดนี้เชียวหรือ? นี่หรือครับช่วยประชาชน
ผมเองก็รู้ตัวเองว่าไม่ใช่คนดีศรีสยาม (ขอสาปส่งเลย กับคนที่คิดโครงการ ได้แค่คิดแต่ไม่เตรียมแผนประสานงาน ปล่อยให้ประชานชนต้องดิ้นรนเอง อย่างว่าครับ สบายไม่ได้มาสัมผัสด้วยตัวเองโดยตรง มีกินมีใช้กันทั้งนั้นไอ้คนที่คิดนี่) ผมยอมรับว่าอย่างน้อยก็ยังดีที่คิดช่วย แต่ถ้าช่วยแบบห่วยๆ ขอไปที บางทีก็ไม่ไหวนะครับ ก็ครับ ถ้าไม่พิการเอง คงไม่รู้สึกหรอก เห็นข่าวอยู่วันนี้ มีป้าร้องไห้ นักข่าวค่อยๆ ถามแกมปลอบ ประโยคเด็ดก็นะ "เจ้าหน้าที่ไล่เหมือนหมูหมา" เนื่องจากสายตาแกไม่ดีเท่าไหร่ ถามมากโดนตะคอกใส่ ครับ เคยได้ยินจากเพื่อนเมื่อไม่นานมานี้ มันนั่งคุยเรื่องการเมือง มันก็บอกมีสส.เคยบอกว่าจะซื้อสมาร์ทโฟนให้คนจนเข้าถึงเพราะสมาร์ทโฟนราคาถูกเรื่อยๆ พูดในสภาอยู่ มันว่ามางี้ ผมยังย้อนเลย แจกจริงก็ดีแต่ค่าเน็ตล่ะครับ ให้เป็นแพ็กเก็ตมาด้วยเผื่อใช้แบบฟรีมั่งเปล่า เผื่อได้ขอมามั่ง ก็คุยกันปกติ สรุป เอ้าพูดอย่างเดียวนี่หว่า ส่วนตัวน่ะผมรู้อยู่แล้ว ไม่มีทางหรอก เมืองนอกอย่างพวกโฮมเลส (ไร้ที่อยู่อาศัย) ยังแก้กันไม่ได้เลย แล้วนี่ล่ะเป็นไง ทุกคนในประเทศมีรายชื่อ และบัญชีธนาคารกันทั้งนั้น จะอ้างว่าต้องผ่านธนาคารใดธนาคารเดียวคงไม่ได้ เพราะประชาชนทุกคนมีรายชื่อในกระทรวงอยู่แล้ว
ทำไมต้องทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก แล้วลองมองมุมกลับดูบ้าง ลองแค่สมมุติว่าตัวเองต้องมาอยู่ในสภาพนี้บ้าง จะทำอย่างไร? ไอ้คนที่คิดนโยบายเนี่ย แอปเป๋าตังค์ บัตรสวัสดิการ สภาพ ณ ตอนนี้ทุกคนอยากได้เป็นเงินสดทั้งนั้น เพื่อจ่ายค่าครองชีพอย่างอื่นร่วมด้วยครับ บัตรสวัสดการ เอาไปซื้อของได้แค่ร้านค้าที่ร่วมกับนายทุนล้วนๆ ประชาชนเขาก็มองออก แต่บางคนก็จำเป็นต้องมีจริงๆ เพื่อลดรายจ่ายค่าของใช้ในครัวเรือน น้ำมัน ซอส น้ำปลา แต่ครับ ตอนนี้คนเป็นหนี้เพิ่ม รายรับแทบไม่มี มีแต่รายจ่าย คนอยากได้เงินมาเพื่อประคองชีพ ในช่วงเวลานี้ครับ
ขอจบการบ่นก่อนครับ บางคนอาจคิดว่าคนพิการแบบผมไม่ได้เสียภาษีเลย ผมเองก็ขอบอกไว้ก่อนเลยครับว่าเสีย เสียไปกับค่าของใช้คนพิการนี่ล่ะ และราคาไม่ใช่ถูกๆ เลยครับ สูงกว่าต่างประเทศด้วยซ้ำ อย่าลืมครับว่าเราจ่ายเงินซื้อของต่างๆ เอาแต่เซเว่น อย่าลืมค่า Vat 7% ที่รวมในราคาของสินค้าที่ซื้อด้วยครับผม ยังไงก็ต้องเสียซื้ออยู่ดี คนธรรมดา ถ้าเงินถึงที่ระบุ ก็เสียภาษีเงินได้ร่วมด้วย แล้วของที่ซื้อๆ กัน เอาแค่สบู่ ยาสระผม ครับ อย่าลืมค่า Vat 7% ที่หลีกหนีไม่จ่ายไม่ได้ครับผม ต่อให้เป็นร้านของชำก็เหอะ รวมแล้วไม่ได้น้อยๆ เลยนะครับผม ลองไปคิดเล่นๆ ดูก็ได้ ว่าเฉพาะส่วนตัวเราคนเดียว เราลองหักราคาของใช้เราเองคนเดียวดู แล้วลองคูณเล่นๆ กับจำนวนประชากรดู เยอะนา ขอบอก
ขอบคุณที่เข้ามารับชมการบ่นครับ รอบนี้ ขอโทษด้วยครับถ้าใช้คำไม่สุภาพ มันหงุดหงิดแทนจริงๆ ครับผม
โฆษณา